รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์ข้อความร่ายยาวถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตั้งใจทำงานหนักหวังเปลี่ยนประเทศให้ดีขึ้นจนล้มป่วย ฝากถาม ข้าราชการ นักการเมือง ถึงเวลาตั้งใจทำงานเพื่อประเทศ ประชาชนแล้วหรือยัง
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความยกตัวอย่างของเด็กผู้หญิงรายหนึ่งที่ทำงานหนักหวังทำให้ประเทศดีขึ้น จนกระทั้งเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาก็ไม่ใช่เพราะเรื่องของไสยศาสตร์แต่เป็นเพราะเด็กผู้หญยิงคนนั้นทำงานหนักร่างกายก็พัง ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“โพสต์นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใคร เพราะผมไม่ได้ต้องการดราม่าผมแค่ต้องการยกตัวอย่าง เน้นนะครับ ผมไม่ได้หมายถึงใคร
นึกตามผมนะครับ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง อยู่ในจุดที่อยากได้อะไรก็น่าจะได้ อยากใช้ชีวิตเพื่อตัวเองอย่างไร ก็น่าจะชี้นิ้วสั่งได้หมดแต่ไม่
เรียนมหาวิทยาลัยรัฐ ก็นั่งทานข้าวข้างทางง่ายๆแถวตรอกซอกซอยท่าพระจันทร์ต่อคิวอย่างถูกต้องเดินผ่านผู้ใหญ่ก็โค้งแล้วโค้งอีก
เรียนต่อปริญญาต่างประเทศที่ใช้เส้นสายไม่ได้เลย ก็ขยันขันแข็ง จนประสบความสำเร็จระดับโลก ในรางวัลที่เอาเงิน เอาเส้นซื้อไม่ได้
โตขึ้นมางานทุกชนิด ต้องขอทำด้วยตัวเอง ไม่พึ่งใครลงพื้นที่ เดินบนพื้นดิน กินกลางพื้นทรายอยู่เป็นนิจ จนเป็นที่รู้กันในหมู่ชาวบ้านในพื้นที่ลำบากน้ำท่วมก็ไปอยู่ตรงนั้นเกษตรพื้นราบ เกษตรพื้นที่สูง ไปมาหมด
2 อาทิตย์ที่แล้วนี่เองก็พึ่งเดินทางข้ามตำบลแล้ว ตำบลเล่า จนหลายๆคนถามว่า ต้องทำงานหนักขนาดนั้นจริงๆเหรอ?กลับถึงที่พัก ก็ทำงานถึง 6 โมงเช้า เน้นว่าทำงานยาวถึง 6 โมงเช้านอน 4-5 ชั่วโมง ตื่นมาก็ลุยงานต่อ
ผมก็แค่อยากบอกว่ากับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง ที่ต้องการจะเปลี่ยประเทศให้ดีขึ้น สังคมควรรับรู้อะไรแบบนี้ไว้บ้าง
ความเจ็บป่วยทางร่างกายกระทันหันมันไม่ใช่เรื่องของดวง ของไสยศาสตร์อะไรหรอกครับมันเกิดเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ทำงานหนักเกินไป เพราะอยากให้ประเทศนี้มันดี ก็เพราะรักประชาชน รักประเทศ รักแผ่นดิน
หนักไป ก็พัง
ง่ายๆแค่นั้น
ถ้าหากเรายังรักคนแบบนี้อย่าให้คนไม่กี่คนต้องทำงานหนักขนาดนี้สิครับข้าราชการ นักการเมืองแทนที่จะมีแต่พิธีรีตรองอะไรก็ไม่รู้มากมาย วันๆเล่นแต่เส้นสาย ก็ควรมาตั้งใจทำงาน และทำงานให้เกิดผลดีกับประเทศแบบเห็นผลสิครับประชาชนอย่างเราก็ต้องรู้หน้าที่ (เหมือนประเทศที่เจริญ) ด้วยการพัฒนาตัวเอง พัฒนาสังคมรอบตัวขยัน หมั่นเรียนรู้ทำ มากกว่าพูดไปเรื่อยหยุดมักง่าย หยุดทะเลาะ หยุดขี้โกง หยุดดราม่า หยุดขี้อิจฉา หยุดขี้นินทา หยุดขี้เกียจครับ
แล้วประเทศจะดีขึ้น”