xs
xsm
sm
md
lg

๗ ราชวงศ์ ๘ มหาราช ปกครองราชอาณาจักรไทย! ราชวงศ์จักรียาวนานที่สุด ๔ มหาราช!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โรม บุนนาค



ประเทศไทยเราถือกันว่า เริ่มขึ้นเมื่อ พ่อขุนอินทรทิตย์ ขึ้นครองราชย์พร้อมกับสถาปนากรุงสุโขทัยขึ้นเป็นราชธานีใน พ.ศ. ๑๘๐๐ เป็นปฐมกษัตริย์ของ “ราชวงศ์พระร่วง” ก็มีกษัตริย์ปกครองต่อมารวม ๙ พระองค์ จนถึงสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๔ (บรมปาล) ซึ่งสวรรคตใน พ.ศ. ๑๙๘๑ ได้ถูกรวมเข้ากับกรุงศรีอยุธยาอย่างนิ่มนวล โดยพระเจ้าสามพระยา กษัตริย์พระองค์ที่ ๗ ของกรุงศรีอยุธยา ทรงส่งพระราเมศวร พระราชโอรสขณะมีพระชนม์ ๗ พรรษา ประสูติจากเจ้าหญิงในราชวงศ์พระร่วง ขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลกซึ่งเป็นศูนย์การปกครองของอาณาจักรสุโขทัยในสมัยนั้น และเมื่อเจ้าสามพระยาสวรรคตในอีก ๑๐ ปีต่อมา พระราเมศวรก็ขึ้นครองราชย์บัลลังก์กรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระองค์จึงครองราชบัลลังก์ทั้งกรุงศรีอยุธยาและกรุงสุโขทัย แต่เพื่อให้บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น พระองค์จึงประทับว่าราชการอยู่ที่เมืองพิษณุโลกตลอดรัชกาล ทรงครองราชย์ถึง ๔๐ ปี ยาวนานกว่ากษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยาทุกพระองค์ ทำให้กรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน
ราชวงศ์พระร่วงมีมหาราช ๑ พระองค์ คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งเป็นมหาราชพระองค์แรกของชาติไทย ทรงรวบรวมอาณาจักร์ไทยเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง และทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น จารึกเรื่องราวในยุคนั้นไว้ในหลักศิลา ทำให้สืบทอดศิลปะวัฒนธรรมและวิชาการมาจนถึงปัจจุบัน

ราชวงศ์แรกของกรุงศรีอยุธยาก็คือ “ราชวงศ์อู่ทอง” พระเจ้าอู่ทองเป็นปฐมกษัตริย์ พร้อมกับสถาปนาสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเป็นราชธานีใน พ.ศ. ๑๘๙๓ หลังกรุงสุโขทัย ๙๓ ปี แต่มีกษัตริย์เพียง ๓ พระองค์เท่านั้นในราชวงศ์นี้ และผู้ที่ทำให้ราชวงศ์อู่ทองสิ้นสุดลงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นญาติฝ่ายมเหสีของพระเจ้าอู่ทองนั่นเอง ทั้งนี้เมื่อพระเจ้าอู่ทองสวรรคต พระราเมศวร พระราชโอรสพระชนมายุ ๒๘ พรรษาขึ้นครองราชย์ แต่ประทับราชบัลลังก์ได้ไม่ถึงปี ขุนหลวงพะงั่ว พระอนุชาของพระมเหสีพระเจ้าอู่ทองซึ่งครองเมืองสุพรรณบุรี ก็ยกทัพมากรุงศรีอยุธยา พระราเมศวรทรงรู้ฝีพระหัตถ์ของพระมาตุลาดีจึงออกไปต้อนรับ อัญเชิญให้ขึ้นครองราชย์แต่โดยดี ส่วนพระองค์กลับไปครองเมืองลพบุรีตามเดิม

ขุนหลวงพะงั่วขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ ๓ ของกรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ทรงครองราชย์อยู่ ๑๘ ปี เสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๑๙๓๑ สมเด็จพระเจ้าทองลัน ราชโอรสพระชนมายุ ๑๔ พรรษาขึ้นเป็นยุวกษัตริย์ แต่ครองราชย์ได้ ๗ วัน พระราเมศวรก็ยกพลจากเมืองลพบุรีมายึดราชบัลลังก์ สำเร็จโทษพระเจ้าทองลัน ณ วัดโคกพระยา ขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่ ๒

พระราเมศวรครองราชย์ได้อีก ๗ ปี สวรรคตใน พ.ศ. ๑๙๓๘ สมเด็จพระเจ้ารามราชา พระราชโอรสพระชนมายุ ๒๑ พรรษาสืบราชสมบัติต่อ จนถึง พ.ศ. ๑๙๕๒ ได้เกิดเรื่องทรงพิโรธเจ้าเสนาบดีรับสั่งให้จับ แต่เจ้าเสนาบดีหนีไปอยู่ฟากปทาคูจาม นอกเกาะกรุงศรีอยุธยาบริเวณวัดพุทไธศวรรย์ แล้วกราบทูลไปยังเจ้านครอินทร์ ผู้ครองเมืองสุพรรณบุรี ว่าจะยึดกรุงศรีอยุธยาถวาย เมื่อเจ้านครอินทร์เสด็จมา เจ้าเสนาบดีก็นำกำลังเข้ายึดกรุงศรีอยุธยา จับสมเด็จพระรามราชาสำเร็จโทษ บ้างก็ว่าให้ไปอยู่ที่ปทาคูจาม แล้วอัญเชิญเจ้านครอินทร์ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ ๖ ของกรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระอินทราชา เป็นการกลับมาของราชวงศ์สุพรรณภูมิอีกครั้ง และปิดฉากราชวงศ์อู่ทอง

ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ซึ่งเริ่มจากขุนหลวงพะงั่ว เป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วยกษัตริย์ถึง ๑๓ พระองค์ ครองราชย์รวมกันยาวนานที่สุดของกรุงศรีอยุธยาถึง ๑๗๘ ปี กษัตริย์ของราชวงศ์นี้ซึ่งมีบทบาทในประวัติอยู่มากก็เช่น พระเจ้าสามพระยา ราชโอรสของสมเด็จพระอินทราชา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชโอรสของเจ้าสามพระยา สมเด็จพระไชยราชาธิราชพระสวามีของนางพญาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ และสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระเจ้าช้างเผือก และพระสวามีของพระสุริโยทัย จนสิ้นสุดที่สมเด็จพระมหินทราธิราช ซึ่งเสียกรุงครั้งแรกแก่พระเจ้าบุเรงนองใน พ.ศ.๒๑๑๒

ราชวงศ์สุโขทัย ต้นราชวงศ์นี้ก็คือ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ซึ่งเดิมเป็นขุนนางปลายแถว คือ ขุนพิเรนทรเทพ มีบทบาทสำคัญในการกำจัด ขุนวรวงศาและเจ้าแม่อยู่หัวศรีสดาจันทร์ แล้วอัญเชิญพระเทียรราชาซึ่งทรงผนวชอยู่ ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งได้โปรดเกล้าฯให้ขุนพิเรนทรเทพขึ้นเป็น พระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า ครองเมืองพิษณุโลก พร้อมพระราชทานพระราชธิดาให้เป็นมเหสี

หลังจากเสียกรุงครั้งที่ ๑ พระเจ้าบุเรงนองได้สถาปนาสมเด็จพระมหาธรรมราชาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา เป็นต้นราชวงศ์สุโขทัย เหตุที่ถือว่าเป็นราชวงศ์สุโขทัยก็เนื่องจากสืบสาวเชื้อสายแล้ว ปรากฏว่าสืบไปถึงราชวงศ์พระร่วง

กษัตริย์ในราชวงศ์นี้มี ๗ พระองค์ คือ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ พระศรีเสาวภาคย์ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม สมเด็จพระเชษฐาธิราช และพระอาทิตยวงศ์ ครองราชย์ติดต่อกัน ๖๑ ปี

ในราชวงศ์นี้ได้เกิดมหาราชพระองค์แรกของกรุงศรีอยุธยา คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งตลอดระยะเวลา ๑๕ ปีในรัชกาลทรงอุทิศพระชนมชีพเพื่อความมั่นคงให้ราชอาณาจักรไทย จนแทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนพระองค์เลย กรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยของพระองค์จึงเป็นที่มั่นใจของพ่อค้าวาณิชที่จะเข้ามาค้าขายว่าปลอดภัยและสงบสุข ในรัชสมัยของพระองค์ กรุงศรีอยุธยาจึงฟื้นกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองอีกทั้ง มีผู้คนเข้ามาพึ่งพระบรมสมภารมากมาย

ราชวงศ์ปราสาททอง ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์นี้ก็คือ พระเจ้าปราสาททอง เป็นที่รู้กันว่าเป็นโอรสลับของสมเด็จพระเอกาทศรถกับสาวชาวบ้านบางปะอิน พระราชบิดาทรงรับไปเลี้ยงดูในกรุงศรีอยุธยา โดยมอบให้พระยาศรีธรรมมาธิราช เป็นผู้ดูแลในฐานะบิดาเลี้ยง แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าแท้ที่จริงแล้วเด็กชายผู้นี้เป็นใคร จึงเรียกกันว่า “พระองค์ไล” ครั้นพระองค์ไลเติบโตขึ้น ก็โปรดให้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก และได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อายุ ๑๔ ได้เป็นมหาดเล็กหุ้มแพร พออายุ ๑๗ ได้เป็น จมื่นศรีสรรักษ์ ตำแหน่งหัวหมื่นมหาดเล็ก

ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ราชโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถ ขณะพระองค์ไลเป็นพระยามหาอำมาตย์ เหตุการณ์ก็สร้างวีรบุรุษขึ้น เมื่อพ่อค้าญี่ปุ่น ๕๐๐ คนเปิดตัวว่าเป็นซามูไร บุกวังหลวงเข้าจับกุมพระเจ้าแผ่นดินเนื่องจากไม่พอใจเรื่องการค้า พระยามหาอำมาตย์ได้ร่วมกับสหายชาวเปอร์เซียนำกำลังเข้าขัดขวาง ไล่ซามูไรญี่ปุ่นลงสำเภาหนีไป สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงตอบแทนความดีความชอบโปรดเกล้าฯพระยามหาอำมาตย์ขึ้นเป็น เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ คุมกำลังทหารโดยเด็ดขาด

เมื่อพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต เจ้าพระยากลาโหมที่ชอบเล่นเป็นพระเจ้าแผ่นดินมาแต่เด็กก็ยังไม่ผลีผลาม อัญเชิญพระเชษฐาธิราช พระราชโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าทรงธรรม พระชนมายุ ๑๕ พรรษาขึ้นครองราชย์ แต่ครองราชย์บัลลังก์ได้ ๑ ปี ๗ เดือน เจ้าพระยากลาโหมจัดงานศพมารดา มีขุนนางข้าราชการไปกันแน่นวัด จนท้องพระโรงไม่มีใครมาประชุม มีผู้เพ็ดทูลพระเชษฐาว่าเจ้าพระยากลาโหมคิดกบฏ พระเชษฐาหลงเชื่อสั่งทหารขึ้นป้อมล้อมวัง แล้วส่งคนไปเรียกเจ้าพระยากลาโหมมาเฝ้า เจ้าพระยากลาโหมเลยได้โอกาส ยกกำลังจากงานศพมาจับพระเชษฐาสำเร็จโทษ

แม้จะมีโอกาสอีกครั้ง แต่เจ้าพระยากลาโหมก็ยังไม่รีบร้อนอยู่ดี อัญเชิญพระอาทิตย์วงศ์ พระราชโอรสพระเจ้าทรงธรรมอีกองค์ พระชนมายุแค่ ๙ พรรษาขึ้นครองราชย์ สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ยังเล่นเหมือนเด็กทั่วไป เจ้าพนักงานต้องคอยนำเครื่องทรงและเครื่องเสวยตามเสด็จ เพียง ๖ เดือนขุนนางข้าราชการจึงร้องขอให้ถอดสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ออกจากราชสมบัติ อัญเชิญเจ้าพระยากลาโหมขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้าปราสาททอง เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์สุโขทัย

ราชวงศ์ปราสาททองมีพระมหากษัตริย์ ๔ พระองค์คือ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ครองราชย์เป็นเวลา ๒๕ ปี สมเด็จเจ้าฟ้าไชย พระราชโอรสพระเจ้าปราสาททอง ครองราชย์ต่อได้เพียง ๙ เดือนก็ถูกพระนารายณ์ พระอนุชาต่างมารดา ร่วมกับพระศรีสุธรรมราชา พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองชิงราชสมบัติจับสำเร็จโทษ สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา ขึ้นครองราชย์ได้เพียง ๒ เดือน ๒๐ วัน ก็ถูกพระนารายณ์ชิงราชสมบัติและสำเร็จโทษ พระนารายณ์ขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนารายณ์ ครองราชย์อยู่ ๓๒ ปี ได้รับการถวามพระราชสมัญญาว่า มหาราช พระองค์ที่ ๒ ของกรุงศรีอยุธยา

ในช่วงสมัยของราชวงศ์ปราสาททอง ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงเป็นกษัตริย์ที่เข้มแข็งเด็ดขาด และดูจะโหดด้วย ในรัชสมัยของพระองค์บ้านเมืองจึงสงบราบคาบ แม้อริราชศัตรูก็เกรงขาม ไม่กล้าเข้ามาระราน ส่วนในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงดำเนินนโยบายล้ำหน้ากษัตริย์ในภาคพื้นตะวันออก ด้วยการส่งคณะทูตของโกษาปานไปถึงราชสำนักยุโรป ทรงคบฝรั่งเศสเพื่อคานอำนาจฮอลันดา แต่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ทหารฝรั่งเศสที่ส่งมาช่วยคุ้มครองได้รับคำสั่งลับให้ยึดกรุงธนบุรีและตะนาวศรีเป็นเมืองท่าให้ได้ ส่วนคณะบาทหลวงก็รับหน้าที่เปลี่ยนศาสนาพระเจ้ากรุงสยามให้เข้ารีต แต่พระองค์ก็ทรงนำชาติรอดปลอดภัยมาได้ด้วยพระอัจฉริยภาพ
 
ส่วนเรื่องการรบ แม้พระองค์จะมีพระวรกายเล็ก และไม่ห้าวหาญเหมือนพระราชบิดา แต่ในสงครามไทยพม่า ซึ่งพม่าเป็นฝ่ายรุกรานทุกครั้ง มีแค่ ๒ รัชกาลเท่านั้นที่กองทัพไทยบุกไปตีเมืองพม่าเป็นการตอบแทน ก็คือในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเท่านั้น

ราชวงศ์บ้านพลูหลวง เป็นราชวงศ์ที่ ๕ และราชวงศ์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา บ้านพลูหลวง เป็นหมู่บ้านหนึ่งในแขวงเมืองสุพรรณบุรี ปัจจุบันคือบ้านพลูหลวง ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นถิ่นกำเนิดของสมเด็จพระเพทราชา ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์นี้ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้ากรมคชบาล และมีพระขนิษฐาเป็นพระสนมของสมเด็จพระนารายณ์ คือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ (แจ่ม) มีกษัตริย์รวม ๖ พระองค์ ครองราชย์รวมกัน ๗๙ ปี คือ สมเด็จพระเพทราชา สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี หรือพระเจ้าเสือ สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร และสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ หรือพระเจ้าเอกทัศน์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาที่เสียเมืองอย่างย่อยยับ

เมื่อพระเพทราชากับขุนหลวงสรศักดิ์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งความจริงเป็นโอรสลับของสมเด็จพระนารายณ์ ร่วมกันชิงราชสมบัติเมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประชวรหนัก กรุงศรีอยุธยาก็อ่อนแอลง นอกจากสองพ่อลูกจะโหดอำมหิตแล้ว ทายาทต่อๆมายังแย่งชิงราชสมบัติกันเอง บ้านเมืองแตกเป็นฝักเป็นฝ่าย ต่างก็อยากมีอำนาจโดยไม่ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง นอกจากจะสิ้นราชวงศ์แล้วยังทำให้กรุงศรีอยุธยาย่อยยับจนไม่สามารถฟื้นกลับคืนมาได้

ราชวงศ์ธนบุรี หลังจากที่พระเจ้าตากสินทรงกู้ชาติและสถาปนาเมืองหลวงใหม่ขึ้นในขณะที่ประชาชนต้องอดอยากถึงขั้นไม่มีข้าวจะกิน จึงเป็นพระราชภาระของพระองค์ที่ต้องกู้ทั้งชาติและความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดระยะเวลา ๑๕ ปีในรัชกาล พระองค์ต้องทำสงครามและแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ก็หมายถึงการล่มสลายของชาติอีกครั้ง แรงกดดันเหล่านี้ทำให้ทรงเครียดหนัก ในปลายรัชกาลทรงมีพระอารมณ์แปรปรวนไปในทางเสียพระสติ ทำให้เกิดจลาจลขึ้นโดยพระยาสรรค์เป็นกบฏ บังคับให้พระองค์ทรงผนวช เมื่อมีผู้ส่งข่าวไปถึงสมเด็จเจ้าพระยากษัตริย์ศึกที่กำลังทำศึกอยู่กัมพูชา จึงได้รีบกลับมาปราบปรามการจลาจล และสืบสวนสาเหตุของความวุ่นวายแล้ว จึงสำเร็จโทษพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย เป็นการสิ้นสุดของราชวงศ์ธนบุรี

แต่อย่างไรก็ดี พระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้ประเทศขยายพระราชอาณาจักรออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ก็เป็นที่ยอมรับต่อมาทุกรัชกาล และได้รับการถวายพระราชสมัญญามหาราชในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

ราชวงศ์จักรี คือราชวงศ์ที่ปกครองประเทศไทยยาวนานที่สุดจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๒๔๑ ปีแล้ว ที่สำคัญคือทุกรัชกาลไม่มีการแย่งชิงราชสมบัติเหมือนในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทุกพระองค์ทั้ง ๑๐ รัชกาลทรงสละความสุขส่วนพระองค์มุ่งแต่ความมั่นคงผาสุกของประเทศและประชาชน ปฏิรูปสถานะของพระองค์เองตลอดมาให้เข้ากับยุคสมัย จากสมมติเทพ มาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประมุขของประเทศ ระบอบกษัตริย์ของประเทศไทยจึงดำรงอยู่ในจิตใจของประชาชนได้อย่างมั่นคง

เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงย้ายราชธานีจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา มาอยู่ฝั่งตะวันออกเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๕ สถาปนาขึ้นเป็นกรุงรัตนโกสินทร์ บัดนี้กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ ได้กลายเป็นมหานครที่ติดอันดับความสวยงาม มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และสงบผาสุกแห่งหนึ่งของโลก
กษัตริย์ในราชวงศ์จักรีได้รับการถวายพระราชสมัญญามหาราชถึง ๔ พระองค์ คือ รัชกาลที่ ๑ “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” รัชกาลที่ ๕ “สมเด็จพระปิยมหาราช” รัชกาลที่ ๙ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” และเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคมพ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการ ถวายพระราชสมัญญาแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า “พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช” และที่อุทยานราชภักดิ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อันเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของมหาราชชาติไทย ก็มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของ “พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช” ประดิษฐ์สถานอยู่ด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น