องค์กรแพนเทอร่า (PANTHERA THAILAND) เผยเสือโคร่งที่พบบนสันเขื่อนศรีนครินทร์มาจากเขตฯ สลักพระ “รหัส SLT022” และการที่พบเสือมาที่สันเขื่อนศรีนครินทร์ช่วงตี 2 อาจเพราะปลอดคนและเป็นเส้นทางที่เชื่อมกับป่าเอราวัณ สลักพระได้ง่าย
จากกรณีนายกเทศมนตรีตำบลเอราวัณเตือนชุมชนระมัดระวังเสือโคร่ง หลังพบบริเวณสันเขื่อนศรีนครินทร์ และเสือโคร่งได้วิ่งหนีลงบันไดลิงฝั่งโรงไฟฟ้า จึงขอประชาสัมพันธ์ เตือนประชาชนให้เพิ่มความระวังเพื่อความปลอดภัย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (23 ม.ค.) เพจ "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้ออกมาเผยรายละเอียดว่า “แพนเทอร่า ยืนยัน ‘เสือโคร่ง’ บนสันเขื่อนศรีนครินทร์ มาจากเขตฯ สลักพระ “รหัส SLT022”
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2566 นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กล่าวว่า ทางเขตฯ ได้ประสานไปทางองค์กรแพนเทอร่า (THAILAND) ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับเสือโคร่ง ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์บริเวณนี้ เพื่อตรวจสอบเสือตัวดังกล่าวจากลายของเสือ เพื่อจำแนกว่าเป็นเสือตัวไหนอย่างไรที่เคยพบหรือไม่ในกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า
องค์กรแพนเทอร่า (PANTHERA THAILAND) แจ้งว่าเสือตัวดังกล่าวนี้เป็นเสือโคร่งที่เคยพบว่าติดกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าของคณะวิจัยฯ ในพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ โดยถ่ายติดเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา
เป็นเสือโคร่งเพศผู้ ซึ่งจากการตรวจสอบลายของเสือแล้วไม่พบว่ามีข้อมูลจากฐานข้อมูลของเสือตัวนี้จากแหล่งอื่นแต่อย่างใด จึงตั้งชื่อให้เป็น SLT002M ซึ่งการตรวจพบเสือโคร่งของคณะนักวิจัยฯ นั้นจะมีการจำแนกลายของเสือจากข้อมูลของฐานข้อมูลที่มีอยู่ของสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำเป็นพื้นฐาน และบางครั้งพบว่าการเคลื่อนตัวของเสือที่เข้ามาในพื้นที่เขตฯ สลักพระ บางตัวพบว่าเคลื่อนย้ายมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เป็นต้น และถ้าหากตัวที่พบในกล้องไม่พบว่าเคยมีข้อมูลที่อื่นก็จะตั้งชื่อตามพื้นที่ที่ตรวจพบครั้งแรก และการที่พบเสือมาที่สันเขื่อนศรีนครินทร์ช่วงตี 2 อาจเพราะปลอดคนและเป็นเส้นทางที่เชื่อมกับป่าเอราวัณ สลักพระได้ง่าย
คลิกโพสต์ต้นฉบับ