โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทองออกระเบียบทรงผมนักเรียน หลัง รมต.ตรีนุชปลดล็อกก่อนหน้านี้ นักเรียนชาย หญิง และเพศวิถี ไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ แต่ให้เหมาะสมและเรียบร้อย ห้ามย้อมสีผม และห้ามไว้หนวดไว้เครา ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์การเมืองชมเปาะ ใจกว้างรับความหลากหลายของนักเรียน
วันนี้ (21 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า งานกิจการนักเรียน งานโสตทัศนศึกษา กลุ่มบริหารทั่วไป โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ได้ออกระเบียบทรงผมนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง พ.ศ. 2566 ระบุว่า
ข้อ 1 นักเรียนต้องปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม โดยสามารถไว้ทรงผมตามเพศวิถี ดังนี้
(1) นักเรียนชาย และเพศวิถีชาย จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาว ด้านข้าง ด้านหลัง ด้านหน้า และกลางศีรษะ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย
(2) นักเรียนหญิง และเพศวิถีหญิง จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสม และรวบผม ติดโบโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทองให้เรียบร้อย
ข้อ 2 นักเรียนต้องห้ามปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม ดังนี้
(1) ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม
(2) ไว้หนวดหรือไว้เครา
(3) การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย
ประกาศดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ต รวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์การเมือง เช่น เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คอมเมนต์ว่า "สุดยอดครับ ขอชื่นชมโรงเรียน ที่เปิดใจกว้างรับความหลากหลายของนักเรียนนะครับ เชื่อสิ ผลการเรียนที่ดีหรือไม่ดี มันไม่เกี่ยวกับทรงผมนักเรียนหรอก มันเกี่ยวกับความตั้งใจเรียนของเด็ก และความตั้งใจสอนของครูครับ"
ขณะที่เฟซบุ๊ก Kath Khangpiboon ของ อ.เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คอมเมนต์ว่า "ยินดีกับนักเรียนทุกคนค่ะ การได้มาเรียนที่นี่ก็เป็นความสำเร็จแล้วค่ะ"
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วออกเป็นหนังสือสั่งการหรือหนังสือเวียน กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้างๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง
พร้อมกันนี้ ยังได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา โดยการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสถานศึกษาในกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา และสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสถานศึกษาในกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการอาจดำเนินการกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนได้
โดยการวางระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษา และควรระบุบทอาศัยอำนาจของกฎหมายเฉพาะมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลักการมีส่วนร่วม เช่น นักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง หรือผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคล หรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร เป็นต้น และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนแล้วแต่กรณี ก่อนการประกาศใช้
นอกจากนี้ ควรเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนไว้ในระบบสารสนเทศ หรือบริเวณของสถานศึกษา และดำเนินการแจ้งให้นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสถานศึกษาทราบเป็นการทั่วไป เพื่อให้การปฏิบัติตนของนักเรียนมีความถูกต้อง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความชัดเจนในการดำเนินการของสถานศึกษาต่อไป