"ธีระชัย" เสนอธนาคารเพิ่มมาตรการป้องกันแก๊งดูดเงิน อย่าผลักให้เป็นภาระลูกค้าฝ่ายเดียว พร้อมแนะพรรคการเมืองกำหนดเป็นนโยบาย ออกกฎหมายเฉพาะเพื่อบังคับให้สถาบันการเงินต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น
วันที่ 20 ก.พ. 2566 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า
แก้ปัญหาแก๊งดูดเงินธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดทำข้อแนะนำ เพื่อให้ลูกค้าระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งดูดเงิน (ดูรูป) เริ่มตั้งแต่ให้ลูกค้าตั้งสติ ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว สังเกตชื่อเว็บไซต์ ไม่ทำธุรกรรมการเงินโดยใช้ Wi-Fi สาธารณะ จำกัดวงเงินเบิกถอนต่อวัน เปลี่ยนรหัส ฯลฯ
เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาที่ใหญ่มากขึ้นทุกวัน และกระทบต่อชาวบ้าน โดยเฉพาะหลายรายถูกโกงเงินออมหลักที่เตรียมไว้เลี้ยงชีพไปทั้งหมด
ผมมีความเห็นว่าสังคมไทยจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิผล
แต่เห็นว่าข้อแนะนำให้ชาวบ้านตั้งสติ ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว ฯลฯ เหล่านี้จะยังไม่ได้ผลในการป้องปรามอย่างแท้จริง โดยเฉพาะต่อชาวบ้านที่ไม่ได้ชำนาญรอบรู้ในการใช้อินเทอร์เน็ต
ผมเห็นว่าธนาคารจะต้องเป็นผู้สร้างเกราะป้องกันในเรื่องนี้
เพราะเป็นผู้ที่ถือครองเงินของลูกค้า และมีหน้าที่จะต้องดูแลให้มีความปลอดภัยในการเก็บรักษา โดยไม่อาจผลักให้เป็นภาระแก่ลูกค้าเพียงฝ่ายเดียว
ธนาคารสามารถที่จะเสริมมาตรการป้องกันได้ ด้วยการเพิ่มเติมขั้นตอนให้ลูกค้าที่จะโอนเงินออกจากบัญชี จะต้องผ่านกระบวนการจดจำใบหน้า (facial recognition) ทุกครั้งเสียก่อน มิใช่ดำเนินการโดยใส่แต่เพียงตัวเลขรหัสแต่เพียงอย่างเดียว หรือโดยวิธีอื่นที่แต่ละธนาคารจะคิดทำขึ้น
มาตรการที่ธนาคารจะเสริมขั้นตอนให้มากขึ้นเหล่านี้ ถึงแม้จะทำให้การทำธุรกรรมยุ่งยากเพราะมีขั้นตอนมากขึ้น อาจจะทำให้ลูกค้ามีความรำคาญ แต่จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้อย่างแท้จริง และควรดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์ด้วย
***ผมจึงขอเสนอแนวคิด ให้พรรคการเมืองพิจารณากำหนดเป็นนโยบาย ออกเป็นกฎหมายเฉพาะ เพื่อบังคับให้สถาบันการเงินต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น***
เพราะสถาบันการเงินซึ่งเป็นด่านหน้าคุ้มครองรักษาเงิน มีหน้าที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า
และเมื่อใดที่สถาบันการเงินมีความรับผิดชอบในทางแพ่ง ก็จะกระตุ้นให้ต้องคิดดัดแปลงวิธีการป้องปรามให้เกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala
(เครดิตภาพตามแหล่งที่แสดงชื่อ)
หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ