เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง นำคณะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารพาณิชย์กว้าง 1 คูหา จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่ซอยร่มเกล้า 16 เขตมีนบุรี กทม. พบการกระทำผิดต่อสายตรงไฟฟ้าโดยไม่ผ่านเครื่องวัดฯ
รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุจะต่อกระแสไฟฟ้าตรงกับสายไฟฟ้าของ MEA โดยต่อเติมฝ้าเพื่อปิดบังอำพรางจุดเชื่อมต่อพ่วงกระแสไฟฟ้ากับอุปกรณ์ของ MEA อีกทั้งผู้ก่อเหตุจะเลือกสถานที่เป็นรูปแบบอาคารพานิชย์ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน และปิดบ้านในลักษณะคล้ายไม่มีผู้อยู่อาศัย ทำให้ไม่เป็นจุดสังเกตของผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง
รองผู้ว่าการ MEA กล่าวยืนยันว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้านั้น MEA สามารถตรวจพบได้จากฐานข้อมูลการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งต่างๆ ของ MEA และการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการละเมิดต่อกระแสไฟฟ้าจาก MEA ในลักษณะดังกล่าว นอกจากจะเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายในคดีแพ่งและอาญาแล้ว ยังเป็นการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมถึงเกิดเพลิงไหม้ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ขณะเดียวกัน การติดตั้งสิ่งกีดขวางอุปกรณ์จำหน่ายไฟฟ้าของ MEA ยังเป็นการกีดขวางการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ยากต่อการตรวจสอบและบำรุงรักษา ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า และเกิดการชำรุด ลัดวงจรจนเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้ใช้ไฟฟ้าได้
สำหรับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอาคารปล่อยเช่า ควรตรวจสอบผู้เช่าว่ามีการใช้งานอาคารในลักษณะใด มีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นการละเมิดการใช้ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android ของ MEA ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง