ไวรัลชาวเน็ตสะพรึง บุกจับพ่อค้าค้าตัวเงินตัวทองรายใหญ่ทำเป็นลูกชิ้นปลา ส่วนหนังนำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ ส่งขายทั่วประเทศ ตำรวจสอบสวนกลางโร่แจงไม่จริง จับพ่อค้าสัตว์เลื้อยคลาน บุกทลายโรงชำแหละส่งร้านอาหารป่า ไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้น
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กเพจแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "รวบพ่อค้าตัวเงินตัวทองรายใหญ่ค้าส่งชำแหละเนื้อส่งขายแปรรูปเพื่อนำไปเป็นอาหาร ทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว ส่วนหนังเกรงว่าน่าจะนำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ โดยชำแหละส่งไปขายทั่วประเทศ ทำแบบนี้มานานแล้ว อู่ทอง สุพรรณบุรี ... บุกจับพ่อค้าค้าตัวเงินตัวทองรายใหญ่ รอชำแหละส่งทำอาหาร ยึดของกลางนับ 100 ตัว จากการตรวจสอบ พบสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ตัวเหี้ยที่ยังมีชีวิตอยู่ในถุง จำนวน 32 ตัว ซากตัวเหี้ยวางกองอยู่กับพื้นและอยู่ในกะละมัง จำนวน 59 ซาก เต่านาจำนวน 20 ตัว เต่าหับจำนวน 2 ตัว และเต่าดำจำนวน 6 ตัว อยู่ในโอ่งมังกร และยังพบชาวบ้าน 5 คนที่มารับจ้างชำแหละ แปรรูป ตัวเหี้ย" ภาพดังกล่าวถูกแชร์กว่า 1.5 หมื่นครั้ง มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง
ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจ "ตำรวจสอบสวนกลาง" โพสต์ข้อความชี้แจงว่า "ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยัน บุกทลายโรงชำแหละส่งร้านอาหารป่า ไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้น กรณีที่มีเพจหนึ่งโพสต์รูปภาพตัวเงินตัวทอง พร้อมข้อความระบุว่า ‘บุกทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาเจ้าใหญ่ที่ดัดแปลงใช้เนื้อของตัวเงินตัวทองมาทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว ส่วนหนังน่าจะนำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ จัดจำหน่ายส่งขายทั่วประเทศมานานแล้ว’
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ขอระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นผลงานการจับกุมของตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบซื้อขายเพื่อการค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา โดยจากการสอบถามผู้ต้องหา และจากการสืบสวน ยืนยันว่าซากตัวเงินตัวทองเหล่านี้เตรียมนำไปขายต่อที่ตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่