xs
xsm
sm
md
lg

"ชูวิทย์" เหนื่อยปราบโกง ลั่นสู้สุดทางเท่าที่ไหว ปลุกคนรุ่นใหม่ช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ชูวิทย์" ระบุ พ.ศ. 2566 ขอบันทึกไว้เป็น “หมายเหตุประเทศไทย” เจ้าหน้าที่รัฐรับส่วย ไม่ว่าพนันออนไลน์ รมต. + ปลัด = 500 ล้าน ทุนจีนสีเทา นอท กองสลากพลัส ชี้ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศนี้ที่เกี่ยวกับคอร์รัปชันมันเกินเยียวยา ลั่นจะสู้สุดทาง เท่าไหนก็เท่านั้น มันก็เหมือนการวิ่ง เมื่อร่างกายอ่อนล้าก็ต้องหยุด ฝืนต่อไปก็ไม่ไหว หวังคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นสู้ เพราะประเทศเป็นของเราทุกคน

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ประเด็น “การส่งส่วย” โดยระบุขอบันทึกไว้เป็น “หมายเหตุประเทศไทย” ดังนี้..

หลายเรื่องราวผ่านมาในชีวิตจนถึงช่วงปลายของผม

สังขารล้วนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยเปลี่ยนในประเทศไทยคือ “การส่งส่วย”

ไม่ว่าพนันออนไลน์ที่ต้องส่งให้ตำรวจ ผบ.ตร. สั่งสอบ มาเก๊า 888 หรือที่มีตำรวจชื่อย่อ “ก” กับ “ต” ในวงการย่อมรู้ดีว่าหมายถึงใคร

ส่วนประชาชนที่ไม่ทราบคงเดาออกว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจแน่นอน เพราะเหมือน “ผีเน่ากับโลงผุ”

ต่อมาก็เป็นเรื่อง รมต. ที่มีข้อตกลงกับ อธิบดี “ร” ให้มา 24 กุมภาพันธ์ 2565 อยู่ถึงเกษียณ 30 กันยายน 2566 รวม 19 เดือน

ให้ส่ง รมต. + ปลัด = 19 เดือน ต้องจ่าย 500 ล้าน

แต่ต้องเคลียร์ทุกสิ้นเดือน

ส่วนอธิบดี “ร” แจ้ง ผอ.ทั้ง 21 สำนัก ต้องส่งทั้งหมด (รายเดือน, งบโครงการพิเศษ และค่าตำแหน่ง) ต้องจบกรกฎาคม (ก่อนเกษียณสองเดือน)

จ่ายตรง ผอ.สำนัก อป. แล้วส่งต่อ เฮีย “ซ” (ซ้ง) เลขาฯ วีไอพี

ที่ซองเขียนว่า “วีไอพี 70%” มันชัดเจนมากว่าถึงใคร?

“คำว่า ‘ให้ความเป็นธรรม’ ผมได้รับฟังมาตั้งแต่วันรับราชการ แต่ผ่านมา 32 ปีที่ผมรับราชการ ผมไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น และไม่เคยได้รับในระบบราชการเลยแม้สักครั้ง”

ข้อความย่อหน้าบนเป็นการระบายความรู้สึกเจ็บช้ำของข้าราชการคนหนึ่งในกระทรวง “ท”

ส่วนล่าสุด ก็ยังมีคนทำเสียชื่อประเทศไทย เพราะดันไปรับจ็อบนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ที่ไม่ว่าหญิง หรือชายจีน มองประเทศไทยเรา “มีเงินทำได้ทุกอย่าง”

เร่งปฏิกิริยาของคนไทยในเรื่องทุนจีนสีเทา ที่มีตู้ห่าว และเครือข่าย เดินขึ้นลงศาลในสภาพที่ขาดอิสรภาพ

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง นอท กองสลากพลัส ที่ไม่เกินต้นเดือนหน้าคงได้เห็นข่าวใหญ่พาดหัวทุกสื่อ

“รวยน้อยหน่อย แต่อยู่นอกคุก หรือรวยมหาศาล แต่อยู่ในคุก”

เมื่อถึงทางสองแพร่ง ต้องเลือกเอาเอง

ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศนี้ที่เกี่ยวกับคอร์รัปชัน มันเกินเยียวยา มีความหลากหลาย และซับซ้อน

คนต่างชาติเข้ามาลงทุนดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย สร้างเครือข่ายผลประโยชน์ โยงใยทั้งนักการเมือง และผู้มีอิทธิพล หรือเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง

หลงลืมอุดมการณ์อันเป็นแกนหลักของสังคมที่มีผลกระทบต่อส่วนรวม โดยเพียงต้องการประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้อง

มันเปรียบเสมือนการวิ่งของผมในวันนี้ ที่วิ่งไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง

เพราะการต่อสู้เรื่องคอร์รัปชันของไทยมันกัดกินไปถึงแกนหลัก ต่อให้มีผมหรือไม่มี ก็มีค่าไม่แตกต่างกัน

รอให้ผมหายเหนื่อยก่อนกลับมาสู้ใหม่ ผมคงแก่เกินไปสำหรับงานนี้ ต้องหวังพึ่งคนรุ่นใหม่เสียแล้ว เพราะประเทศเป็นของเราทุกคน

ลืมบอกไป หมู่นี้เจอใครก็มักบอกผมว่า “ไม่เกี่ยว ไม่เคยรับเงิน ไม่เคยได้อะไร”

แหม.. ประเทศไทยช่างเจริญเสียจริงๆ

ขอบันทึกไว้ พ.ศ. 2566 เป็น “หมายเหตุประเทศไทย”

ชูวิทย์โพสต์ทิ้งท้ายว่า ผมสู้สุดทาง เท่าไหนก็เท่านั้น มันก็เหมือนการวิ่ง เมื่อร่างกายอ่อนล้าก็ต้องหยุด ฝืนต่อไปก็ไม่ไหว


กำลังโหลดความคิดเห็น