นพ.ยงเผยการเปิดประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวขณะนี้ทำให้ไทยควรเฝ้าระวังป้องกันสายพันธุ์ BQ หรือการกลายพันธุ์เพราะโอกาสจะเกิดสายพันธุ์ใหม่จะเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักเพื่อป้องกันการระบาดในประเทศไทยระลอกใหม่ให้ช้าที่สุด
วันนี้ (3 ม.ค.) เฟซบุ๊ก "yong poovorawan"
หรือ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “จากการศึกษา วิเคราะห์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่สายพันธุ์อังกฤษ หรืออัลฟา สายพันธุ์เริ่มจากอังกฤษก่อนหลายเดือน ในปลายปี 2563 และถึงแม้ว่าเราปิดบ้านปิดเมือง มีการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศถึง 14 วัน ในที่สุดสายพันธุ์นี้ก็มาระบาดในบ้านเราในเดือนมีนาคม 2564 เช่นเดียวกันกับสายพันธุ์เดลตา จุดเริ่มต้นที่อินเดีย แล้วไประบาดในยุโรปและอเมริกา เข้าสู่ประเทศไทยหลังจากการระบาดในประเทศทางตะวันตก ขณะนั้นก็มีการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศเช่นเดียวกัน
สายพันธุ์โอมิครอนก็เช่นเดียวกัน เราเกิดหลังประเทศทางตะวันตกทั้งนั้น ขณะนี้บ้านเราเป็นสายพันธุ์ BA.2.75 ดังรูป ในขณะที่ยุโรปและอเมริกาได้ระบาดผ่านพ้นไปแล้ว และขณะนี้ทางอเมริกาและตะวันตกทั่วโลกกำลังมีแนวโน้มจะเข้าสู่สายพันธุ์ BQ.1, BQ.1.1 ดังแสดงในรูป ซึ่งคาดว่าต่อไปของเราก็คงระบาดตามมา สายพันธุ์ดังกล่าวจะดื้อต่อภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น
ในขณะที่การระบาดในประเทศจีนขณะนี้ ยังเป็น BA.5 และลูกของ BA.5 คือ BF.7 ดังแสดงในรูป ที่มีความคล้ายคลึงกับ BA.5 ที่เราได้ระบาดผ่านพ้นไปแล้ว หรือ จีนตามหลังเรา คนไทยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจะมีภูมิต้านทานต่อตัวนี้แล้วเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ประเทศจีน โดยเฉพาะถ้ามีการระบาดในผู้ป่วยจำนวนมาก โอกาสจะเกิดสายพันธุ์ใหม่ก็จะเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักไว้ด้วย
จากเหตุผลตามสายพันธุ์ จะให้ตรวจหรือป้องกัน ขณะนี้เราควรป้องกันสายพันธุ์ BQ มากกว่า BA.5 ที่เราได้ระบาดผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ประเทศต้นทางที่น่าจะตรวจ เพื่อป้องกันสายพันธุ์ใหม่ของเรา ควรจะเป็นสายพันธุ์ที่ไม่มีในประเทศไทย เพื่อป้องกันการระบาดในประเทศไทยให้ช้าที่สุด อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ทั้งหมดก็ยังเป็น โอมิครอน ที่ความรุนแรงน้อย และทั่วโลกก็ยอมรับว่าสายพันธุ์นี้ยังระบาดอยู่ทั่วโลก”
คลิกโพสต์ต้นฉบับ