เปิดประวัติ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นักธุรกิจและนักการเมืองชาวไทย วัย 55 ปี หลังถูกหามส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา คาดเกิดจากอาการฮีตสโตรก
จากกรณีมีรายงานว่าช่วงค่ำที่ผ่านมาของวันที่ 30 มี.ค. นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือเอ๋ นักธุรกิจและนักการเมืองชาวไทย ถูกหามส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ โดยคาดการณ์สาเหตุเบื้องต้นจากอาการฮีตสโตรก
ต่อมามีรายงานว่านายชนม์สวัสดิ์ได้เสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เวลาตี 1 ที่ รพ.บุรีรัมย์ 09.00 น. จะนำร่างมาที่สมุทรปราการ
สำหรับ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" เกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2511 จบปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นลูกชายของ นายวัฒนา อัศวเหม นักการเมืองชื่อดังแห่งเมืองสมุทรปราการ ปัจจุบันนายชนม์สวัสดิ์ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และก่อนเข้าวงการการเมืองยังเป็นนักแข่งรถมาก่อนอีกด้วย สมรสกับนักร้องดัง "ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย" และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ "เพลง-ชนม์ธิดา อัศวเหม" ที่เพิ่งเปิดตัวเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยเป็นปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 5 ของพรรคภูมิใจไทย แม้จะสมรสกับ นันทิดา แต่เขาก็ยังมีข่าวความสัมพันธ์กับนักแสดงหญิงหลายคน เช่น ใหม่ เจริญปุระ เมทินี กิ่งโพยม ชลดา เมฆราตรี ยศวดี หัสดีวิจิตร และต่อมาเมื่อหย่าขาดจากนันทิดาแล้ว ก็ได้สมรสอีกครั้งกับ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แต่ก็ยังปรากฏภาพความสัมพันธ์ในครอบครัวของชนม์สวัสดิ์ นันทิดา และบุตรสาว รวมทั้งในปี 2563 เขายังสนับสนุนให้ นันทิดา แก้วบัวสาย ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย ในปี 2564 นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ลูกพี่ลูกน้องนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25
นายชนม์สวัสดิ์เคยเป็นนักแข่งรถชื่อดัง ก่อนจะหันมาจับงานทางการเมือง ตามรอยผู้เป็นพ่อ เริ่มจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ ก่อนที่จะลงเลือกตั้ง ได้รับเลือกเป็นนายกองค์การบริหารส่วน จ.สมุทรปราการเมื่อปี 2554 และยังได้รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาสโมสรสมุทรปราการเอฟซีอีกด้วย
นายชนม์สวัสดิ์เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคมหาชน เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2550 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในปี 2551 และในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 เขาให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ
นายชนม์สวัสดิ์เคยถูกจำคุกในคดีทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ ปี 2542 ซึ่งศาลฎีกาตัดสินเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาเขาได้รับการพระราชทานอภัยโทษตามมาตรา 8 (3) ขอพระราชทานอภัยโทษพระราชกฤษฎีพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งได้ลดวันต้องโทษ 1 ใน 4 ของโทษที่เหลือ เมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2559