"ชูวิทย์" เผยที่มาความซวยของ “นอท กองสลากพลัส” เริ่มจากนาย “ล” ลูกชายจ่า “ม” นายบ่อนใหญ่ย่านปิ่นเกล้า ส่งคนไปทำร้ายบัญชีหน้าม้า เรื่องถึงมือ DSI สืบเส้นทางเงินแคชเชียร์เช็คโยงไปถึง “นอท กองสลากพลัส” รวม 53 ล้านบาท ขยายเส้นทางการเงินต่อพบจากทุนไทยเทาอีก 39 เส้น รวม 1,090 ล้าน พ่วงข้อหา ขายลอตเตอรี่เกินราคา
วันนี้ (17 ม.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงที่มาความซวยของ “นอท กองสลากพลัส” เริ่มจาก
นาย “ล” ลูกชายจ่า “ม” นายบ่อนใหญ่ย่านปิ่นเกล้า
ทำเว็บพนันออนไลน์ร่วมกับนาย “อ” ชื่อเล่น “เฟย” หลานชายจ่า “ม” อีกเหมือนกัน
เท่ากับ “ล” กับ “อ” ทำงานเป็นธุรกิจครอบครัว
ในภาพเป็นกลุ่มลูกน้องของ “ล” ที่รับคำสั่งให้ไปหวดทำร้ายบัญชีม้าแบบไม่ยั้ง เพราะดันไปอมเงิน
ใครคิดจะเปิดบัญชีม้าดูไว้ให้ดี ไม่เจ็บตัว ก็เสี่ยงติดคุก ได้เงินหลักร้อย พอเห็นเงินเข้ามากก็โลภขึ้นสมอง
คดีทำร้ายบัญชีม้าไปถึงมือ DSI สืบสาวราวเรื่อง โยงเส้นเงินไปมา ดันมีเส้นเงินเป็นแคชเชียร์เช็คจ่ายไปให้ “นอท กองสลากพลัส” 2 ฉบับ รวม 53 ล้านบาท
DSI เลยตั้งแท่นคดีเลขที่ 288/65 เมื่อวันก่อนเพิ่งเรียกตัวนอทให้ไปชี้แจงที่มาของเงิน
เป็นความซวยยกที่ 1
แต่เรื่องยังไม่จบ กลับลุกลามเหมือนไฟไหม้ป่า
DSI สืบเส้นทางการเงินต่อ ไปเจอเส้นเงินจากทุนไทยเทาอีก 39 เส้น รวม 1,090 ล้าน แถมบางเส้นมาจากเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ที่หนีไปเสวยสุขอยู่อังกฤษ ซื้อโรงแรมแถวเคนซิงตัน กลางกรุงลอนดอน
จนต้องตั้งเป็นคดีใหม่อีกคดี เลขที่ 6/66
ความซวยยกที่ 2
เท่านั้นยังไม่พอ ตำรวจเกิดขยันขึ้นมากะทันหัน เมื่อเช้าสนธิกำลังไปบุกออฟฟิศกองสลากพลัส ข้อหา ขายลอตเตอรี่เกินราคา เอาเปรียบผู้บริโภคเข้าไปอีก
ซวยซ้ำซวยซ้อนยกที่ 3
ต้องเข้าสุภาษิตชูวิทย์ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้”
หากอยู่เมืองไทยแล้ว เย็นไม่พอ รอไม่ได้ ล้วนมีเรื่องเดือดร้อนไม่หยุดหย่อนตามมาเป็นพรวน
ความสุขต้องออกไปค้นหา แต่ความซวยมันมาเยือนโดยไม่รู้ตัว
เรื่องแบบนี้ ผมผ่านมาหมดแล้ว
นายชูวิทย์โพสต์ต่อท้ายว่า นับวันพนันออนไลน์จะกร่างสุดๆ ตำรวจไซเบอร์ และ DSI ช่วยจัดการทีเถอะ ทำกันมากไป ตีกันเหมือนหมูเหมือนหมา นี่มันคน และมีลูกร้องไห้อยู่ด้วย
หากอยากรู้เรื่องมากกว่านี้ จะจัดให้ครับ แต่ตำรวจไซเบอร์คงไม่เรียกมาเคลียร์นะครับ
ส่วน ล และ ฟ คือใคร? DSI รู้ดี ลูกหลานใครเดาไม่ยาก!