โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 หรือทางยกระดับพระรามที่ 2 อุบัติเหตุไม่แผ่ว แม้การก่อสร้างจะผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ล่าสุดเครนล้มขวางถนนทั้งช่องทางหลักและขนาน ก่อนถึงตัวเมืองมหาชัย 3 กม. รถยนต์ผ่านไม่ได้ ต้องยกแขนเครนที่หล่นเข้าหน้างานก่อนเปิดถนนตามปกติ แม้จะโชคดีไม่มีใครบาดเจ็บก็ตาม
วันนี้ (8 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเครนของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 หรือทางยกระดับพระรามที่ 2 ล้มขวางถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 25 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่วัฒนา ก่อนถึงศูนย์การค้าพอร์โต ชิโน่ เยื้องศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย ห่างจากทางแยกต่างระดับสมุทรสาครประมาณ 3 กิโลเมตร แขนเครนสูงกว่า 10 เมตร ล้มขวางทั้งช่องทางหลักและทางขนาน ส่งผลทำให้กีดขวางการจราจรทุกช่องทาง รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้
ต่อมา หน่วยบริการตำรวจทางหลวงมหาชัยแจ้งว่า สาเหตุเกิดจากผู้รับจ้างก่อสร้างจะนำรถเครนมายกรถแบ็กโฮที่ติดหล่มบริเวณเกาะกลางถนน แต่สายรัดหลุดทำให้เครนเสียการทรงตัวล้มขวางเส้นทางการจราจร จึงได้ทำการยกแขนเครนที่หล่นเข้าหน้างาน ก่อนจะเปิดการจราจรเรียบร้อยเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับจุดเกิดเหตุเป็น 1 ใน 10 สัญญาของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทางรวม 16.4 กิโลเมตร อยู่ในความรับผิดชอบตอน 3 กิโลเมตรที่ 24+670 ถึงกิโลเมตรที่ 25+734 ระยะทางประมาณ 1.06 กิโลเมตร ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้าวีเอ็น ประกอบด้วย บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด และบริษัท นภาก่อสร้าง จำกัด มูลค่าการก่อสร้าง 1,910.30 ล้านบาท เริ่มต้นสัญญา 1 ก.พ. 2565 สิ้นสุดสัญญา 15 ม.ค. 2568 ระยะเวลา 1,080 วัน
สำหรับถนนพระรามที่ 2 ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างบ่อยครั้ง นอกเหนือจากอุบัติเหตุใหญ่ คือคานสะพานกลับรถถนนพระรามที่ 2 กม.34 หล่นใส่รถยนต์เสียชีวิตรวม 2 ราย เมื่อค่ำวันที่ 31 ก.ค. 2565 จากนั้นก็มีอุบัติเหตุตามมาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นที่บอกต่อแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนว่าให้หลีกเลี่ยงเส้นทางนี้ ไปใช้ถนนเอกชัย หรือถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล หรือไม่เช่นนั้นก็ให้ไปใช้ช่องทางขนานแทน อย่างไรก็ตาม ถนนพระรามที่ 2 ถือเป็นเส้นทางหลักมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ มียานพาหนะใช้เส้นทางนี้มากกว่า 2 แสนคันต่อวัน
