นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ได้ออกมาเผยข้อสังเกตถึงเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยจมลง ระบุคล้ายเรือรบไทยมีอาถรรพณ์ มี 4 ลำ ชื่อ เรือหลวงสุโขทัย ,เรือหลวงศรีอยุธยา ,เรือหลงธนบุรี ,เรือหลวงรัตนโกสินทร์ตอนนี้เหลือเพียงเรือหลวงรัตนโกสินทร์ เผยหากคิดเล่นๆ อาจมีนัยสำคัญอย่างไรกับชะตากรรมของบ้านเมือง
จากกรณี เรือหลวงสุโขทัย ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก ทำเรือเอียง และจมลงใต้ทะเลในช่วงดึกของวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยพบว่ายังคงมีลูกเรือสูญหาย จำนวน 23 คน โดย 1 ใน 30 คนนั้น มีลูกชายของ พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดมภ์ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งเป็นต้นเรือรวมอยู่ด้วย โดยปฏิบัติการค้นหาลูกเรืออีก 23 นาย ที่เหลือจะดำเนินการต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยจะใช้เรือทั้งหมด 4 ลำใหญ่ คือ เรือหลวงอ่างทองเป็นเรือควบคุมสั่งการ ส่วนที่เหลือคือเรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช และเรือหลวงนเรศวร ซึ่งเป็นเรือที่มีศักยภาพสูงที่สุดของกองทัพเรือที่จะเข้ามาช่วย โดยจะวางกระจายจุดในพื้นที่ 30 ตารางไมล์ทะเล สำหรับยอดล่าสุด ของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยทั้ง 105 นาย ปัจจุบันหาพบแล้ว 82 นาย พบว่าเสียชีวิต 6 นายและ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 17 นาย คงเหลือที่ยังคงสูญหาย 23 ราย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (22 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “ทองย้อย แสงสินชัย” หรือ นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย นายทหารพ้นราชการ สังกัดกองทัพเรือ ผู้ประพันธ์กาพย์เห่เรือ เพื่อใช้ในขบวนพยุหยาตราชลมารคมาแล้วหลายครั้ง หลังได้รับพระราชทานยศ พลเรือตรี เป็นกรณีพิเศษ ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า “เรือรบไทยมีอาถรรพณ์ เรื่องนี้ไม่ใช่ “ทาง” ของผม แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ผมก็เก็บเอามาตรึกตรองตามวิสัยของมนุษย์ซึ่งจะต้องคิดอะไรต่อมิอะไรเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้น อย่าคิดอะไรมาก
คิดเล่นๆ เขียนเล่นๆ อ่านกันเล่นๆ เท่านั้นพอ
เรือหลวงหรือเรือรบแห่งราชนาวีไทยมีหลักเกณฑ์ในการตั้งชื่อตามภารกิจของเรือแต่ละลำ ผมไม่ได้ศึกษารายละเอียด จึงบอกหลักเกณฑ์นั้นไม่ได้ แต่สังเกตเห็นว่า มีเรือที่ตั้งชื่อตามยุคประวัติศาสตร์ของชาติ 4 ลำ คือ
-เรือหลวงสุโขทัย
-เรือหลวงศรีอยุธยา
-เรือหลงธนบุรี
-เรือหลวงรัตนโกสินทร์
เกิดอะไรขึ้นกับเรือทั้ง 4 ลำ? เรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดเป็นดังนี้ -
1.เรือหลวงธนบุรี ถูกโจมในการรบระหว่างไทยกับฝรั่งเศสที่เรียกว่า “ยุทธนาวีเกาะช้าง” เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2484 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก-ไม่จมก็เหมือนจม-จนต้องปลดระวาง
2.เรือหลวงศรีอยุธยา จมด้วยฝีมือไทยด้วยกันเอง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2494 กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ ในเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน
3.เรือหลวงสุโขทัยจมในอ่าวไทยที่บริเวณบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2565 อันเนื่องมาจากสภาพคลื่นลมแรง
4.เรือหลวงรัตนโกสินทร์
ยังประจำการอยู่ในราชนาวีไทยเป็นปกติ
ดูตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พ.ศ.2484 เรือหลวงธนบุรี
พ.ศ.2494 เรือหลวงศรีอยุธยา
พ.ศ.2565 เรือหลวงสุโขทัย
เทียบกับยุคประวัติศาสตร์ของไทยก็คือเกิดขึ้นย้อนยุค
เริ่มที่กรุงธนบุรี
ถอยขึ้นไปกรุงศรีอยุธยา
ถอยขึ้นไปกรุงสุโขทัย
ดูตามช่วงเวลา ก็มีนัยที่ผกผันน่าสังเกต
ลำดับเหตุการณ์เหมือนเมืองหลวงมองขึ้น
ช่วงเวลาระหว่างเหตุการณ์หนึ่งถึงเหตุการณ์หนึ่งเหมือนอายุเมืองหลวงมองลง
- จากเหตุการณ์เรือหลวงธนบุรี ถึงเหตุการณ์เรือหลวงศรีอยุธยา เป็นเวลา 10 ปี อายุกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์ 15 ปี
- จากเหตุการณ์เรือหลวงศรีอยุธยา ถึงเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัย เป็นเวลา 71 ปี
อายุกรุงศรีอยุธยา ถึงกรุงธนบุรี 417 ปี
เพราะฉะนั้น อายุกรุงสุโขทัยถึงกรุงศรีอยุธยาเป็นเวลากี่ปี่ ก็จะเป็นช่วงเวลาโดยประมาณ-จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัย ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดกับเรือหลวงที่มีชื่อตามยุคประวัติศาสตร์ของชาติลำต่อไป ซึ่งก็คือ-เรือหลวงรัตนโกสินทร์ นั่นหมายถึง-ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรือหลวงอีก
ซึ่งนั่นก็จะเป็นอายุโดยประมาณระหว่างกรุงรัตนโกสินทร์กับเมืองหลวงของไทยที่จะเกิดใหม่ในอนาคต นั่นหมายถึง-ถ้าจะมีที่ไหนเป็นเมืองหลวงใหม่อีก
ที่น่าสังเกตก็คือ ถ้านับย้อนยุคประวัติศาสตร์ ก็จะต้องเป็น-รัตนโกสินทร์ < ธนบุรี < อยุธยา < สุโขทัย
ตามนัยนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์กับเรือ ก็น่าจะเกิดกับเรือหลวงรัตนโกสินทร์ก่อน แล้วจึงไป > เรือหลวงธนบุรี > เรือหลวงศรีอยุธยา > เรือหลวงสุโขทัย ตามลำดับที่เกิดจริง
แต่กลับข้ามลำดับ ไปเกิดกับเรือหลวงธนบุรีก่อน เรือหลวงรัตนโกสินทร์ยังประจำการอยู่ในราชนาวีไทยเป็นปกติสุขทุกประการ
มีนัยสำคัญอย่างไรกับชะตากรรมของบ้านเมือง? ผมไม่รู้ บอกแล้วว่า เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ทางของผม ได้แต่คิดเอาเองว่า รักษาระยะห่างของเหตุการณ์ระหว่างเรือหลวงสุโขทัยกับเรือหลวงรัตนโกสินทร์ไว้ได้นานเพียงไร นั่นแหละคืออัตราส่วนอายุของกรุงรัตนโกสินทร์
และถ้าสามารถดูแลรักษาใช้งานเรือหลวงรัตนโกสินทร์ไปได้ตามปกติจนหมดสภาพไปเอง ปลดระวางตามอายุขัย ก็จะเป็นสิ่งประเสริฐยิ่งนัก เพราะเป็นนัยว่า กรุงรัตนโกสินทร์ของเราก็จะมั่นคงยั่งยืนไปชั่วกาลนานเทอญ-เช่นเดียวกัน
แต่ในอนาคต ไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง
รู้แต่ว่า วันนี้ รักษาเรือหลวงรัตนโกสินทร์ไว้ได้ รักษากรุงรัตนโกสินทร์ไว้ได้
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
21 ธันวาคม 2565
14.22”
คลิกโพสต์ต้นฉบับ