วันนี้ (28 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า การออกมาแฉกรณีต่างๆ ที่ผ่านมาของ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์" ทำให้เกิดเสียงแตกในสังคม บางส่วนก็ชื่นชมนายชูวิทย์ แต่บางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า "ชูวิทย์" ดำเนินการบนจุดประสงค์ใด และทำเพื่อใคร? แม้ชูวิทย์จะย้ำเสมอว่า ทำเพื่อประชาชนก็ตาม....
"ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์" คนไทยรู้จักชื่อเสียงของเขาเป็นอย่างดีในบทบาท "อดีตเจ้าของสถานบริการอาบ อบ นวด" ที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองในช่วงหนึ่งจนได้รับฉายาจอมแฉ และก่อนหน้านี้ก็ได้รับความสนใจจากสังคมหลังจากออกมาแฉทุนจีนสีเทา รวมทั้งบ่อนพนันออนไลน์ที่มีตำรวจบางนายเกี่ยวข้อง จนสั่นสะเทือนไปทั่วทุกวงการ
"ชูวิทย์" เองเคยยอมรับว่าเป็นคนสีเทา ที่มีความเข้าใจและแหล่งข้อมูลกรณีการทุจริต หรือสิ่งผิดกฎหมายในหลายประเด็น เพราะตัวเองก็เคยอยู่ในแวดวงการจ่ายสินบน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองในช่วงเวลาที่ผ่านมา แปลว่าคนสีเทาในวันวาน วันนี้กลับตัวแล้ว สังคมเชื่อมั่นได้คล้ายดั่งองคุลิมาลกลับใจเป็นพระอรหันต์?
แต่ครั้งนี้ "ชูวิทย์" พลิกบทบาทครั้งสำคัญ จนหลายคนงุนงง การเข้าไปติดตามโครงการของรัฐบาล เช่น การคืนสิทธิในที่ดินของอุทยานฯ ทับลาน การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม กัญชาเสรี รวมทั้งการเตรียมแฉการเคลื่อนไหวของบางพรรคการเมือง บทบาทครั้งใหม่นี้ "ชูวิทย์" กำลังเป็นจุดสนใจว่า ทางเดินของเขาจะเป็นเช่นไร และจะจบลงอย่างไร
ประเด็นเงินทอน 30,000 ล้านบาทในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม "ชูวิทย์" อ้างว่ามีหลักฐานมัดตัว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เจ้าพ่อกระทรวงคมนาคม แต่ 2 วันที่ผ่านมาดูเหมือนจะเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อหลายฝ่ายเรียกร้องให้ "ชูวิทย์" แสดงหลักฐานชิ้นสำคัญเพื่อเปิดโปงการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ แต่ชูวิทย์ก็ไม่ยอมมอบให้ โดยอ้างว่าจะส่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่สุดท้ายก็โป๊ะแตก เมื่อชูวิทย์เจอสื่อบางแขนงไล่เบี้ย ขอรายละเอียดเอกสาร กลับตอบดื้อๆ ว่า "ไม่มี"
บทบาทการแสดงทั้งแอ็กชัน แอ็กติ้ง ต้องยอมรับว่า "ชูวิทย์" ไม่น้อยหน้าดาวหนังบู๊ กินขาด คว้าออสการ์ดาราแสดงนำบทภาพยนตร์ แถมผู้กำกับยอดเยี่ยมไปแบบชิลๆ
แต่ถ้าจะลองสังเกต จะพบว่าบางเคสที่ชูวิทย์เปิด ปั่นโหนประเด็นดังๆ ก็เงียบหายไปดื้อๆ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และถ้าสังคมลองไล่เรียงดีๆ กับเคสต่างๆ ที่ชูวิทย์ปูดแล้วหายไปกับสายลมนั้น พวกเราควรสอบถามชูวิทย์ไหมว่า เคสเหล่านั้นมลายไปได้อย่างไรกับการแฉของชูวิทย์ในคราวนั้น และอะไรทำให้องคุลิมาลไม่ไล่ล่าชีวิตให้ครบหนึ่งพันคน และสะสมนิ้วเพื่อสำเร็จวิชา
นิ้วเหล่านั้นที่เคยเป็นเป้าหมาย หายไปไหน.... หรือองคุลิมาลบรรลุธรรมแล้ว จึงละวาง
ประเด็นนี้ช่างน่าคิด และชวนติดตามกับเรื่องราวในวันวาน วันนี้ ของเจ้าของฉายา จอมแฉแห่งเมืองไทย