เมื่อวันที่ 26 ต.ค. สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (Thai Pet Food Trade Association) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Pet Fair South East Asia 2022 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยันรัฐพร้อมสนับสนุนส่งเสริมให้ไทยก้าวสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 1 ของโลก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเปิดงาน Pet Fair South East Asia 2022 ว่า "อุตสาหกรรมสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสินค้าดาวรุ่งของประเทศไทย นำรายได้เข้าประเทศ เฉลี่ยปีละกว่า 65,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันไทยขึ้นเป็นผู้ส่งออกอันดับ 3 ของโลก รองจากเยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ
“ขอแสดงความชื่นชมกับความสำเร็จในการรวมตัวกันของผู้ประกอบการสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย และสนับสนุนการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ภายใต้หลัก "รัฐหนุน เอกชนนำ" ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยผลักดันและส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง อันดับ 1 ของโลก"
ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย กล่าวว่า สมาคมจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562 เพื่อส่งเสริมและผลักดันนโยบาย 3 ด้าน ได้แก่ การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ความปลอดภัยอาหาร มาตรฐานทางจริยธรรมและสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการเจรจาการค้าและวิชาการให้เกิดการยอมรับและแก้ไขปัญหาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การทำงานร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานเอกชนต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทยตลอดจน Supply Chain ให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ได้นำแนวนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) มาใช้ในอุตสาหกรรม
“ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกจำนวน 10 บริษัท ซึ่งเป็นการต่อยอดจากอุตสาหกรรมทูน่า โดยการนำทูน่า ไก่ และวัตถุดิบหลากหลายชนิดระดับ Human grade มาผลิต ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตของเกษตรกรและชาวประมงในประเทศ มีการลงทุนทางเทคโนโลยี การสร้างทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตรอาหารสำหรับสุนัขและแมว และบรรจุภัณฑ์ที่ตรงความต้องการตลาด สินค้าคุณภาพสูงผ่านมาตรฐานสากลต่างๆ จึงได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก"
ดร.ชนินทร์ได้กล่าวอีกว่า ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไปมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ตลาดส่งออกหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อิตาลี และในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้มีภาษีนำเข้าต่ำ หรือมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เก็บภาษีในอัตราร้อยละ 0-5 โดยประเทศไทยได้เปรียบในการแข่งขันจากต้นทุนและคุณภาพ ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตของสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทยยังสามารถขยายตัวได้เป็น Double Digit
