xs
xsm
sm
md
lg

ว่าที่เลขาฯ กสทช.ละเลงงบ “กองทุน USO” 1.8 พันล้าน จ้างฝึกอบรมไอทีพื้นที่ชายขอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ว่าที่เลขาฯ กสทช. “ทิ้งทวน” ละเลงงบ “กองทุนสามล้อถูกหวย USO” 1.8 พันล้านจ้างฝึกอบรมไอทีพื้นที่ชายขอบ ด้านวงในแฉยับไม่พ้นเลี้ยงกาแฟ-อบรมทิพย์ ปิดจ็อบเอื้อกลุ่มทุนการเมือง

กสทช.ฉาวไม่เลิก คราวนี้คิว “ว่าที่เลขาฯ กสทช.” ทิ้งทวน-ละเลงงบกองทุนสามล้อถูกหวย USO จ้างบริษัทเกณฑ์คนชายขอบมาอบรมความรู้ไอทีในยุคดิจิทัล 5 ภูมิภาควงเงินร่วม 1.8 พันล้าน สุดอึ้ง! แม้แต่บริษัทค้าคอมพ์-ขายซอฟต์แวร์เกมยังได้งานประมูล วงในจับตาฝึกอบรมฉาบฉวย-อบรมทิพย์ ไร้ประสิทธิภาพในสามโลก

ทำเอาแวดวงสื่อสารโทรคมนาคมได้แต่ “อึ้งกิมกี่” กับผลงานอื้อฉาวล่าสุดของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคา “โครงการพัฒนาทักษะสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัลใน 5 ภูมิภาคภายใต้ภารกิจบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (กองทุน USO) หรือโครงการจ้างอบรม IT คนชายขอบวงเงินรวม 1,796.42 ล้านบาท

ประกอบด้วย โซนที่ 1 (ภาคเหนือ) ผู้ชนะการประกวดราคาคือกิจการค้าร่วม TK-Chill (ทีเคชิล) โดยเสนอราคาเป็นเงินทั้งสิ้น 496.16 ล้านบาท, โซนที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน) ผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด โดยเสนอราคา 345.04 ล้านบาท, โซนที่ 3 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง) ผู้ชนะประมูลคือ กิจการค้าร่วม GT (จีที) โดยเสนอราคาเป็นเงินทั้งสิ้น 345.05 ล้านบาท
โซนที่ 4 (ภาคกลางและภาคตะวันออก) ผู้ชนะประกวดราคาได้แก่บริษัทอินโฟ ซิสเต็ม จำกัด เป็นเงินทั้งสิ้น 316.96 ล้านบาท และโซนที่ 5 (ภาคใต้) ผู้ชนะการเสนอราคาคือ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เป็นเงินทั้งสิ้น 293.21 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาทักษะสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล ในภารกิจบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมทั้ง 5 ภูมิภาคดังกล่าว กำหนดให้ผู้รับจ้างดำเนินการอบรมกลุ่มเป้าหมาย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายขอบและพื้นที่ห่างไกลเทคโนโลยี ขาดทักษะและความคุ้นเคยในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อพัฒนาทักษะสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล โดยกำหนดเป้าหมายการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ชายขอบไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่รายงานการสืบค้นผู้ชนะประมูลโครงการนี้จากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่าผู้ชนะประมูลจำนวน 3 รายอันประกอบด้วย บริษัทบลู โซลูชั่น จำกัด ได้แจ้งประเภทลักษณะธุรกิจเอาไว้เป็นการประกอบกิจการคอมพิวเตอร์ รวมทั้งอุปกรณ์และอะไหล่

ขณะบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITL แจ้งประเภทธุรกิจเป็นกิจการโทรคมนาคมแบบใช้สายอื่นๆ ซึ่งไม่ได้จัดประเภทไว้ และแจ้งลักษณะธุรกิจล่าสุดให้บริการโทรคมนาคม โดยลงทุนก่อสร้างเคเบิลใยแก้วนำแสงทั่วประเทศ ส่วนบริษัท อินโฟซิสเต็ม จำกัด แจ้งประเภทธุรกิจล่าสุด คือร้านขายปลีกเครื่องเล่นวิดีโอเกมและซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ส่วนอีก 2 บริษัท คือ กิจการร่วมค้า TK-Chill และกิจการร่วมค้า GT นั้นไม่ได้แจ้งประเภทธุรกิจใดๆ เอาไว้

แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมได้ตั้งข้อสังเกตถึงการเร่งรัดดำเนินโครงการนี้ ที่อ้างว่าเป็นโครงการเดิมที่ได้รับอนุมัติจาก “คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ” (บอร์ด กทปส.) ตั้งแต่ปี 65 โดยใช้เงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือกองทุน USO แต่เพิ่งมาอนุมัติเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ก่อนที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช.ที่ทำหน้าที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.จะยื่นใบลาออกเพื่อสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กสทช.ในวันรุ่งขึ้น ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นรายการ “ทิ้งทวน” เพื่อสนองกลุ่มทุนสื่อสารและทุนการเมืองเพื่อหวังผลบางประการ

ทั้งนี้ มีรายงานว่าบริษัทเอกชนที่ชนะประมูลโครงการนี้ล้วนมีความใกล้ชิดกับกลุ่มทุนการเมืองในรัฐบาลชุดนี้ โดยแต่ละรายที่ชนะประมูลโครงการในแต่ละโซน ต้องเจียด “งบสนับสนุนพิเศษ” ให้แก่พรรคการเมืองใหญ่ถึงโซนละร่วม 100 ล้านบาท ผ่านกระบวนการจัดสรรผลประโยชน์ที่มีผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กสทช.แห่งนี้เป็นผู้ดำเนินการ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าที่ผ่านมาผู้บริหารรายนี้มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ จนถึงขั้นที่สามารถยืมเพื่อขอใช้กลไกของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและมือกฎหมายของรัฐ ให้เข้ามา “ผ่าทางตัน” เส้นทางการควบรวมกิจการของยักษ์สื่อสารโทรคมนาคมอย่างบริษัททรู-และดีแทค ก่อนหน้านี้ได้

“แม้จะต้องจัดงบพิเศษดูแลพรรคการเมืองเป็น 100 ล้าน แต่ก็ยังมีกำไร เพราะโครงการฝึกอบรมในลักษณะนี้แทบจะไม่มีใบเสร็จ และไม่สามารถจะตรวจสอบ หรือวัดผลสำเร็จหรือล้มเหลวของโครงการได้ ไม่ต่างจากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่งตรวจสอบพบการฝึกอบรมทิพย์ไปเมื่อเร็วๆ นี้”










กำลังโหลดความคิดเห็น