xs
xsm
sm
md
lg

บั้นปลายพระชนมชีพกรมพระนครสวรรค์! ทรงลี้ภัยการเมืองอย่างมีความสุขกับสิ่งที่ทรงรัก!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โรมบุนนาค



สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระปิตุตุจฉาเจ้า สุขุมาลย์มารศรี พระอัครราชเทวี หรือที่เรียกกันว่า “จอมพลบางขุนพรหม” ทรงเป็นบุคคลแรกของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องลี้ภัยการเมืองออกไปนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีนักการเมืองไทยต้องตกอยู่ในสถานะนี้กันหลายคน บางคนไม่ได้สะสมทรัพย์สินไว้ในยามมีอำนาจ ต้องไปใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากและตายด้วยความยากจน บางคนหอบเงินทองทรัพย์สินไปเป็นกระสอบ แต่ก็ต้องไปอยู่อย่างทุรนทุราย เพราะอยากจะกลับมามีอำนาจที่หลงใหลอีก แต่ก็กลับไม่ได้ ต้องตายอยู่ต่างแดน แต่ก็มีบางคนที่รู้จักแพ้รู้จักชนะ ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบสุข ปล่อยให้อดีตเป็นความหลังไม่หวลคิด อย่าง จอมพล ป.พิบูลสงคราม “นายกฯตลอดกาล” เดินจ่ายตลาดทักทายกับชาวบ้านอย่างมีความสุขที่ชานกรุงโตเกียว และ “จอมพลบางขุนพรหม” อยู่กับสิ่งที่ทรงรักมาแต่วัยหนุ่ม แต่พระราชบิดาส่งไปเรียนวิชาการทหาร
ในสมัยรัชกาลที่ ๗ กรมพระนครสวรรค์ฯทรงเป็นผู้มีอำนาจและบารมีล้นเหลือ ทรงมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญมากมาย เป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารเรือ ทั้งยังทรงควบคุมหน่วยงานความมั่นคงไว้มากทั้งทหารและตำรวจ ทรงอยู่ในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการรักษาพระนคร ฉะนั้นเมื่อคณะราษฎรยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ ๒๔ มิถุนายน จึงต้องควบคุมกรมพระนครสวรรค์ให้ได้ก่อน

คณะราษฎรเลือกผู้ที่จับกุมกรมนครสวรรค์ฯและผู้ควบคุมพระองค์ เป็นคนที่ใกล้ชิดและทรงมีบุญคุณอย่างมากมาก่อน อย่าง พ.ท.พระประศาสน์พิทยายุทธ (วัน ชูถิ่น) ผู้นำรถถังพร้อมกองร้อยนักเรียนนายร้อยเข้าควบคุมตัว “จอมพลบางขุนพรหม” ที่วังบางขุนพรหมในเช้าวันนั้น เป็นคนที่คุ้นเคยมากว่าใคร เพราะเป็นนักเรียนนายร้อยเยอรมันรุ่นเดียวกับกรมพระนครสวรรค์ฯ ทั้งยังเป็นคนโปรด เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมกรมพระนครสวรรค์ฯก็เป็นเจ้าภาพแต่งงานให้ และสถานที่รดน้ำสังข์ก็คือท้องพระโรงวังบางขุนพรหมนั่นเอง พระประศาสตร์ฯจึงอึดอัดใจมากที่ต้องทำหน้าที่นี้

แม้ขบวนรถถังของคณะราษฎรจะมาอย่างจู่โจม แต่ทางวังบางขุนพรหมรู้ล่วงหน้าแล้ว นายพลตำรวจพระยาอธิกรณ์ประกาศ อธิบดีตำรวจ และข้าราชบริพารคนสำคัญมาชุมนุมกันพร้อมหน้า แต่ทว่าไม่สามารถสั่งการอะไรได้เพราะโทรศัพท์ถูกตัด จึงทูลเชิญให้ลงเรือกลไฟหลบไปขึ้นที่ท่าเตียน เพื่อไปตั้งหลักที่กรมทหารมหาดเล็กสวนเจ้าเชษฐ์ หน้าวัดโพธิ์ แต่กรมพระนครสวรรค์ฯ รับสั่งว่า
“ฉันหนีไม่ได้ ฉันเป็นผู้สำเร็จราชการรักษาพระนคร”

“จอมพลบางขุนพรหม” ในชุดบรรทมเสด็จออกมารับรถถังอย่างไม่ทรงสะทกสะท้าน พ.ท.พระประศาสน์ฯเข้าไปทำความเคารพด้วยมือสั่นเทา ทรงแปลกพระทัยที่ผู้นำรถถังมาคือคนโปรดของพระองค์เอง
“ตาวัน แกต้องการอะไร” รับสั่งถาม

“ขอเชิญเสด็จไปประชุมที่พระที่นั่งอนันต์ฯ มีข้าราชการทหารและพลเรือนรออยู่พ่ะย่ะค่ะ” พ.ท.พระประศาสน์ฯ ทูลด้วยเสียงสั่นและไม่กล้าสบพระเนตร
เมื่อทรงทราบว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงจึงรับสั่งว่า “ฉันขอแต่งตัวก่อน”

“ไม่ได้ ต้องเสด็จเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ” พระประศาสน์ฯพยายามทำเสียงให้หนักแน่น

ช่วงนี้ได้เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดขึ้น แต่แล้วกรมพระนครสวรรค์ฯก็ทรงยอมเสด็จไปในรถบรรทุกทหาร

เมื่อถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม ผู้เข้ามารับเสด็จก็เป็นผู้ใกล้ชิดอีกคน คือ พลโทประยูร ภมรมนตรีเมื่อครั้งยังไม่มีหน้าที่ในราชการและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งคณะราษฎร ซึ่งการประชุมช่วงแรกๆของคณะราษฎรที่ฝรั่งเศส สถานที่ประชุมก็คือบ้านพักของพลโทประยูรนั่นเอง ในวันที่ยึดอำนาจก็มีหน้าที่ตัดสายโทรศัพท์ร่วมกับนายควง อภัยวงศ์

พอพบนายประยูร ผู้ก่อนที่ไปศึกษาฝรั่งเศสพ่อก็พาไปฝากตัวเป็นข้าหลวงวังบางขุนพรหม กรมพระนครสวรรค์ฯก็ทรงแปลกใจอีก ทรงจ้องมองด้วยสายพระเนตรดุ รับสั่งว่า
“ตาประยูร แกเอากับเขาจริงๆ พระยาอธิกรณ์บอกฉัน ฉันไม่เชื่อ ฉันตั้งชื่อทำขวัญแกให้เมื่อเกิด ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก โกรธที่ฉันไม่ไปเผาศพตาแย้มพ่อแกใช่ไหม”
นายประยูรได้กราบทูลให้เสด็จเข้าไปประทับในพระที่นั่งอนันต์ และรับรองว่าจะไม่ภัยใดๆ โดยจะอยู่เฝ้าพระองค์ด้วยตัวเองตลอด ทำให้กรมพระนครสวรรค์ทรงคลายความกังวลลงในเรื่องหฤโหด อย่างการล้มราชบัลลังก์รัสเซียและฝรั่งเศสที่เกิดก่อนหน้านั้น

“จอมพลบางขุนพรหม” ถูกส่งประทับรถไฟขบวนพิเศษห้ามจอดทุกที่สถานี พร้อมด้วยพระชายาและโอรสพระธิดาอีก ๖ องค์ จุดหมายปลายทางคือปีนัง
หลังจากประทับที่ปีนังระยะหนึ่ง จอมพลผู้อาภัพก็เสด็จไปชวา ทรงสร้าง “ตำหนักประเสนบัน” ที่เมืองบันดุง ซึ่งตอนนั้นอยู่ในความปกครองของฮอลันดา ตามชื่อในเรื่อง “อิเหนา” ที่ทรงเคยแปลจากต้นฉบับภาษามลายู

เมื่อตอนที่พบกับพระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎร ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม กรมพระนครสวรรค์ทรงเผยความในพระหฤทัยว่า

“...การที่ทำงานราชการมาถึง ๓ รัชกาลนั้น มิใช่ใฝ่สูงอยากเป็นใหญ่ แม้การที่ไปเรียนทหารมาก็ไม่ได้เลือกเรียนเอง แท้จริงอยากจะเรียนดนตรี แต่ขัดพระบรมราชโองการไม่ได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงขอไปเสียจากเมืองไทย...”

กรมพระนครสวรรค์ฯทรงฝักใฝ่หลงใหลในดนตรีมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อครั้งที่ไปศึกษาวิชาการทหารที่เยอรมันขณะพระชันษาเพียง ๑๓ พรรษา ยามใดที่พอมีโอกาสก็จะทรงปลีกเวลาไปเรียนดนตรี จนสามารถอ่านเขียนโน๊ตเพลงและแต่งเพลงสากลได้

แม้เมื่อกลับมารับราชการมีงานหนัก พระองค์ก็ยังทรงผ่อนคลายกับดนตรี ทรงรวบรวมนักดนตรีไทยฝีมือดีตั้งเป็นวงพิณพาทย์บางขุนพรหมขึ้น
พระยาภูมีเสวิน มือเอกซอสามสายแห่งยุค ได้เขียนไว้ว่า

“...เจ้านายที่ทรงคุณวุฒิและเก่งในซอสามสายมิใช่ใครอื่น คือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตเอง พระองค์ทรงเล่าเรียนวิชาซอสามสายนี้พร้อมกับข้าพเจ้าจากเทพสุกัญญา บูรณพิมพ์ พระองค์มีฝีพระหัตถ์ในการเล่นซอสามสายจัดว่าเป็นดีเยี่ยม ทรงบรรเลงได้อย่างถูกต้อง หาตัวจับได้ยากทีเดียว...”

ด้วยเหตุนี้ คนที่ผ่านไปมาที่วงเวียนแห่งหนึ่งของเมืองบันดุง อันเป็นที่ตั้งของตำหนักประเสนบัน จึงได้ยินดนตรีไทยอันไพเราะล่องลอยออกมาจากพระตำหนักของเจ้าฟ้าสยามผู้นิราศอยู่เป็นประจำ และพากันเรียกวงเวียนแห่งนี้ว่า “วงเวียนสยาม”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ได้เสด็จไปเยี่ยมกรมพระนครสวรรค์ฯที่ตำหนักประเสนบัน ทรงเล่าว่า

“ทูลกระหม่อมลุงกำลังประทับทรงฆ้องวงอยู่ ที่ติดตานี้ก็เพราะได้เห็นสีพระพักตร์ หรือจะให้อธิบายให้เห็นได้ชัดก็ต้องใช้ภาษาฝรั่งว่า Expression บนพระพักตร์เท่านั้น ทำให้รู้สึกซึ้งใจ เป็นลักษณะคนที่กำลังสุขสบายและเพลิดเพลิน แสดงว่าลุงของข้าพเจ้ามีความสุข...”
เมื่อทรงมีพระชันษาครบ ๖๐ ปี ใน พ.ศ.๒๔๘๔ พระโอรสพระธิดาได้ถวายของขวัญด้วยการนำนักดนตรีจากวงบางขุนพรหม ๕ คน เดินทางไปชวาทางเรือ และอยู่ที่นั่งถึง ๓ เดือน ทำให้เจ้าฟ้าผู้นิราศมีความสุขมาก รับสั่งว่า

“...เล่นดนตรีสนุกจริงๆ อดอยากมานานแล้ว...” และ “...ไม่ได้เล่นพิณพาทย์ถึงใจอย่างนี้มานานแล้ว และคงจะเป็นครั้งสุดท้าย”

จอมพล จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต สิ้นพระชนม์โดยโรคไตแลพระหทัยเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๘๗ ณ ตำหนักประเสนเบา ขณะพระชันษา ๖๓ พรรษา
ปัจจุบัน ตำหนักประเสนบันเป็นโรงเรียนอนุบาลของชาวอินโดเนเซียน




กำลังโหลดความคิดเห็น