“ทนายตั้ม” แถลงข้อมูลอดีตรองนายกฯ เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน พร้อมเปิดอีก 6 คำใบ้เกี่ยวข้องกับ มท. ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่ออกมาในปี 61 ก่อเรื่องชู้สาวช่วงปี 2565 แจงต้องเผยเรื่องนี้เพราะลูกความกลัว หลังถูกชายฉกรรจ์ล้อมหน้าบ้าน
จากกรณี ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีที่ชายรายหนึ่งมาปรึกษาว่าภรรยาของตนเองคบชู้ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และกำลังเตรียมการจะฟ้องร้องกรณีดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาฯ มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ภายหลังเปิดเผยแชตข้อความและรูปภาพ ที่ระบุว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นชู้กับภรรยาของชายคนหนึ่ง ซึ่งทนายตั้มใช้ชื่อว่า “นาย ก.” โดยก่อนการแถลงข่าวทนายตั้มได้คุยกับ “นาย ก.” ก่อนด้วย
จากนั้นทนายตั้มได้แถลงข่าวระบุว่า เหตุผลที่ต้องออกมาแถลงข่าวก็เพราะ “นาย ก.” ที่เป็นลูกความตนเองเกิดความกลัว หลังจากมีชายฉกรรจ์ไปล้อม และเคยร้องไปยังรอง ผบ.ตร.แล้ว จึงได้มาปรึกษาตนเองอีกครั้งช่วงหลังปีใหม่ เพื่อต้องการให้สื่อมวลชนทราบเพราะ “นาย ก.” ไม่ได้มีศัตรูที่ไหน หากเกิดอะไรขึ้นมาก็มีเพียงคนเดียว และเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์กับสังคมเพราะคู่กรณีเป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี
ส่วนจะเป็นใครนั้น ทนายตั้มบอกว่าไม่สามารถบอกชื่อตรงๆ ได้เพื่อป้องกันการถูกฟ้อง แต่ไม่ได้กลัวที่จะต้องถูกฟ้อง แต่คิดว่าเสียเวลา และไม่ขอเอ่ยถึงพรรค หรือเป็นอดีตรองนายกฯ สมัยไหนอย่างไร เพราะถ้าระบุไปก็เหลือรองนายกฯ ไม่กี่คน ก็ระบุตัวตนได้ ก็ถูกฟ้องหมิ่นอีก
ทั้งนี้ ทนายตั้มบอกคำใบ้ว่า
- เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี
- เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย
- ชอบตีกอล์ฟ
- แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์
- ไม่ได้อยู่เพื่อไทย ตั้งแต่ปี 2561
- อายุมากแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าใช่คนที่ออกมาปฏิเสธแล้วหรือไม่ เช่น คุณยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ พอระหว่างชื่อนี้ทนายตั้มก็พูดทวนคำถามว่า “คุณยงยุทธออกมาปฏิเสธแล้วเหรอครับ”
ส่วนจะเคยมีพฤติกรรมกับคนอื่นหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ แต่ลูกความของตนเองมีหลักฐานชัดเจน ทั้งรูปภาพ และคลิป ซึ่งหากมีหลักฐานแล้วยังโกหกว่าไม่ใช่ตนเองสังคมก็คงไปเชื่อถือกับคนแบบนี้ไม่ได้แล้ว
ทั้งนี้ ทนายตั้มบอกว่า เรื่องนี้มองได้สองมุมคือเป็นเรื่องชู้สาว และอีกมุมคือเป็นเรื่องของประเทศชาติ เพราะเป็นถึงอดีตรองนายกฯ และทนายตั้มบอกอีกว่า ปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแล้ว เพราะจากการไปค้นประวัติมาพบว่า เคยเป็นสมาชิกเพื่อไทยตอนปี 2551 แล้วพ้นจากสมาชิกไปตอนปี 2561 และมาก่อเหตุเป็นชู้ตอนปี 65
