“เกเตอเรด” (Gatorade) เครื่องดื่มเกลือแร่อันดับ 1 ของโลก แบรนด์ภายใต้บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำภาพสปอร์ตดริ้งค์แบรนด์เดินหน้าจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football 2023” การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 5 ต่อ 5 รุ่นอายุ 14-16 ปี ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลได้รับประสบการณ์จริง และส่งเสริมเด็กไทยให้ออกกำลังกาย พร้อมใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
คุณอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยถึงความเป็นมาในการจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football 2023” ในปีนี้ รวมถึงความสำเร็จที่ผ่านมาและแผนต่อยอดกิจกรรมในอนาคต
ความเป็นมา “Gatorade 5v5 Football Thailand”
เกเตอเรด ถือเป็นแบรนด์ผู้นำทางการตลาด Sports Drink ของโลก ที่มีแนวความคิดและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาที่อยากเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีความฝัน โดยเฉพาะกับกีฬาฟุตบอล
“การที่เรามาทำเรื่องกีฬาฟุตบอล เนื่องจากเราต้องการหาตัวเชื่อมตรงกลาง ทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ จับต้องได้ เข้าใจในประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น ซึ่งผมมองว่า Gatorade 5v5 Football เป็นสื่อกลางที่ดี ในการที่จะทำให้เราขยับเข้าสู่เป้าหมายนั้นด้วย”
ส่วนเหตุผลในการเลือกสนับสนุนกีฬาฟุตบอล คุณอนวัช เล่าว่า เพราะเกเตอเรดอยากให้โอกาสคน ให้พื้นที่เด็ก ๆ ได้โชว์ความสามารถพิเศษ ไม่ใช่แค่เวทีในประเทศไทยแต่ยังสามารถไปต่อได้อีก และกีฬาฟุตบอลก็เป็นกีฬาที่คนไทยมีชื่นชอบมากที่สุด ซึ่งเกเตอเรดยังทำงานร่วมกับทีมฟุตบอลชั้นนำของโลก เช่น สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้, สโมสรบาร์เซโลนา, ทีมชาติบราซิล ฯลฯ หรืออย่างในเมืองไทยเรามีพาร์ทเนอร์ที่ดีอย่าง สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นต้น
โดยคุณอนวัช ยังเสริมเพิ่มเติมถึงความเป็นมาอีกว่า จริง ๆ แล้วทางเกเตอเรดมีพาร์ทเนอร์ในกีฬาหลากหลายประเภท แต่หลาย ๆ ประเทศก็จะมีกีฬาฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่ เพราะมองว่ากีฬาฟุตบอลสามารถเข้าถึงคนส่วนมาก เล่นได้หลายขนาด เล่นที่ไหนก็ได้ และฟุตบอลยังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อีกทั้งสิ่งที่ระดับโลกทำไว้ต่อยอดได้เยอะ ทำให้สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับนักกีฬาไทยได้
“เราอยากให้เกเตอเรดมีมาตรฐานในระดับสูงที่สุด แต่เป็นในหลาย ๆ เลเวล เพราะนอกจากจะไประดับโลกแล้ว ในประเทศไทยก็ต้องเป็นนักกีฬาที่ขั้นสุด เราต้องการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีความฝัน โดยเฉพาะกับกีฬาฟุตบอล ให้เขาได้มีโอกาสแข่งขัน ได้สัมผัสกับบรรยากาศจริง ได้มารวมตัวในที่ที่เป็นระดับมาตรฐานของโลกจริง ๆ ซึ่งตรงนี้เป็นที่มาของการจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football Thailand” โดยเราจะทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ครับ”
ความสำเร็จที่ผ่านมาของการจัดการแข่งขันฟุตบอล 5v5
เมื่อพูดถึงความสำเร็จที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี และเพื่อต่อยอดกิจกรรมให้มีความต่อเนื่อง ปีนี้จึงได้ดำเนินการจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football 2023” ขึ้นมา
“ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จมากครับ ทุก ๆ ปี ตลอดระยะเวลาที่ทำมา ผมมองว่ามีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเรื่องของการจัดการแข่งขัน เรื่องประสิทธิภาพของทีมงานเราเอง ซึ่งความสำเร็จข้อแรกเลยคือ เราได้การตอบรับจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี นอกจากจำนวนของทีมที่เข้ามาแล้ว น้อง ๆ ที่มาแข่งต่างมีแรงผลักดัน ซึ่งเขาไม่ได้อยากจะได้รางวัลเพียงอย่างเดียว เขาไม่ได้อยากจะไปเที่ยว แต่เขามีของ มีความสามารถ เขาอยากโชว์จริง ๆ โดยเรามี Facebook Live และมีคนเข้ามารับชมเยอะมาก ปีนี้ก็หวังว่าจะเยอะขึ้นไปอีก”
“ความสำเร็จข้อสอง คือ การนำรูปแบบฟุตบอล 5v5 มาแนะนำในประเทศไทย ซึ่งความสนุกของฟุตบอล 5v5 คือ บุก รับ สวนไปสวนมา ยิงบอลกันเยอะ ทำให้สนุกและตื่นเต้นมากขึ้น ซึ่ง 5v5 ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เพราะโค้ชจากชลบุรีที่เคยได้แชมป์ปีที่แล้ว ได้อธิบายว่า 5v5 เป็นเซสชั่นเล็กของทีมใหญ่ 11 คน อยู่แล้ว โดยที่เวลาซ้อมจะแบ่งทีมมาเล่น 5v5 และในประเทศไทยเรายังไม่เคยเห็นใครจัด 5v5 ในสนามหญ้ามาก่อน อาจจะมีฟุตซอลที่คล้าย ๆ กัน เล่นบนพื้นปาเก้ ลูกบอลเบอร์ 4 แต่ของเราลูกบอลเบอร์ 5 เท่ากับลูกบอลในสนามใหญ่ เรียกว่าใกล้เคียงกับของจริงที่สุด และเราคิดว่าเป็นรูปแบบที่ดี ทำให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสถึงบรรยากาศจริง ๆ”
“ความสำเร็จข้อสาม คือ เรื่อง Engagement ทั้งตัวนักกีฬา โค้ช และยอดผู้ติดตามต่าง ๆ ด้วย”
“และความสำเร็จข้อสุดท้าย คือ การให้โอกาสคน ที่ผ่านมาหลายประเทศ เขาชื่นชมนะครับว่าเด็กไทย คนเอเชียเล่นได้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ เล่นกันเป็นทีมได้ดี ซึ่งเราไม่ได้ปิดกั้นหรือเปิดโอกาสแค่ทีมโรงเรียนนะครับ แต่เด็กที่ไม่ถูกโค้ชเลือก หรือเด็กที่ฟอร์มทีมมาเองก็สมัครได้ เพราะเราต้องการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มาอยู่ใน Level ที่สูงที่สุดที่ตัวเองควรจะเป็น เด็กเก่ง ๆ จะได้ไปเจอคนเก่ง ๆ ครับ”
มากกว่าการแข่งขัน มากกว่าเงินรางวัล คือประสบการณ์ที่เด็ก ๆ จะได้รับ
นอกจากนี้แล้ว Gatorade 5v5 Football Thailand ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพื่อเงินรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่น้อง ๆ เยาวชนจะได้รับมีมูลค่าและคุณค่ามากกว่านั้น
“ผมได้เห็นความตั้งใจมาก ๆ ตั้งแต่วันที่เด็ก ๆ มาต่อคิวและเดินเข้าไปในสนาม มันเปิดโลกของเขามาก ๆ เด็ก ๆ เขาประทับใจ เขาจริงจัง บางทีจังหวัดที่เดินทางไปสมัครเต็ม เขายอมข้ามจังหวัดไปสมัครเลย บางทีมข้ามจังหวัดไปเตะก็มี เพราะเขาอยากเข้าร่วม”
“ผมมองว่า Gatorade 5v5 Football จะทำให้เด็กไทยไม่ตื่นสนาม ได้โอกาสไปหาประสบการณ์จริง อย่างปีที่แล้ว มีน้อง ๆ 6 คน เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมในต่างประเทศ พอไปถึงที่นั่น เขามี
นักเตะ Legend หลายคน เช่น โรเบอร์โต้ คาร์ลอส (Roberto Calos), มาร์กอส คาฟู (Marcos Cafu) ตำนานทีมชาติบราซิล, หลุยส์ การ์เซีย อดีตนักเตะทีมลิเวอร์พูล เป็นต้น มาให้ความรู้เรื่องกีฬาฟุตบอลกับเด็ก ๆ เทรนเสร็จก็จะมีแข่งขันต่อ เรียกได้ว่าน้อง ๆ จะได้ทั้งพูดคุย เรียนรู้ จดจำ ถ่ายรูป แข่งขัน ครบรสเลย ซึ่งทุก ๆ อย่างจะเป็นประสบการณ์ของน้อง ๆ ที่เป็นมากกว่ารางวัลหรือเงิน”
“อีกทั้ง Gatorade 5v5 Football ยังทำให้เด็ก ๆ ที่มีความฝัน เขารู้สึกว่ามันอยู่แค่เอื้อม มันเป็นไปได้ วันนี้ผมมองว่าฟุตบอลสามารถเป็นอาชีพได้จริง ๆ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้”
“ยกตัวอย่าง “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” อดีตตัวแทนประเทศไทยจากทีมโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ผู้เคยคว้ารองแชมป์ศึกฟุตบอลเยาวชนเกเตอเรด 5V5 ที่ประเทศสเปน เมื่อปี พ.ศ.2562 ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับการท่าเรือในไทยลีก และ ทีมชาติไทย”
“หรือ "Gatorade 5v5 Football 2022” ก็มี “Speedy Blue” ทีมตัวแทนจากจังหวัดชลบุรี คว้าแชมป์สำเร็จในการแข่งขัน Gatorade UCL Final 5v5 Experience ที่เมือง แซ็ง-เดอนี ประเทศฝรั่งเศส และเมื่อน้อง ๆ กลับเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็โดนเรียกตัว อย่าง ต้นตะวัน ปุนทมุณี, รัฐธรรมนูญ ดียิ่ง ก็ได้ร่วมแข่งเอเชียนคัพรอบคัดเลือกในนามทีมชาติไทย U17 ครับ”
“โดยการที่น้อง ๆ เข้ามาแข่งตรงนี้ เขาอยู่ในสปอร์ตไลท์อยู่แล้ว พื้นที่ตรงนี้เปิดโอกาสให้ได้เห็นความสามารถในตัวเขาอยู่แล้ว และยิ่งถ้าเขาได้อยู่ในระบบที่ดี มีโค้ชที่ดี มีคนคอยสนับสนุน หลังจากเล่นในรายการใหญ่ ๆ เขาจะสามารถไปต่อได้อีกไกลเลยครับ”
ความพิเศษของ "Gatorade 5v5 Football 2023” ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ความพิเศษในปีนี้ คุณอนวัช เล่าว่า จะเปิดกว้างมากขึ้น ขยายการรับสมัครและจัดการแข่งขันไปยังจังหวัด
ใหม่ ๆ มากขึ้น กระจายให้ทุกภาคมีจังหวัดเท่า ๆ กัน โดยการจัดการแข่งขันยังเป็นมืออาชีพ และมีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นสนามที่ได้มาตรฐานระดับโลก ห้องแต่งตัว ทีมงาน สตาร์ฟที่จัดให้อย่างเพียงพอ พร้อมมีหน่วยพยาบาล รถพยาบาล เตรียมพร้อมทุกรอบคัดเลือก
ทั้งนี้สนามรอบคัดเลือกจะเป็นสนามดัง ๆ ของแต่ละจังหวัด อย่าง จ.กรุงเทพฯ จะเป็นสนามฟุตบอลอัลไพน์ (Alpine Football Training Camp), หรือต่างจังหวัด ได้แก่ สนามธาดา สปอร์ต คอมเพล็กซ์ (TADA sport complex) จ.บุรีรัมย์, สนาม All Star Football Academy จ.เชียงใหม่, เมเจอร์อารีน่า จ.ขอนแก่น ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในปีนี้ทีมที่ชนะจะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเดินทางไปประเทศตุรกี เข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายกับทีมแชมป์จากอีก 17 ประเทศทั่วโลก มีทั้งทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศบลาซิล โคลัมเบีย ชิลี เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น พร้อมทั้งลุ้นชมแมตซ์ชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศประจำฤดูกาล 2022-2023 แบบติดขอบสนาม ณ สนามกีฬาโอลิมปิกอตาเติร์ก (Atatürk Olympic Stadium) เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี มูลค่าของรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท
ผู้นำด้าน Sport Marketing
ยิ่งกว่าการขาย คือ การให้ความรู้ผู้บริโภค
เมื่อพูดถึงกลยุทธ์การทำ Sport Marketing ของเกเตอเรด คุณอนวัช ให้คำตอบว่า ต้องไปอยู่ในที่ที่ใช่ ให้คนเห็น และต้องให้เขามีส่วนร่วมได้ ซึ่งจะทำให้คนเข้าใจในแบรนด์ เข้าใจในสินค้า เข้าใจในเอกลักษณ์และตัวตนของ
เกเตอเรด
“ผมว่ากีฬา เป็นอะไรที่ทำให้คนมีแพสชั่นและมีส่วนร่วมได้ คือ การทำโฆษณาแล้วเอาไปแปะให้คนเห็น ผมว่ามันไม่พอ เพราะผู้บริโภคของเราเป็นคนที่มีแพสชั่นและเป็นคนที่มีการศึกษาที่ดีด้วย อย่าง เกเตอเรดเข้าไปใน “Gatorade 5v5 Football” ไม่ใช่การเอาโฆษณาไปแปะ แต่เรามีเครื่องดื่มไปให้ดื่ม ณ ขณะที่เขาต้องการจริง ๆ มีการให้ความรู้ว่ามันดีอย่างไร ดื่มเกเตอเรดดีกว่าดื่มน้ำเปล่าอย่างไร บางคนมองว่าดื่มน้ำเปล่าหลังออกกำลังกายก็ได้เหมือนกัน แต่เวลาแข่งขันจริง ๆ สังเกตว่าจะมีเรื่องความฟิตของร่างกายที่หายไป อัตราการวิ่งที่ต่ำลง อีกทั้งเกเตอเรด มี Electrolytes เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเข้าไปเสริมในช่วงที่เราเสียเหงื่อ เราจึงอยากให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากที่สุด โดยเกเตอเรดมีศูนย์วิจัยชื่อ Gatorade Sports Science Institute (GSSI) ที่เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและข้อมูลด้านวิทยาศาตร์การกีฬา อย่างในรอบไฟนอลของการแข่งแข่ง เราจะให้ความรู้ในเรื่องนี้ด้วย เรามีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหิดลที่ทำโปรเจกต์ร่วมกันมาหลายปี เดินทางไปสนามที่บุรีรัมย์ เพื่อตรวจค่าเหงื่อ ตรวจการสูญเสียเหงื่อของแต่ละคนว่าแตกต่างกันอย่างไร และการเติมเกลือแร่เข้าไปในร่างกายจะเป็นอย่างไร ตรงนี้เราจะไปให้ความรู้ทั้งโค้ช และเด็ก ๆ นักกีฬาด้วย เราจะทำให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าเกเตอเรดเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬาและผู้ที่เสียเหงื่อ เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์ และมีผลพิสูจน์ในนักกีฬาแล้วว่าสามารถดับกระหายได้”
“ผมว่า Sport Marketing เป็นอะไรที่เราสามารถนำความรู้สู่ผู้บริโภคได้เยอะ และมีแพสชั่นที่เราเข้าไปอินกับมันได้จริง ๆ ผมมองว่าเทรนด์ Sport Marketing ต่อไป จะเป็นแนวให้ความรู้มากขึ้น เพราะผู้บริโภคเขาเลือกกินมากขึ้น แบรนด์มีความน่าเชื่อถือได้แค่ไหน คนยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อสินค้าที่ดีกว่า สำคัญที่สุดคือต้องให้ความรู้คนให้ได้ ต้องบอกเขาให้ได้ว่าทำไมสินค้าของเราถึงมีเอกลักษณ์ ปัจจุบันเรามองว่าผู้บริโภคไม่ได้สักแต่ว่าจะซื้อสินค้าแล้วกิน แต่เดี๋ยวนี้มีทั้งรีวิว มีการหาข้อมูลต่าง ๆ อ้างอิงไปถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเรามีข้อมูลเยอะมาก เราจะให้ความรู้ตรงนี้ด้วย ส่วนแพสชั่นทุกแบรนด์พยายามจับอยู่แล้ว แต่จะทำยังไงให้เราโดดเด่น และผมเชื่อมั่นว่าการจัดแข่งขัน Gatorade 5v5 Football 2023 จะทำให้เรายืนหยัดได้ในหมู่คนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล”
แผนพัฒนากิจกรรม 5v5 และแบรนด์ในอนาคต
เมื่อถามถึงแผนพัฒนาต่อยอดกิจกรรมและแบรนด์ในอนาคต คุณอนวัช ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อยากทำให้ใหญ่ขึ้น เพราะอยากให้เด็กไทยโตไปกับเกเตอเรด” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเกเตอเรดก็จะไม่หยุดอยู่แค่กีฬาฟุตบอล
“ผมมองว่า Gatorade 5v5 Football Thailand เป็นกิจกรรมที่ดี ที่ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะทำได้ ไม่ใช่มีไอเดียก็ทำได้ แต่ต้องเป็นแบรนด์ระดับโลกจริง ๆ ถึงจะทำได้ โดยเรามีความตั้งใจมาก ๆ ถ้ามีทางใดที่จะทำให้ใหญ่กว่านี้ได้ เราก็ยินดีที่จะทำ เพราะเราอยากให้เกเตอเรดเติบโตไปพร้อมกับเด็กไทยครับ”
“สำหรับเกเตอเรด แน่นอนว่า ฟุตบอลคือพอยท์ที่ใหญ่ที่สุด แต่เกเตอเรด คือ เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬาและผู้ที่เสียเหงื่อ จึงเหมาะกับกีฬาประเภทอื่น ๆ ด้วย และเกเตอเรดก็มีเครื่องดื่มแบบไม่มีน้ำตาล ถึงไม่ใช่นักกีฬาแต่ชอบใช้ชีวิตแอคทีฟก็สามารถดื่มเพิ่มความสดชื่นได้ หรือผู้ที่ควบคุมโภชนาการก็ดื่มได้ด้วย ดังนั้นอนาคตเกเตอเรดจะไม่หยุดอยู่แค่กีฬาฟุตบอลอย่างแน่นอนครับ”
สำหรับเยาวชนชายสัญชาติไทย อายุระหว่าง 14-16 ปี ที่สนใจศึกฟุตบอล 5 ต่อ 5 Gatorade 5v5 Football 2023 เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ทั่วประเทศ 15 สนาม แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 1 สนาม ได้แก่ สนามอัลไพน์ฟุตบอลแคมป์ เทรนนิ่ง กรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด 14 สนาม ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, ระยอง, สุพรรณบุรี, ราชบุรี, นครสวรรค์, อุตรดิตถ์, เชียงใหม่, เชียงราย, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, กระบี่ และสุราษฎร์ธานี โดยในรอบคัดเลือก จะรับสมัครสนามละ 16 ทีม (สนามกรุงเทพฯ 32 ทีม)
โดยเปิดรับสมัครแข่งขันตั้งแต่วันนี้ – 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 โดยรอบคัดเลือกจะเริ่มแข่งสนามแรกวันที่
18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ณ สนามหญ้าเทียมบ้านทุ่ง จ.กระบี่
#Gatorade5v5 #5v5Thailand #GatoradeThailand
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ : Gatorade 5v5 Football Thailand
หรือคลิก https://www.facebook.com/profile.php?id=100083551441595
คุณอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยถึงความเป็นมาในการจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football 2023” ในปีนี้ รวมถึงความสำเร็จที่ผ่านมาและแผนต่อยอดกิจกรรมในอนาคต
ความเป็นมา “Gatorade 5v5 Football Thailand”
เกเตอเรด ถือเป็นแบรนด์ผู้นำทางการตลาด Sports Drink ของโลก ที่มีแนวความคิดและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาที่อยากเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีความฝัน โดยเฉพาะกับกีฬาฟุตบอล
“การที่เรามาทำเรื่องกีฬาฟุตบอล เนื่องจากเราต้องการหาตัวเชื่อมตรงกลาง ทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ จับต้องได้ เข้าใจในประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น ซึ่งผมมองว่า Gatorade 5v5 Football เป็นสื่อกลางที่ดี ในการที่จะทำให้เราขยับเข้าสู่เป้าหมายนั้นด้วย”
ส่วนเหตุผลในการเลือกสนับสนุนกีฬาฟุตบอล คุณอนวัช เล่าว่า เพราะเกเตอเรดอยากให้โอกาสคน ให้พื้นที่เด็ก ๆ ได้โชว์ความสามารถพิเศษ ไม่ใช่แค่เวทีในประเทศไทยแต่ยังสามารถไปต่อได้อีก และกีฬาฟุตบอลก็เป็นกีฬาที่คนไทยมีชื่นชอบมากที่สุด ซึ่งเกเตอเรดยังทำงานร่วมกับทีมฟุตบอลชั้นนำของโลก เช่น สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้, สโมสรบาร์เซโลนา, ทีมชาติบราซิล ฯลฯ หรืออย่างในเมืองไทยเรามีพาร์ทเนอร์ที่ดีอย่าง สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นต้น
โดยคุณอนวัช ยังเสริมเพิ่มเติมถึงความเป็นมาอีกว่า จริง ๆ แล้วทางเกเตอเรดมีพาร์ทเนอร์ในกีฬาหลากหลายประเภท แต่หลาย ๆ ประเทศก็จะมีกีฬาฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่ เพราะมองว่ากีฬาฟุตบอลสามารถเข้าถึงคนส่วนมาก เล่นได้หลายขนาด เล่นที่ไหนก็ได้ และฟุตบอลยังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อีกทั้งสิ่งที่ระดับโลกทำไว้ต่อยอดได้เยอะ ทำให้สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับนักกีฬาไทยได้
“เราอยากให้เกเตอเรดมีมาตรฐานในระดับสูงที่สุด แต่เป็นในหลาย ๆ เลเวล เพราะนอกจากจะไประดับโลกแล้ว ในประเทศไทยก็ต้องเป็นนักกีฬาที่ขั้นสุด เราต้องการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีความฝัน โดยเฉพาะกับกีฬาฟุตบอล ให้เขาได้มีโอกาสแข่งขัน ได้สัมผัสกับบรรยากาศจริง ได้มารวมตัวในที่ที่เป็นระดับมาตรฐานของโลกจริง ๆ ซึ่งตรงนี้เป็นที่มาของการจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football Thailand” โดยเราจะทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ครับ”
ความสำเร็จที่ผ่านมาของการจัดการแข่งขันฟุตบอล 5v5
เมื่อพูดถึงความสำเร็จที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี และเพื่อต่อยอดกิจกรรมให้มีความต่อเนื่อง ปีนี้จึงได้ดำเนินการจัดการแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football 2023” ขึ้นมา
“ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จมากครับ ทุก ๆ ปี ตลอดระยะเวลาที่ทำมา ผมมองว่ามีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเรื่องของการจัดการแข่งขัน เรื่องประสิทธิภาพของทีมงานเราเอง ซึ่งความสำเร็จข้อแรกเลยคือ เราได้การตอบรับจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี นอกจากจำนวนของทีมที่เข้ามาแล้ว น้อง ๆ ที่มาแข่งต่างมีแรงผลักดัน ซึ่งเขาไม่ได้อยากจะได้รางวัลเพียงอย่างเดียว เขาไม่ได้อยากจะไปเที่ยว แต่เขามีของ มีความสามารถ เขาอยากโชว์จริง ๆ โดยเรามี Facebook Live และมีคนเข้ามารับชมเยอะมาก ปีนี้ก็หวังว่าจะเยอะขึ้นไปอีก”
“ความสำเร็จข้อสอง คือ การนำรูปแบบฟุตบอล 5v5 มาแนะนำในประเทศไทย ซึ่งความสนุกของฟุตบอล 5v5 คือ บุก รับ สวนไปสวนมา ยิงบอลกันเยอะ ทำให้สนุกและตื่นเต้นมากขึ้น ซึ่ง 5v5 ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เพราะโค้ชจากชลบุรีที่เคยได้แชมป์ปีที่แล้ว ได้อธิบายว่า 5v5 เป็นเซสชั่นเล็กของทีมใหญ่ 11 คน อยู่แล้ว โดยที่เวลาซ้อมจะแบ่งทีมมาเล่น 5v5 และในประเทศไทยเรายังไม่เคยเห็นใครจัด 5v5 ในสนามหญ้ามาก่อน อาจจะมีฟุตซอลที่คล้าย ๆ กัน เล่นบนพื้นปาเก้ ลูกบอลเบอร์ 4 แต่ของเราลูกบอลเบอร์ 5 เท่ากับลูกบอลในสนามใหญ่ เรียกว่าใกล้เคียงกับของจริงที่สุด และเราคิดว่าเป็นรูปแบบที่ดี ทำให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสถึงบรรยากาศจริง ๆ”
“ความสำเร็จข้อสาม คือ เรื่อง Engagement ทั้งตัวนักกีฬา โค้ช และยอดผู้ติดตามต่าง ๆ ด้วย”
“และความสำเร็จข้อสุดท้าย คือ การให้โอกาสคน ที่ผ่านมาหลายประเทศ เขาชื่นชมนะครับว่าเด็กไทย คนเอเชียเล่นได้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ เล่นกันเป็นทีมได้ดี ซึ่งเราไม่ได้ปิดกั้นหรือเปิดโอกาสแค่ทีมโรงเรียนนะครับ แต่เด็กที่ไม่ถูกโค้ชเลือก หรือเด็กที่ฟอร์มทีมมาเองก็สมัครได้ เพราะเราต้องการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มาอยู่ใน Level ที่สูงที่สุดที่ตัวเองควรจะเป็น เด็กเก่ง ๆ จะได้ไปเจอคนเก่ง ๆ ครับ”
มากกว่าการแข่งขัน มากกว่าเงินรางวัล คือประสบการณ์ที่เด็ก ๆ จะได้รับ
นอกจากนี้แล้ว Gatorade 5v5 Football Thailand ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพื่อเงินรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่น้อง ๆ เยาวชนจะได้รับมีมูลค่าและคุณค่ามากกว่านั้น
“ผมได้เห็นความตั้งใจมาก ๆ ตั้งแต่วันที่เด็ก ๆ มาต่อคิวและเดินเข้าไปในสนาม มันเปิดโลกของเขามาก ๆ เด็ก ๆ เขาประทับใจ เขาจริงจัง บางทีจังหวัดที่เดินทางไปสมัครเต็ม เขายอมข้ามจังหวัดไปสมัครเลย บางทีมข้ามจังหวัดไปเตะก็มี เพราะเขาอยากเข้าร่วม”
“ผมมองว่า Gatorade 5v5 Football จะทำให้เด็กไทยไม่ตื่นสนาม ได้โอกาสไปหาประสบการณ์จริง อย่างปีที่แล้ว มีน้อง ๆ 6 คน เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมในต่างประเทศ พอไปถึงที่นั่น เขามี
นักเตะ Legend หลายคน เช่น โรเบอร์โต้ คาร์ลอส (Roberto Calos), มาร์กอส คาฟู (Marcos Cafu) ตำนานทีมชาติบราซิล, หลุยส์ การ์เซีย อดีตนักเตะทีมลิเวอร์พูล เป็นต้น มาให้ความรู้เรื่องกีฬาฟุตบอลกับเด็ก ๆ เทรนเสร็จก็จะมีแข่งขันต่อ เรียกได้ว่าน้อง ๆ จะได้ทั้งพูดคุย เรียนรู้ จดจำ ถ่ายรูป แข่งขัน ครบรสเลย ซึ่งทุก ๆ อย่างจะเป็นประสบการณ์ของน้อง ๆ ที่เป็นมากกว่ารางวัลหรือเงิน”
“อีกทั้ง Gatorade 5v5 Football ยังทำให้เด็ก ๆ ที่มีความฝัน เขารู้สึกว่ามันอยู่แค่เอื้อม มันเป็นไปได้ วันนี้ผมมองว่าฟุตบอลสามารถเป็นอาชีพได้จริง ๆ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้”
“ยกตัวอย่าง “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” อดีตตัวแทนประเทศไทยจากทีมโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ผู้เคยคว้ารองแชมป์ศึกฟุตบอลเยาวชนเกเตอเรด 5V5 ที่ประเทศสเปน เมื่อปี พ.ศ.2562 ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับการท่าเรือในไทยลีก และ ทีมชาติไทย”
“หรือ "Gatorade 5v5 Football 2022” ก็มี “Speedy Blue” ทีมตัวแทนจากจังหวัดชลบุรี คว้าแชมป์สำเร็จในการแข่งขัน Gatorade UCL Final 5v5 Experience ที่เมือง แซ็ง-เดอนี ประเทศฝรั่งเศส และเมื่อน้อง ๆ กลับเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็โดนเรียกตัว อย่าง ต้นตะวัน ปุนทมุณี, รัฐธรรมนูญ ดียิ่ง ก็ได้ร่วมแข่งเอเชียนคัพรอบคัดเลือกในนามทีมชาติไทย U17 ครับ”
“โดยการที่น้อง ๆ เข้ามาแข่งตรงนี้ เขาอยู่ในสปอร์ตไลท์อยู่แล้ว พื้นที่ตรงนี้เปิดโอกาสให้ได้เห็นความสามารถในตัวเขาอยู่แล้ว และยิ่งถ้าเขาได้อยู่ในระบบที่ดี มีโค้ชที่ดี มีคนคอยสนับสนุน หลังจากเล่นในรายการใหญ่ ๆ เขาจะสามารถไปต่อได้อีกไกลเลยครับ”
ความพิเศษของ "Gatorade 5v5 Football 2023” ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ความพิเศษในปีนี้ คุณอนวัช เล่าว่า จะเปิดกว้างมากขึ้น ขยายการรับสมัครและจัดการแข่งขันไปยังจังหวัด
ใหม่ ๆ มากขึ้น กระจายให้ทุกภาคมีจังหวัดเท่า ๆ กัน โดยการจัดการแข่งขันยังเป็นมืออาชีพ และมีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นสนามที่ได้มาตรฐานระดับโลก ห้องแต่งตัว ทีมงาน สตาร์ฟที่จัดให้อย่างเพียงพอ พร้อมมีหน่วยพยาบาล รถพยาบาล เตรียมพร้อมทุกรอบคัดเลือก
ทั้งนี้สนามรอบคัดเลือกจะเป็นสนามดัง ๆ ของแต่ละจังหวัด อย่าง จ.กรุงเทพฯ จะเป็นสนามฟุตบอลอัลไพน์ (Alpine Football Training Camp), หรือต่างจังหวัด ได้แก่ สนามธาดา สปอร์ต คอมเพล็กซ์ (TADA sport complex) จ.บุรีรัมย์, สนาม All Star Football Academy จ.เชียงใหม่, เมเจอร์อารีน่า จ.ขอนแก่น ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในปีนี้ทีมที่ชนะจะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเดินทางไปประเทศตุรกี เข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายกับทีมแชมป์จากอีก 17 ประเทศทั่วโลก มีทั้งทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศบลาซิล โคลัมเบีย ชิลี เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น พร้อมทั้งลุ้นชมแมตซ์ชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศประจำฤดูกาล 2022-2023 แบบติดขอบสนาม ณ สนามกีฬาโอลิมปิกอตาเติร์ก (Atatürk Olympic Stadium) เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี มูลค่าของรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท
ผู้นำด้าน Sport Marketing
ยิ่งกว่าการขาย คือ การให้ความรู้ผู้บริโภค
เมื่อพูดถึงกลยุทธ์การทำ Sport Marketing ของเกเตอเรด คุณอนวัช ให้คำตอบว่า ต้องไปอยู่ในที่ที่ใช่ ให้คนเห็น และต้องให้เขามีส่วนร่วมได้ ซึ่งจะทำให้คนเข้าใจในแบรนด์ เข้าใจในสินค้า เข้าใจในเอกลักษณ์และตัวตนของ
เกเตอเรด
“ผมว่ากีฬา เป็นอะไรที่ทำให้คนมีแพสชั่นและมีส่วนร่วมได้ คือ การทำโฆษณาแล้วเอาไปแปะให้คนเห็น ผมว่ามันไม่พอ เพราะผู้บริโภคของเราเป็นคนที่มีแพสชั่นและเป็นคนที่มีการศึกษาที่ดีด้วย อย่าง เกเตอเรดเข้าไปใน “Gatorade 5v5 Football” ไม่ใช่การเอาโฆษณาไปแปะ แต่เรามีเครื่องดื่มไปให้ดื่ม ณ ขณะที่เขาต้องการจริง ๆ มีการให้ความรู้ว่ามันดีอย่างไร ดื่มเกเตอเรดดีกว่าดื่มน้ำเปล่าอย่างไร บางคนมองว่าดื่มน้ำเปล่าหลังออกกำลังกายก็ได้เหมือนกัน แต่เวลาแข่งขันจริง ๆ สังเกตว่าจะมีเรื่องความฟิตของร่างกายที่หายไป อัตราการวิ่งที่ต่ำลง อีกทั้งเกเตอเรด มี Electrolytes เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเข้าไปเสริมในช่วงที่เราเสียเหงื่อ เราจึงอยากให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากที่สุด โดยเกเตอเรดมีศูนย์วิจัยชื่อ Gatorade Sports Science Institute (GSSI) ที่เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและข้อมูลด้านวิทยาศาตร์การกีฬา อย่างในรอบไฟนอลของการแข่งแข่ง เราจะให้ความรู้ในเรื่องนี้ด้วย เรามีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหิดลที่ทำโปรเจกต์ร่วมกันมาหลายปี เดินทางไปสนามที่บุรีรัมย์ เพื่อตรวจค่าเหงื่อ ตรวจการสูญเสียเหงื่อของแต่ละคนว่าแตกต่างกันอย่างไร และการเติมเกลือแร่เข้าไปในร่างกายจะเป็นอย่างไร ตรงนี้เราจะไปให้ความรู้ทั้งโค้ช และเด็ก ๆ นักกีฬาด้วย เราจะทำให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าเกเตอเรดเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬาและผู้ที่เสียเหงื่อ เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์ และมีผลพิสูจน์ในนักกีฬาแล้วว่าสามารถดับกระหายได้”
“ผมว่า Sport Marketing เป็นอะไรที่เราสามารถนำความรู้สู่ผู้บริโภคได้เยอะ และมีแพสชั่นที่เราเข้าไปอินกับมันได้จริง ๆ ผมมองว่าเทรนด์ Sport Marketing ต่อไป จะเป็นแนวให้ความรู้มากขึ้น เพราะผู้บริโภคเขาเลือกกินมากขึ้น แบรนด์มีความน่าเชื่อถือได้แค่ไหน คนยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อสินค้าที่ดีกว่า สำคัญที่สุดคือต้องให้ความรู้คนให้ได้ ต้องบอกเขาให้ได้ว่าทำไมสินค้าของเราถึงมีเอกลักษณ์ ปัจจุบันเรามองว่าผู้บริโภคไม่ได้สักแต่ว่าจะซื้อสินค้าแล้วกิน แต่เดี๋ยวนี้มีทั้งรีวิว มีการหาข้อมูลต่าง ๆ อ้างอิงไปถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเรามีข้อมูลเยอะมาก เราจะให้ความรู้ตรงนี้ด้วย ส่วนแพสชั่นทุกแบรนด์พยายามจับอยู่แล้ว แต่จะทำยังไงให้เราโดดเด่น และผมเชื่อมั่นว่าการจัดแข่งขัน Gatorade 5v5 Football 2023 จะทำให้เรายืนหยัดได้ในหมู่คนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล”
แผนพัฒนากิจกรรม 5v5 และแบรนด์ในอนาคต
เมื่อถามถึงแผนพัฒนาต่อยอดกิจกรรมและแบรนด์ในอนาคต คุณอนวัช ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อยากทำให้ใหญ่ขึ้น เพราะอยากให้เด็กไทยโตไปกับเกเตอเรด” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเกเตอเรดก็จะไม่หยุดอยู่แค่กีฬาฟุตบอล
“ผมมองว่า Gatorade 5v5 Football Thailand เป็นกิจกรรมที่ดี ที่ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะทำได้ ไม่ใช่มีไอเดียก็ทำได้ แต่ต้องเป็นแบรนด์ระดับโลกจริง ๆ ถึงจะทำได้ โดยเรามีความตั้งใจมาก ๆ ถ้ามีทางใดที่จะทำให้ใหญ่กว่านี้ได้ เราก็ยินดีที่จะทำ เพราะเราอยากให้เกเตอเรดเติบโตไปพร้อมกับเด็กไทยครับ”
“สำหรับเกเตอเรด แน่นอนว่า ฟุตบอลคือพอยท์ที่ใหญ่ที่สุด แต่เกเตอเรด คือ เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬาและผู้ที่เสียเหงื่อ จึงเหมาะกับกีฬาประเภทอื่น ๆ ด้วย และเกเตอเรดก็มีเครื่องดื่มแบบไม่มีน้ำตาล ถึงไม่ใช่นักกีฬาแต่ชอบใช้ชีวิตแอคทีฟก็สามารถดื่มเพิ่มความสดชื่นได้ หรือผู้ที่ควบคุมโภชนาการก็ดื่มได้ด้วย ดังนั้นอนาคตเกเตอเรดจะไม่หยุดอยู่แค่กีฬาฟุตบอลอย่างแน่นอนครับ”
สำหรับเยาวชนชายสัญชาติไทย อายุระหว่าง 14-16 ปี ที่สนใจศึกฟุตบอล 5 ต่อ 5 Gatorade 5v5 Football 2023 เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ทั่วประเทศ 15 สนาม แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 1 สนาม ได้แก่ สนามอัลไพน์ฟุตบอลแคมป์ เทรนนิ่ง กรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด 14 สนาม ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, ระยอง, สุพรรณบุรี, ราชบุรี, นครสวรรค์, อุตรดิตถ์, เชียงใหม่, เชียงราย, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, กระบี่ และสุราษฎร์ธานี โดยในรอบคัดเลือก จะรับสมัครสนามละ 16 ทีม (สนามกรุงเทพฯ 32 ทีม)
โดยเปิดรับสมัครแข่งขันตั้งแต่วันนี้ – 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 โดยรอบคัดเลือกจะเริ่มแข่งสนามแรกวันที่
18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ณ สนามหญ้าเทียมบ้านทุ่ง จ.กระบี่
#Gatorade5v5 #5v5Thailand #GatoradeThailand
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ : Gatorade 5v5 Football Thailand
หรือคลิก https://www.facebook.com/profile.php?id=100083551441595