เวหา แสนชนชนะศึก นักเคลื่อนไหวทางการเมืองม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อคืนวานนี้ (13 เม.ย.) เรียกร้อง ผบ.ตร.รับรองความปลอดภัย ให้ "จิรภพ" บิ๊กสอบสวนกลางสอบสวนเท่านั้น ประกาศขอปฏิเสธการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล จะไปนอนพักรักษาอาการที่โถงอาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางคืนนี้
วันนี้ (14 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายเวหา แสนชนชนะศึก อายุ 39 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมืองม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดีตามมาตรา 112 ถูกทำร้ายร่างกายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 20.25 น. ของวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางบัวทอง โดยเจ้าตัวได้เฟซบุ๊กไลฟ์ผ่านโปรไฟล์ที่ชื่อว่า Wayha Sky ขณะที่เจ้าตัวกำลังเดินอยู่บนถนนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปรากฏว่ามีชายสวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีขาว กางเกงยีนส์ เดินเข้ามาที่นายเวหา ก่อนจะใช้ของแข็งตีเข้าไปที่นายเวหา 3-4 ครั้ง ก่อนที่ภาพจะถูกตัดไป
ต่อมานายเวหาโพสต์ข้อความระบุว่า อัปเดตอาการล่าสุดจากเหตุการณ์ถูกลอบทำร้าย แขนซ้ายหัก กระดูกแตก เนื่องจากใช้แขนป้องกันคนร้ายที่ประสงค์จะฟาดบริเวณศีรษะ แพทย์รักษาโดยการใส่เฝือก และส่งตัวไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์เพื่อรักษากระดูกต่อไป ขณะเดียวกันยังมีบาดแผลบริเวณหน้าแข้งด้านซ้าย คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากถูกฟาดด้วยท่อนเหล็กหลังจากที่ล้มลงแล้ว แพทย์รักษาด้วยการทำแผล โดยไม่ได้เย็บแผลเนื่องจากลักษณะของบาดแผลไม่สามารถเย็บได้ อีกทั้งพบรอยฟกช้ำหลายจุด บริเวณต้นแขน ขา หน้าท้อง และบริเวณหลัง
นายเวหาเล่าว่า ขณะที่เดินออกจากบ้านไปบริเวณหน้าซอย พบเห็นชายประมาณ 2-3 คนจอดรถจักรยานยนต์รออยู่ โดยทราบจากเพื่อนบ้านว่าบุคคลดังกล่าวได้มารออยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ช่วงบ่าย ตนเดินออกไปพร้อมกับนักกิจกรรมที่มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อออกไปซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้าน ขณะเดินทางกลับ พบว่าชายกลุ่มดังกล่าวได้หายตัวไป เหลือเพียงรถจักรยานยนต์ ตอนนั้นนักกิจกรรมที่เดินมาด้วย รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงบอกให้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กไว้ ยังไม่ทันไร ชายสองคนได้ออกมาจากพุ่มไม้ ถือไม้เหล็กยาวลักษณะคล้ายไม้เบสบอล เดินมาจากทางด้านหลัง และฟาดมาที่บริเวณศีรษะ ลำตัว จนโทรศัพท์มือถือได้หล่นลงกับพื้น และภาพไลฟ์สดก็ดับลง แต่คนร้ายยังฟาดด้วยท่อนเหล็กต่อไปจนล้มลง
ชายทั้งสองคนได้หลบหนีไปโดยขับขี่รถจักรยานยนต์ และมีรถยนต์อีกคันที่จอดอยู่ขับตามออกไปด้วย หลังจากนั้นตนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ เนื่องจากอาการ PTSD (โรคเครียดภายหลังเผชิญเหตุการณ์สะทือนขวัญ) ซึ่งเป็นโรคประจำตัวกำเริบ นักกิจกรรมได้วิ่งไปตามเพื่อนอีกสองคนซึ่งอยู่ในบ้านออกมา และเพื่อนบ้านในชุมชนได้เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเรียกศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 1669 กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในท้องที่เกิดเหตุ
นายเวหาตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใด แม้ว่าจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพิษณุโลก ก็มีสายสืบนั่งรถติดตามไปด้วยทุกย่างก้าว ส่วนในบ้านพักอาศัย ได้มีตำรวจสายสืบเฝ้าหน้าบ้านตลอดเวลา ทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะวันที่ 6 เม.ย. ได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ทั้งหมู่บ้าน และได้เข้าไปพูดคุยถามข้อมูลเกี่ยวกับตนและนักกิจกรรมกับเพื่อนบ้านหลายครัวเรือน วันเดียวกัน ได้มีกลุ่มบุคคลประมาณ 10 กว่าคน อ้างว่าเป็น “ลูกพระเจ้าตาก” มาคุกคามและข่มขู่ที่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาเฝ้าติดตามอยู่นั้น ไม่มีการระงับเหตุ หรือกระทำการใดๆ เพียงเฝ้าติดตามและถ่ายรูปอยู่ห่างๆ เท่านั้น
และในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้อยู่บริเวณนั้น ก็มิได้เข้ามาระงับเหตุแต่อย่างใด อีกทั้งเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างบอกว่าตำรวจนอกเครื่องแบบเหล่านั้นได้มีการโทรศัพท์ และถ่ายรูปอยู่ มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งได้เข้าไปเพื่อจะพูดคุย ตำรวจนอกเครื่องแบบเหล่านั้นได้วิ่งหนีและขึ้นรถขับออกไป บางคนขึ้นรถไม่ทันก็เรียกแท็กซี่ตามกันออกไป ต่อมามีสายตรวจ 2 นายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในจุดเกิดเหตุ แต่ไม่มีการช่วยเหลือหรือรับแจ้งเหตุ โดยอ้างว่าตนเป็นเพียงสายตรวจ หากจะแจ้งความต้องไปแจ้งร้อยเวรที่สถานีตำรวจ ขณะที่อยู่โรงพยาบาล มีตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 5 นาย ซึ่งแสดงตนว่าเป็นสายสืบท้องที่ สภ.บางบัวทอง เข้ามาสอบถามอาการ และโทรศัพท์รายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมทั้งถ่ายรูปบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย เบื้องต้นตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาที่โรงพยาบาลยังไม่ได้รับแจ้งความ โดยบอกให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตามขั้นตอน พวกเขามาตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเพื่อมาติดตามอาการเท่านั้น
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเวหาโพสต์ข้อความระบุว่า ขอปฏิเสธการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และจะไปนอนพักรักษาอาการที่โถงอาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จนกว่าองค์กรตำรวจจะทำตามข้อเรียกร้องทั้งหมด ได้แก่ 1. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีคำสั่งรับรองความปลอดภัยแก่นักกิจกรรมและผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองทุกคน 2. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะต้องเป็นผู้อำนวยการสอบสวนในคดีนี้เท่านั้น 3. เร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวน จับกุมผู้กระทำความผิด กรณีเหตุที่มีการคุกคามและทำร้ายนักกิจกรรมทุกกรณีให้เสร็จสิ้นและแถลงต่อสาธารณชน
4. เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าตำรวจอยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว ดังที่ข้าพเจ้าจะแถลงให้สาธารณชนทราบ องค์กรตำรวจจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บ ภายหลังจากข้อเรียกร้องบรรลุผล โดยข้าพเจ้าขอแสดงความจำนงที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยเท่านั้น ทั้งนี้ หากข้อเรียกร้องตามข้อ 1 ถึง 3 ไม่บรรลุผลภายในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ ข้าพเจ้าจะไปนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บที่บริเวณโถงอาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.29 น. นายเวหาโพสต์ข้อความระบุว่า "ตำรวจที่จะเข้ามาบ้านผม กรุณาสวมเครื่องแบบและแสดงตนด้วยครับ ตอนนี้ผมแยกไม่ออกว่าตัวไหนตำรวจตัวไหนโจร และตอนนี้ไม่สามารถออกไปพบ และพูดคุยได้ เนื่องจากเจ็บร้าวระบมทั้งตัว เดินไม่ได้ครับ"


