ไวรัลคลิปนาทีแก๊งนักท่องเที่ยวสาวเวียดนามยิ้มร่าเริงถ่ายรูปเล่นขณะที่ผมตั้งชี้ขึ้นฟ้าตอนกำลังชมวิวกลางเรือสำราญ ด้านอ.เจษฎ์ย้ำคือสัญญาณเตือนผ่าฟ้า ให้รีบหนี
ไวรัลคลิปที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ @gnuman1979 ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุว่า "Run!!!! Danger danger! (วิ่ง!!! อันตราย อันตราย)" จากเหตุนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามกลุ่มหนึ่งยิ้มร่าเริงถ่ายรูปเล่น ขณะที่ผมตั้งชี้ขึ้นฟ้าตอนกำลังชมวิวกลางเรือสำราญที่แล่นในมหาสมุทร ซึ่งพบว่าคลิปดังกล่าวมีผู้ชมแล้วกว่า 12 ล้านครั้ง
วันนี้ (13 มี.ค.) เพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" หรือ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือ อ.เจษฎ์ ได้ออกมาให้ความรู้ในกรณีดัวกล่าวว่า "เจอแบบนี้ ให้หนีครับ หนี หลบเข้าร่มก่อน อย่ามันแต่เซลฟีกันเพลิน จะเสี่ยงโดนฟ้าผ่าเอา แถมหลายคนยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพ แต่นักทองเที่ยวกลุ่มนี้หารู้ไม่ว่าการที่ผมชี้ฟูหรือผมตั้งกลางแจ้ง นั่นคือสัญญาณเตือนให้รีบหนีโดยด่วน ซึ่งคลิปดังกล่าวมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เตือนว่าเหตุการณ์ขนลุกและผมตั้งชี้ขึ้นกลางอากาศนี้ เพราะมีการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าที่เกิดจากการเสียดสีของละอองน้ำในก้อนเมฆ ทำให้เกิดประจุแตกตัวหรือเกิดไฟฟ้าสถิต และอาการเหล่านั้นหมายความว่า ประจุไฟฟ้ากำลังสะสมอยู่บนตัว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดฟ้าผ่าในเวลาอันใกล้ คำแนะนำคือ ให้หาที่หลบที่ปลอดภัย เช่นหลบเข้าในอาคาร เข้าไปในรถยนต์ แล้วห้ามแตะตัวถังที่เป็นโลหะ หรือถ้าอยู่กลางที่โล่งแจ้ง ไม่มีที่หลบ ให้นั่งยองๆ ลงต่ำ แต่อย่าไปหลบใต้ต้นไม้หรืออยู่ในกระท่อมกลางนา ฟ้ามักจะผ่าลงมาที่จุดที่โดดเด่นบริเวณ ส่วนเรื่องใส่โลหะ หรือใช้โทรศัพท์มือถือ แล้วจะล่อฟ้า อันนี้ไม่จริงครับ)
และที่มีคนสงสัยว่า แทนที่จะนั่ง ถ้าใช้เป็นวิธีนอนราบกับพื้นไป จะได้มั้ยครับ? คำตอบคือ ควรจะต้องพยายามสัมผัสพื้นให้น้อยที่สุด และให้เกิดจุดห่างระหว่างอวัยวะที่สัมผัสพื้น 2 จุดให้น้อยที่สุด คือตามสมมติฐานที่เชื่อกัน เวลาถูกฟ้าผ่าเนี่ย อันตรายที่ได้รับจริงๆ มักจะเป็นกระแสไฟที่วิ่งตามพื้นมาจากจุดที่ฟ้าผ่าลงมา ไหลเข้ามาที่ตัวเรา ทีนี้อันตรายจะเกิดขึ้นมากหรือน้อย จะขึ้นกับ "แรงดันไฟฟ้าช่วงก้าว (step voltage)" ซึ่งเป็นความต่างศักย์ที่ตกคร่อมระหว่างจุด 2 จุดของร่างกาย ถ้ายิ่งจุด 2 จุดนี้อยู่ห่างกันมากเท่าไร (เช่น เราก้าวเท้ายาว ยืนบนพื้น โดยที่เท้าทั้งสองแยกห่างจากกัน) โอกาสที่จะเกิดแรงดันไฟฟ้าช่วงก้าวก็จะมากตามไปด้วย ส่งผลให้กระแสที่ไหลมาตามพื้นเข้าสู่ตัวเรามากขึ้น ดังนั้น ถ้านั่งยองๆ เท้าชิด แรงดันไฟฟ้าช่วงก้าวก็จะน้อยกว่าเวลานอนยาว (ซึ่งมีจุดสัมผัสพื้นห่างกันตั้งแต่หัวถึงเท้า)"