ชาวเน็ตอึ้งจังหวัดหนองคายเผยแพร่ภาพและคลิปชนะการประกวด "มหัศจรรย์บั้งไฟพญานาค ปี 2565" พบมีคนส่ง 41 ภาพ ได้รางวัลคนเดียว แถมภาพเห็นแล้วเป็นต้องขยี้ตา ส่วนวิดีโอคลิปคนส่ง 18 คลิป ได้รางวัลแค่ 4 คน วิจารณ์ว่าผิดปกติหรือไม่ แต่ไม่นับรวมอีกส่วนหนึ่งไม่เชื่อบั้งไฟพญานาคมีจริง
วันนี้ (28 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า มีชาวเน็ตได้ตั้งข้อสงสัยกรณีที่จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย ได้จัดการประกวดภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ ในหัวข้อ "มหัศจรรย์ บั้งไฟพญานาค ปี 2565" เพื่อส่งเสริมการจัดงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค สองฝั่งโขงเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำปี 2565 โดยได้เชิญชวนผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดระหว่างวันที่ 10-15 ต.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อครบกำหนดระยะเวลารับสมัคร มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดเป็นภาพนิ่ง จำนวน 41 ภาพ และคลิปวิดีโอ จำนวน 18 คลิป โดยได้ประกาศผลการประกวดไปเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ผลการตัดสินพบว่าภาพนิ่ง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นางภัทรกร รังษีวงศ์ แต่ที่เหลือไม่มีผลงานผ่านการพิจารณารับรางวัล ส่วนวิดีโอ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นายวิศิษฏ์ เมืองศรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ น.ส.ศุภรา มาวงษ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ น.ส.เฟื่องฟ้า โชคดีทรัพย์ รางวัลชมเชยจำนวน 5 รางวัล มีผลงานผ่านการพิจารณารับรางวัลเพียง 1 รางวัล ได้แก่ นายประจักร เติมลาภ
ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ "PR.Nongkhai สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย" เผยแพร่ภาพนิ่งรางวัลชนะเลิศ พบว่าลักษณะเป็นภาพถ่ายคล้ายถ่ายจากโทรศัพท์มือถือช่วงหลังตะวันตกดิน และมีลูกไฟจุดๆ คล้ายบั้งไฟพญานาค ทำให้มีชาวเน็ตออกมาตั้งข้อสังเกตว่าผลงานสมกับที่ได้รับรางวัลหรือไม่ ไม่นับรวมข้อสังเกตที่มีคนได้รับรางวัลชนะเลิศเพียงคนเดียว โดยไม่มีใครได้รับรางวัลอื่นอีก 8 รางวัล ทั้งที่มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดเป็นภาพนิ่งจำนวน 41 ภาพ จึงตั้งข้อสงสัยว่าผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้ ผลงานวิดีโอคลิปก็ยังเป็นที่วิจารณ์เช่นกัน เพราะยังมีชาวเน็ตหลายคนไม่เชื่อว่าบั้งไฟพญานาคมีจริง
ส่วนเฟซบุ๊กเพจ "พิสูจน์บั้งไฟพญานาค" ซึ่งรวบรวมความเห็น ทฤษฎี และหลักฐานเกี่ยวกับบั้งไฟพญานาค มีผู้ติดตามกว่า 36,000 คน ออกมาคอมเมนต์ตั้งข้อสังเกตวิดีโอคลิปที่ได้รับรางวัลว่า ในที่จัดงาน เกรียนเล่นประทัดดอกไม้ไฟเยอะมาก เสียงนั้นน่าจะด้านข้างหรือด้านหลัง ส่วนเสียงลูกปืนจะต้องดังตามมาทีหลัง ตามความกว้างน้ำโขงน่าจะ 3 วินาที ซึ่งก็จะถูกเสียงโห่เฮกลบหมดแล้ว และยังมีประเด็นฝั่งลาวยิงทั้งลูกส่องแสงและลูกไม่ส่องแสง เสียงข้ามโขงมาไม่ยากนัก แต่คนทั่วไปจะแยกแยะเสียงปืนกับเสียงประทัดไม่ค่อยออก แต่ลูกที่ไม่ส่องแสงยิงแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร ไม่รู้สึกเฉลิมฉลอง เขาอาจจะแยกเอาลูกส่องแสงออกมายิงเล่นกลางคืน ส่วนลูกธรรมดาใช้ยิงป้องกันข้าศึกตอนกลางวันมากกว่า