xs
xsm
sm
md
lg

“โอเร็กซ์ เทรดดิ้ง” ส่งผลิตภัณฑ์ "RHINO" ลุยตลาด ประกาศขึ้นแท่นเบอร์ 1​ คว้า "บัวขาว บัญชาเมฆ" พรีเซนเตอร์รายแรกมาช่วยกวาดขายพันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท โอเร็กซ์ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พลาสเตอร์ปิดแผล แผ่นแปะบรรเทาปวด ภายใต้ แบรนด์ "RHINO" ต่อยหมัดหนักทุ่มงบการตลาด 30 ล้านบาท พร้อมควงแขน บัวขาว บัญชาเมฆ" พรีเซนเตอร์คนแรก ทำสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สร้าง Brand Awareness หวังกวาดยอดขายปีแรก 350 ล้านบาท มั่นใจขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดเบอร์ 1 ด้วยเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท ได้แน่ โชว์ความได้เปรียบคุณภาพสินค้าที่มีดีกรีของความเป็นผู้ผลิตและผู้คิดค้นพลาสเตอร์รายแรกของประเทศไทย กว่า 42 ปี ช่องทางจัดจำหน่ายที่ได้รับอนิสงฆ์จากการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และกระจายสินค้าด้านยา เวชภัณฑ์ ตามร้านขายยาและโรงพยาบาล มาก่อน ประเดิมออกสินค้าช่วงแรกมาเขย่าตลาดก่อน 15 รายการ


คุณอุษณีย์ ธารมณีวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โอเร็กซ์ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พลาสเตอร์ปิดแผล แผ่นแปะบรรเทาปวด ภายใต้ แบรนด์ "RHINO" เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในเรื่องของการดำเนินธุรกิจด้านการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชภัณฑ์ , ยา , ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีจำนวนมากกว่า 400 รายการ ให้กับแบรนด์คู่ค้ากว่า 50 บริษัท ขึ้นไป ตลอดช่วงระยะเวลา 42 ปีที่ผ่านมา จนเรียกว่าปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงในเรื่องของผลประกอบการและยอดขายโดยปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 15%


จึงทำให้บริษัทเริ่มมีนโยบายที่ต้องการจะขยายธุรกิจด้วยการหันมาสร้างแบรนด์ของบริษัทขึ้นมาเองในกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มพลาสเตอร์ปิดแผล แผ่นแปะบรรเทาปวด และกลุ่มพลาสเตอร์อื่น ๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ "RHINO" เนื่องจากผลิตภัณฑ์กลุ่มพลาสเตอร์ปิดแผล เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางบริษัทเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้คิดค้นรายแรกของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมานานกว่า 30 ปี จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมั่นใจในเรื่องของคุณภาพสินค้า การคิดค้นสูตรพัฒนาเพื่อผลิตสินค้าใหม่ ๆ ในกลุ่มนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดี โดยบริษัทตั้งเป้าว่าในปี 2566 จะสามารถกวาดยอดขายได้ถึง 350 ล้านบาท และ ภายในอีก 1 ปีข้างหน้า จะสามารถขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสเตอร์ปิดแผล มียอดขายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาด 90% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด 2,000 ล้านบาท


อย่างไรก็ดี การที่จะไปถึงเป้าหมายของการเป็นผู้นำตลาด อันดับ 1 คุณอุษณีย์ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่แข่งขันในเรื่องของคุณภาพสินค้า แต่จะมีเรื่องของกลยุทธ์ตลาดที่บริษัทตั้งงบอยู่ที่ 30 ล้านบาท ในการทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้ง Below the Line และ Alove the Line รวมถึงการสร้าง Brand Awareness ผ่านพรีเซนเตอร์คนแรกของบริษัท คือ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ซึ่งถือว่าเป็นพรีเซนเตอร์ที่ตรงกับผลิตภัณฑ์กลุ่มพลาสเตอร์ปิดแผล แบรนด์ "RHINO" ในเรื่องของความเป็นตำนานที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน เหมือนกับ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ที่เป็นตำนานอยู่คู่กับคนไทยในด้านของความเป็นนักมวยไทย ที่มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ ประกอบกับุคลิกของ"บัวขาว บัญชาเมฆ" ก็มีลักษณะตรงกับแบรนด์ "RHINO" ในเรื่องของการเหนียวแน่น ติดทนนาน






ขณะเดียว "บัวขาว บัญชาเมฆ" ยังเป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, จีน ซึ่งก็สอดคล้องกับแผนของบริษัทในอนาคตที่จะเข้าขยายเข้าไปทำตลาดในประเทศ ญี่ปุ่น, จีน และยุโรป เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดต่างประเทศที่บริษัทจะเข้าไปก่อนในปี 2566 นี้ คือ ประเทศลาว, พม่า, เวียดนาม ตลาดที่เป็น CLMV ทั้งหมด โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ในปีนี้ได้ถึง 100 ล้านบาท


ทั้งนี้ ในเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์พลาสเตอร์ปิดแผล แบรนด์ "RHINO" ในประเทศไทย คุณอุษณีย์ กล่าวเสริมว่า จะวางจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วประเทศกว่า 20,000 แห่ง ร้าน Boots , วัตสัน , โมเดิร์นเทรด, ร้านสะดวกซื้อ 7-11 และ ตลาดออนไลน์ เรียกว่าเป็นความได้เปรียบของบริษัทที่มีจุดแข็งในเรื่องของความเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์มาก่อน จึงทำให้มีพันธมิตรที่เป็นร้านค้าดังกล่าวที่จะช่วยกระจายสินค้า แบรนด์ "RHINO" ไปวางจำหน่ายเพื่อเข้าถึงมือผู้บริโภคได้มากที่สุด โดยผู้บริโภคของบริษัทจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 

1.ผู้บริโภคทั่วไป ที่ 80-90 % ซื้อไปพันมือ พันนิ้ว อาทิ นักกีฬามวย, ฟุตบอล, วอลเลย์บอล เพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมและแข่งขัน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร ชาวประมง ชาวไร่ชาวสวน ที่ซื้อไปพันมือป้องกันมือด้านในช่วงที่ต้องเกี่ยวข้าว ส่วนอีก 10% เป็นผู้บริโภคที่ซื้อไปปิดแผลเอง


ทั้งนี้ ในเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์พลาสเตอร์ปิดแผล แบรนด์ "RHINO" ในประเทศไทย คุณอุษณีย์ กล่าวเสริมว่า จะวางจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วประเทศกว่า 20,000 แห่ง ร้าน Boots , วัตสัน , โมเดิร์นเทรด, ร้านสะดวกซื้อ 7-11 และ ตลาดออนไลน์ เรียกว่าเป็นความได้เปรียบของบริษัทที่มีจุดแข็งในเรื่องของความเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์มาก่อน จึงทำให้มีพันธมิตรที่เป็นร้านค้าดังกล่าวที่จะช่วยกระจายสินค้า แบรนด์ "RHINO" ไปวางจำหน่ายเพื่อเข้าถึงมือผู้บริโภคได้มากที่สุด โดยผู้บริโภคของบริษัทจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้บริโภคทั่วไป ที่ 80-90 % ซื้อไปพันมือ พันนิ้ว อาทิ นักกีฬามวย, ฟุตบอล, วอลเลย์บอล เพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมและแข่งขัน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร ชาวประมง ชาวไร่ชาวสวน ที่ซื้อไปพันมือป้องกันมือด้านในช่วงที่ต้องเกี่ยวข้าว ส่วนอีก 10% เป็นผู้บริโภคที่ซื้อไปปิดแผลเอง


2. กลุ่มลูกค้าในโรงพยาบาล ที่ซื้อไปพยาบาลรักษาคนไข้ที่มาทำแผล ฉีดวัคซีน เป็นต้น ปัจจุบันแบรนด์ "RHINO" จะมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 15 รายการ อาทิ Rhinoplast พลาสท์เตอร์ปิดแผล, Rhinopore พลาสติกเทป ติดทับบนสำลี ผ้าก็อต , Rhinotape ผ้าเทปที่ใช้ในกลุ่มนักกีฬ, Rhinochamp ผ้าเทปพันเขาวัว , Rhinosan แผ่นแปะบรรเทาอาการปวด, Rhinocast Comfort Spray สเปรย์บรรเทาอาการปวด, Rhinobun Icy Spray สเปรย์บรรเทาอาการคันสำหรับคนเข้าเฝือก และ Rhinofilm Spray สเปรย์เคลือบแผล สำหรับผู้สนใจสินค้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.orex.co.th หรือ https://www.facebook.com/RhinoTH

p
กำลังโหลดความคิดเห็น