“มูลนิธิกระจกเงา” โพสต์ข้อความร่ายยาวประเด็นเกี่ยวกับน้องต่อ เด็กน้อยวัย 8 เดือนที่หายไปจากบ้าน วอนทุกฝ่ายรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานของแม่และน้องต่อ
จากกรณีการหายตัวไปของน้องต่อ อายุ 8 เดือน แบบไร้ร่องรอย ซึ่งตำรวจได้เร่งสืบสวนหาสาเหตุและติดตามตัวน้องต่อมาสู่อ้อมอกพ่อแม่อีกครั้งให้ได้ โดยเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (19 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ได้รับตัวลุงพวง คนข้างบ้านมาสอบสวนข้อมูลที่ยังมีความสงสัยอีกหลายประเด็น และนายสิทธิโชค แสงสว่าง น.ส.พิไลภรณ์ ก่อเจริญ พ่อแม่เด็กมาสอบปากคำที่ สภ.บางหลวง
ล่าสุดวันนี้ (19 ก.พ.) "มูลนิธิกระจกเงา" ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กดึงสติสังคม โดยได้ระบุข้อความว่า
"ไม่ว่าผมจะมีลมหายใจ หรือจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม เรื่องราวของผมและคนรอบตัวผมกำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ โลกที่ผมสงสัยว่าพวกเขาห่วงใยผมจริงๆ หรือไม่
ผมมีพ่อตามชื่อในเอกสารราชการ แต่มีคนประกาศให้โลกรู้ว่าพ่อไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของผม ผมอาจไม่อยากรับรู้เรื่องนี้จากคนอื่น ผมควรรับรู้เพียงในครอบครัวของผม และในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือสิทธิพื้นฐานที่ผมควรได้รับจากคนที่ทำตัวเหมือนห่วงใยผม
ไม่ว่าผมจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่คนรอบตัวผมได้ตายทั้งเป็นไปแล้ว ตายจากคำดูหมิ่นดูแคลน ตายจากความยุแยงให้เกลียดชังกัน สุดท้ายแล้วทุกคนจะกลับไปนอนที่บ้าน ส่วนบ้านของผมน้้น อาจเป็นบ้านที่ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม
แม่ผมอาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยถึงการหายตัวไปของผม หรือมีใครอื่นพาผมออกจากบ้านไป นั่นเป็นสิ่งที่ผมก็บอกไม่ได้
ผมรู้เพียงว่า เด็กหญิงอายุเพียง 17 ปี ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตด้วยวัยเพียงเท่านี้
คือแม่ที่คลอดและเลี้ยงผมมา 8 เดือนเต็ม และคือเด็กสาวที่ถูกพิพากษาในทุกการกระทำ แต่กลับไม่มีใครมองว่าแม่ผมถูกใครกระทำต่อชีวิตมาบ้าง
ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยตามหาผมด้วยความเป็นห่วง ถ้าผมยังมีชีวิตรอดกลับไป ให้คิดเสมือนว่าผมคือลูกของคุณ คือ เด็กคนหนึ่ง ที่ต้องเติบโตต่อไปบนโลกใบนี้"