xs
xsm
sm
md
lg

หมอแล็บเตือน! อย่าใช้ยาทาเล็บเคลือบฟัน เสี่ยงมะเร็ง-ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดังเตือนห้ามเอายาทาเล็บมาทาฟัน หลังพบช่างแต่งหน้าตามงานประกวดใช้ ชี้มีสารก่อมะเร็ง ทำให้ลูกพิการแต่กำเนิด

วันนี้ (16 มี.ค.) เพจ "หมอแล็บแพนด้า" หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความว่า "อย่าเอายาทาเล็บมาทาฟัน พี่ๆ ช่างแต่งหน้าตามงานประกวดบางคนยังชอบเอายาทาเล็บมาทาฟันอยู่อีก ฟันจะได้ขาววิ้งทันใจ เห็นคลิปแล้วก็สงสารน้อง เพราะยาทาเล็บมีสารอันตรายหลายตัว และมีสารก่อมะเร็งด้วย ห้ามเอาเข้าปากเด็ดขาดนะครับ อย่าลืมว่าในยาทาเล็บมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ไนโตรเซลลูโลส ฟอร์มาลดีไฮด์ เรซินโทลูอีน ไดบิวทิล พทาเลต ส่วนผสมในยาทาเล็บที่ควรระวังและอาจเป็นอันตราย ได้แก่

ไดบิวทิล พทาเลต (Dibutyl Phthalate) ตัวนี้เป็นสารที่เขามักเอามาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตสี ยาฆ่าแมลง และพลาสติก ใช้ในยาทาเล็บจะทำให้ทาได้ง่าย เรียบ มีความยืดหยุ่นดี แต่ห้ามเอาเข้าปากเพราะเป็นสารก่อมะเร็งและทำให้ลูกพิการแต่กำเนิด ใครที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรใช้ และอาจทำให้มีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ในเพศชายได้ ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นสารก่อมะเร็งที่มักจะใช้เป็นส่วนผสมของสีทาเล็บ ทำให้ยาเคลือบเงาเล็บแข็งตัว และเกาะกับเล็บได้ดี ราคาถูก แต่มีพิษต่อร่างกาย มีไอระเหย ถ้าสูดดมเข้าไปจะทำให้แสบจมูก แสบคอ แสบตา ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ทำลายภูมิคุ้มกัน และเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย

โทลูอีน (Toluene) สารนี้เป็นตัวทำละลายอีกตัวหนึ่งที่ผสมในน้ำยาเคลือบเงาเล็บ มีกลิ่นฉุน แสบจมูก ระคายเคืองตา ถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการเวียนศีรษะ ถ้าสูดดมมากๆ จะเกิดการสะสมที่ตับและไต มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ และเป็นสารก่อมะเร็ง อีกอย่างคือ หลังจากที่เราทาเล็บ ไม่ควรใช้มือหยิบจับอาหารเข้าปาก หรือจกข้าวเหนียวส้มตำแซ่บๆ แล้วดูดนิ้วจ๊วบๆ เพราะจะทำให้เราได้รับสารพิษจากยาทาเล็บเข้าปาก แต่นี่เอามาทาฟันเลย ซึ่งมีโอกาสได้รับสารพิษเต็มๆ โดยตรงเลย อยากฟันขาววิ้งๆ ควรไปพบหมอฟันนะครับ"




กำลังโหลดความคิดเห็น