xs
xsm
sm
md
lg

It’s Possible “คิง เพาเวอร์” เปิดฉาก THE POWER BAND 2023 SEASON 3 เฟ้นหานักดนตรีหน้าใหม่ ชิงรางวัลรวมกว่า 1.5 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการกลับมาของเวทีที่สร้างโอกาสให้คนไทยได้มีพื้นที่ในการแสดงทักษะทางดนตรี “THE POWER BAND 2023 SEASON 3” เวทีประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2566 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี โดยครั้งนี้พร้อมกลับมาตอกย้ำการเป็นเวทีการประกวดคุณภาพที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีสายเลือดไทย ที่พร้อมผลักดันความฝันของเด็กไทยให้เข้าใกล้คำว่า “ศิลปินมืออาชีพ”

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สานต่อความสำเร็จ ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของเมืองไทย อย่าง MuzikMove, LOVEiS Entertainment, Small Room, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment อีกทั้งโรงเรียนดนตรียามาฮ่า GuitarMAG และ T-POP ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ‘It’s Possible’ Music Makes Life Possible พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้ เพื่อเฟ้นหานักดนตรีหน้าใหม่ ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,500,000 บาท พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษอย่าง The Power Band Music Camp

(คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์)
คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา คิงเพาเวอร์มีความเชื่อในพลังดนตรีของเยาวชนไทย และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด เช่นเดียวกับพันธมิตรทุกท่าน ซึ่ง THE POWER BAND 2022 SEASON 3 ในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีชื่อเสียงและมากด้วยประสบการณ์ทางด้านดนตรี ซึ่งต้องขอบคุณวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล รวมทั้งพันธมิตร 6 ค่ายเพลง พาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ที่มาช่วยกันจัดงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งเวทีนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงฝีมือทางด้านดนตรีอย่างเต็มที่ และถือเป็นการผลักดันให้แวดวงดนตรีคึกคักมากยิ่งขึ้น

“THE POWER BAND เป็นเวทีสำคัญจริง ๆ ที่ให้น้อง ๆ ได้แสดงฝีมือ นอกจากนั้นยังถือเป็นการช่วยพัฒนาประสบการณ์ของน้อง ๆ โดยกูรูจากค่ายเพลงต่าง ๆ ที่จะมาทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ด้วยว่ายังขาดอะไรถึงจะพัฒนาไปต่อได้ เรียกว่า เป็นเวทีที่ดีมาก สำหรับซีซั่นนี้ คิง เพาเวอร์ และพาร์ทเนอร์ทุกท่านก็พร้อมจะให้การสนับสนุนต่อไปเรื่อย ๆ”


(ซ้าย - คุณดนุภพ กมล กลาง - คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา  ขวา - ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ)
ด้าน ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็เล่าถึงความพิเศษของซีซั่นนี้ไว้ว่า THE POWER BAND 2023 SEASON 3” จะมีกิจกรรมพิเศษอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่พูดถึงก็ไม่ได้ นั่นก็คือ “The Power Band Music Camp” 3 วัน 2 คืน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาทักษะ พร้อมก้าวสู่การเป็นคนดนตรีมืออาชีพจากมิวสิคกูรูระดับประเทศ ซึ่งเชื่อว่า แคมป์นี้จะเป็นการส่งต่อประสบการณ์ที่ดีให้ทุก ๆ คน

ซึ่งความพิเศษของซีซั่นก็ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ โดย ดร.ณรงค์ กล่าวเสริมว่า ปีนี้จะเปิดโอกาสครั้งสำคัญให้เยาวชนใน CLASS A (การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นมัธยมศึกษา) สามารถรวมตัวแข่งขัน แม้ต่างสถาบัน ขอเพียงใจรักดนตรีเหมือนกันเท่านั้น

“ปีนี้เราก็ทำทุกอย่างให้ It’s Possible ตามธีมมากขึ้น เราเริ่มเปิดโอกาสให้น้อง ๆ มากขึ้น เช่น เมื่อก่อนจะต้องอยู่โรงเรียนเดียวกัน ตอนนี้ไม่อยู่โรงเรียนเดียวกันก็ได้ ขอให้น้องมีเพื่อนที่รู้จักกันและรักในเสียงดนตรีเหมือนกันก็พอ เราสามารถเข้ามาแข่งข้ามโรงเรียนได้ อันนี้ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า ความร่วมมือ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถาบันเดียวกันก็ได้ ความร่วมมือมันอยู่นอกสถาบันได้ จริง ๆ ก็เหมือนที่พวกเรามารวมตัวกันด้วยความเชื่อที่ว่า เราจะสามารถใช้ดนตรีพัฒนาสังคมได้”

โดย THE POWER BAND 2023 SEASON 3 จะเปิดเวทีให้ออดิชั่นทั้งหมด 5 สนาม เริ่มตั้งแต่กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา และ นครปฐม (ศาลายา) ตามลำดับ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงในโอกาสในการประกวด โดยจะแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท

ได้แก่ 1. Class A การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นมัธยมศึกษา เวทีสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่ 6 (หรือเทียบเท่า) และอายุไม่เกิน 19 ปีบริบูรณ์ (เกิดตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2547 เป็นต้นไป) รวมวงโดยมีสมาชิกตั้งแต่ 3-12 คน ซึ่งทุกวงต้องมีสมาชิกในตำแหน่งนักร้องอย่างน้อย 1 คน (นักร้องสามารถเป็นคนเดียวกับนักดนตรีได้) โดยไม่มีการจำกัดสัญชาติ และคุณสมบัติใหม่ก็คือสมาชิกของวงสามารถมาจากสถาบันเดียวกัน หรือต่างสถาบันก็ได้

2. Class B การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดอายุและสัญชาติ โดยทุกวงต้องมีสมาชิก 3-12 คน และต้องมีสมาชิกในตำแหน่งนักร้องอย่างน้อย 1 คน (นักร้องสามารถเป็นคนเดียวกับนักดนตรีได้) เช่นเดียวกัน


ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์ในการตัดสินของปีนี้ ยังคงความเข้มข้นไว้เช่นเดิม โดยพิจารณาจากสไตล์การร้อง การเรียบเรียงองค์ประกอบของดนตรี ความเข้าใจทฤษฎีดนตรี ทักษะการเล่นเครื่องดนตรี ความสมบูรณ์ของการเล่น และที่สำคัญที่สุดคือการเล่นเป็น Teamwork ต้องไปด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบเพลง ขอเพียงมีความตั้งใจและรักในเสียงดนตรี

และที่สำคัญสำหรับผู้ชนะเลิศจาก 2 CLASS นอกจากจะคว้าถ้วยรางวัลกลับบ้านแล้วยังได้รับเงินรางวัลกว่า 150,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเงินรางวัลรวมของซีซั่นนี้มีมูลค่าสูงถึง 1,500,000 บาท


ด้าน คุณดนุภพ กมล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด กล่าวในฐานะตัวแทนค่ายเพลงว่า การประกวดวงดนตรีสากล ประจำปี 2566 ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการที่มีประสบการณ์ และชื่อเสียงทางด้านดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย และอีก 6 ค่ายเพลงชั้นนำของเมืองไทย ทั้ง MuzikMove, LOVEiS Entertainment Small Room What The Duck Warner Music Thailand และค่ายเพลงใหม่ที่มาร่วมแจมในปีนี้คือ XOXO Entertainment โดยทั้งหมดพร้อมที่ช่วยชี้แนะแนวทางการเป็นศิลปินอย่างมืออาชีพ มีทักษะการเป็นดนตรีที่ดี และเรียนรู้การทำเพลงที่จะดึงศักยภาพออกมาใช้ให้ได้มากที่สุดในการประกวด

“ในส่วนของค่ายเพลง ปีที่ผ่านมา เราเองมีการส่งศิลปินเดินทางไปให้กำลังใจน้อง ๆ ในแต่ละภาคเลย ไปโชว์ แล้วก็ไปแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง รวมทั้งไปร่วมเป็นกรรมการด้วยเหมือนกัน จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าไม่ใช่แค่น้อง ๆ ที่ตื่นเต้น แต่กรรมการ ศิลปินที่ไปก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ในขณะเดียวกันน้อง ๆ ที่เข้าแข่งขันเองก็เติมแรงบันดาลใจให้กับพี่ ๆ เหมือนกัน”



ในช่วงท้าย Jazz Passionแชมป์จาก Class B ที่คว้ารางวัลชนะเลิศในซีซั่นที่ผ่านมาก็ได้มาร่วมให้กำลังใจ พร้อมแชร์สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมความพร้อมในการแข่งขัน ซึ่งทุกคนก็ตอบอย่างพร้อมเพรียงว่า “มันคือพลังใจและพลังกาย” นอกจากนั้นยังต้องแบ่งเวลาให้ดีโดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยเรียน ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความอดทนสูง แม้ในเวลานั้นจะต้องเสียน้ำตา แต่แน่นอนว่าน้ำตาที่เสียไปนั้นก็คือการพัฒนาตนเอง และเชื่อว่า ทุกคนจะต้องภูมิใจอย่างแน่นอนเมื่อได้ยืนอยู่บนเวที

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครพร้อมกันได้ตั้งแต่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 - 4 สิงหาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.music.mahidol.ac.th/thepowerband/และเฟซบุ๊ก https://web.facebook.com/thepowerband.mahidol/?_rdc=1&_rdr โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 3109 และ 02-441-5305




กำลังโหลดความคิดเห็น