โซเชียลฯ แห่วิจารณ์ หลังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดประกวดผลงานวิชาการและวิจัยของนิสิตระดับปริญญาตรี โดยพบวิจัยการประกอบสร้างอัตลักษณ์ของ ทรงซ้อในสังคมไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศ
วันนี้ (12 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก "ฝ่ายกิจการนิสิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" จัดประกวดผลงานวิชาการและวิจัยของนิสิตระดับปริญญาตรี ประจำปี 2566 โดยให้มีการโหวตผลงานโปสเตอร์ที่ชื่นชอบ โดยการกดไลก์ ผลการตัดสินจากคณะกรรมการและรวมกับยอดกดไลก์ และผลงานที่เข้าตากรรมการและชนะเลิศ โดยพบได้รับความสนใจจากโซเชียลฯมากที่สุดคือ วิจัยการประกอบสร้างอัตลักษณ์ของ ทรงซ้อ ในสังคมไทย โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า "ประกาศรางวัลการประกวดแข่งขันผลงานวิชาการและงานวิจัยระดับปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ ประจำปี 2566 (จากคะแนนโหวตและคะแนนจากคณะกรรมการตัดสินผลงาน)
รางวัลประเภทโปสเตอร์ยอดเยี่ยม มีดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ชื่อผลงาน การประกอบสร้างอัตลักษณ์ของ ทรงซ้อ ในสังคมไทย เจ้าของผลงาน จินดาภัทร อินทร์เจริญ สาขามานุษยวิทยา อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.อังกูร หงษ์คณานุเคราะห์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ชื่อผลงาน กระบวนการกลายเป็นคนไร้ศาสนา เจ้าของผลงาน สิรภัค มงคลเวส สาขามานุษยวิทยา อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.อังกูร หงษ์คณานุเคราะห์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ชื่อผลงาน กระบวนการการกลายมาเป็นนักวิ่งแฟนซี เจ้าของผลงาน กุลนิษฐ์ อัศววงศ์เกษม และธนิตย์ ฐานียะพานิชย์ สาขาสังคมวิทยา อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร.ปุรินทร์ นาคสิงห์
รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน ภาพสะท้อนรัฐสตรี การเมือง ศาสนา บารมีและความรักของมหาราชินีแห่งจักรภพอังกฤษในภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง The Crown เจ้าของผลงาน ธณัฐพงศ์ ตรีสุขเกษม สาขาวิชาประวัติศาสตร์ อาจารย์ที่ปรึกษา อ.ดร.นิศารัตน์ ขันธโภค
ทั้งนี้ พบว่าวิจัย การประกอบสร้างอัตลักษณ์ของ ทรงซ้อ ดึงลักษณะตัวตนของหญิงที่มีภาพลักษณ์ตามวลี ปากมาสด้า ตาหอยแครง ใส่ทองตีโป่ง เพราะบริบทของความเป็นหญิงไทยถูกผูกติดอยู่กับค่านิยมที่ต้อง สุภาพอ่อนหวาน แต่งกายเรียบร้อย ค่านิยมนี้ส่งผลให้ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ทรงซ้อ ถูกจัดวางและให้ความหมายต่างจากผู้หญิงกลุ่มอื่นของสังคมไทย ทำให้กลุ่มคนทรงซ้อกลายเป็นประเด็นศึกษาที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ได้มีชาวเน็ตให้ความสนใจในกรณีดังกล่าวจำนวนมาก และมีหลายรายต่างมองว่ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ชื่อผลงาน กระบวนการกลายเป็นคนไร้ศาสนา นั่นมีความน่าสนใจ และถูกใจหลายๆ คนในขณะนี้ แต่อาจไม่ได้รับการพูดถึงในโซเชียลฯ เท่างานวิจัยการสร้างอัตลักษณ์ของทรงซ้อ