xs
xsm
sm
md
lg

ตราบที่ยังหายใจ รักไม่สิ้นกลิ่นอาย Custom : ‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน ‘BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย มิสชั่น และบริษัท โฟร์ ไฟเตอร์ส จำกัด
สวย เท่ เก๋ ดิบ หรู ยูนีค (unique) ความงาม โดดเด่น หลากหลายสไตล์เฉพาะตัวที่ต้องมองจนเหลียวหลัง ทั้งหลายทั้งปวงคือรถ Custom ที่มีให้ชมอย่างจุใจ ในงาน ‘BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW’ ที่จัดอย่างต่อเนื่องมานับแต่ปี ค.ศ.2016, 2017, 2019 และล่าสุด งานที่ผู้ชื่นชอบรถ Custom เฝ้ารอคอยงานนี้ ก็กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 4-6 พฤศจิกายน ค.ศ.2022

‘ผู้จัดการออนไลน์’ จึงสัมภาษณ์พิเศษ ‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย มิสชั่น และบริษัท โฟร์ ไฟเตอร์ส จำกัด
ที่ฉายภาพให้เห็นนับตั้งแต่ความทรงจำอันสวยงามแรกสุดที่จำความได้ ซึ่งส่งผลให้เขารักและหลงใหลรถแต่งมานับแต่เยาว์วัย กระทั่ง เมื่อถึงวันที่พร้อมด้วยคุณวุฒิและเก็บเกี่ยวองค์ความรู้ สั่งสมมานานปี จากการตระเวนชมและสร้าง Connection กับเหล่าผู้จัดงาน Custom ในหลายประเทศ ทั่วทั้งเอเชียและยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่เขาสามารถบรรลุข้อตกลง ‘Deal’ ได้อย่างสวยงาม กับ มิสเตอร์ชิเกะ ( Mr. Shige Suganuma ) เจ้าของงาน Yokohama Hot Rod Custom Show Japan ซึ่งเป็นงาน CUSTOM แห่งแรกในโซนเอเชียที่จัดมานานมากกว่า 30 ปีแล้ว

งาน BANGKOK HOT ROD จึงเป็นงานรถ CUSTOM SHOW เพียงแห่งเดียวในเอเชีย ที่ได้ ‘นามสกุล’ เดียวกับ Yokohama Hot Rod Custom Show Japan เป็น BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ที่เปรียบเสมือน ‘ลูก’ ของงาน ณ Yokohama ก็ว่าได้ ขณะที่งานประกวดรถ Custom Show ในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ก็ล้วนใช้ชื่อที่ต่างออกไป โดยมิได้ใช้นาม Hot Rod Custom Show ต่อท้าย

นอกจากบอกเล่า ถึงที่มาและการจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ในแต่ละปี ซึ่งล้วนได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาดหมาย เขาและทีมงานยังมองเห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของคนไทย ที่มีฝีไม้ลายมือในการแต่งรถไม่แพ้ชาติใดในโลก และมุ่งหวังผลักดันให้ความสร้างสรรค์นี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีเวทีให้ได้แสดงฝีไม้ลายมือ ได้พบปะกับศิลปิน นัก CUSTOM จากประเทศต่างๆ

ความพิเศษของงานในปีนี้ จึงไม่เพียงมีคณะกรรมการจากต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาตัดสินรางวัล ภายในงานยังมีพื้นที่ให้กับการประกวด Kustom Paint Thailand Contest โดยนันทพัฒน์เชื่อมั่นว่า ศิลปินกลุ่มนี้ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังรถต่างๆ ที่มีลวดลายสวยงาม ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาจึงเปรียบเสมือน ‘Soft Power’ ที่อยู่เบื้องหลังความสวยงามของรถทุกคันที่เข้าประกวด

ยังมีรายละเอียดและความน่าสนใจอีกมาก ที่นันทพัฒน์บอกเล่าไว้ผ่านถ้อยคำนับจากนี้

‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย มิสชั่น และบริษัท โฟร์ ไฟเตอร์ส จำกัด
ความทรงจำประทับใจ

เมื่อขอให้บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจแรกเริ่มที่ทำให้ชอบและหลงใหลรถแต่ง ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด
นันทพัฒน์ตอบว่า “ถ้าย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นว่าทำไม ผมถึงรักรถ อยากแต่งรถ ผมเติบโตมากับวงการรถตั้งแต่เด็ก ผมคลุกคลีอยู่กับสนามพีระเซอร์กิต อยู่กับสนามแข่งรถมาตั้งแต่ผมจำความได้ อยู่กับงานมอเตอร์โชว์ มาตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ และเป็นปีแรกของงานมอเตอร์โชว์

คุณพ่อผมเคยอยู่ บริษัทกรังปรีซ์ ครับ ( *หมายเหตุ : บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) )แล้วก็คุณพ่อเป็นโฆษกสนามพีระเซอร์กิตด้วย ทุกครั้งจะพาผมไปตลอด ดังนั้น ผมจึงซึมซับกับวงการนี้มาตั้งแต่ผมจำความได้ รักในเสียงเครื่องยนต์ หลงใหลในการแต่งรถ ผมเห็นรถแต่ง ผมเห็นทุกอย่างเหล่านี้มาตั้งแต่ผมจำความได้
แล้วเมื่อโตขึ้น เราเดินทางมาถึงจุดจุดหนึ่งที่เราทำอะไรเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว เราทำอีเวนท์ เราอยู่เบื้องหลังหลายๆ แบรนด์ หลายๆ โปรดักส์ มาเยอะแล้ว เราอยากจะทำอะไรที่มันเป็นงานของตัวเองบ้างครับ"


"คือต้องบอกว่า ไม่มีใครรู้ครับ ว่าเด็กน้อยคนหนึ่ง เวลาคุณพ่อไปดูรถแข่ง ทุกคนจะ Welcome เด็กน้อยคนนี้ จะรักผมหมดเลย ‘อ้าว บอมบ์ มานี่มา นี่ลูกพี่แดงโว้ย’ คือพ่อผมชื่อแดงครับ เขาก็จะชวนคุย เรียกเรา ‘มาๆ ดูแลบอมบ์ ดีๆ นะ’ ผมจึงผูกพันกับทีมงานในสนามแข่ง ผมก็ได้ไปนั่งในรถเขาบ้าง เพราะบางทีคุณอาเขาก็บอกว่าอย่าเดินแบบนี้ มันอันตราย เดี๋ยวจะแข่งแล้ว 
ผมซึมซับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดครับ อย่างที่ผมบอก สำหรับผมแล้ว จึงไม่มีความสุขเท่ากับการได้เห็นรถสวยๆ เห็นรถแต่ง ได้ฟังเสียงเครื่องยนต์ ได้ดูคนขี่รถสวยๆ กัน เราเองอาจไม่มีปัญญาไปขี่รถคันละ 30-40 ล้านบาท แต่แค่เห็นคนไทยได้ขี่รถแบบนั้น ผมก็มีความสุขแล้วครับ เพราะว่าเราก็คือคนไทยเหมือนกัน

"ความรักที่ผมมีให้กับการแต่งรถอยู่ในดีเอ็นเอจริงๆ ครับ พูดแล้วก็ขนลุก
ผมรักในสิ่งนี้ และผมจะตายไปพร้อมกับมันนี่แหละครับ
คุณพ่อเคยสอนว่า ตายยังไงให้คนจดจำ ชีวิตมันถึงจะมีค่า
เพราะฉะนั้น ผมเริ่ม ผมสร้าง BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ผมไม่ได้แค่หวังว่าสิ่งนี้จะตายไปพร้อมกับผม ผมว่าวันนึง ต้องมีคนมาสืบทอดต่อจากผม ซึ่งการจะสืบทอด ทำเองคนเดียวไม่ได้ ต้องมีแรงขับเคลื่อนจากหลายคน ทุกประเทศ เวลาเขาจัดงาน HOT ROD ทุกคนในประเทศเขาต่างก็นำความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศตนเองออกมาให้ Guest ต่างชาติเห็น


"ผมอยากให้บ้านเราเป็นแบบนั้น อยากให้ทุกคนรักกัน ช่วยกันผลักดันงานแบบนี้ออกไป แล้วเมื่อวันหนึ่งประสบความสำเร็จ คุณจะเห็นเองว่าสิ่งที่คุณลงทุนลงแรงทำไป เดี๋ยวมันก็จะกลับมา ผมเชื่อแบบนั้น แต่ถ้าเราไม่กล้าที่จะก้าว ไม่กล้าที่จะเริ่ม มันก็คงเกิดขึ้นไม่ได้ครับ” เป็นเรื่องราวความประทับใจนับแต่เยาว์วัย กระทั่งถึงปัจจุบันของประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ผู้นี้










บรรยากาศงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ในครั้งที่ผ่านๆ มา

‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW  และ Mr. Shige Suganuma  , Yokohama Hot Rod Custom Show Japan

‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW  และ Mr. Shige Suganuma  , Yokohama Hot Rod Custom Show Japan
แรกเริ่มกำเนิดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW

เมื่อขอให้ช่วยเล่าถึงความเป็นมานับแต่แรกเริ่มของการจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ว่ามีความเป็นมาอย่างไร

นันทพัฒน์ ตอบว่าสาเหตุสำคัญของการจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW เกิดจากการที่เขาและทีมงานได้มองเห็นถึงความสำคัญของคนไทย ที่มีฝีไม้ลายมือในการแต่งรถ
เขากล่าวว่า BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW เกิดมาจากการที่เขาและทีมงานได้เดินทางไปต่างประเทศ ได้ไปดูงานของประเทศต่างๆ ทั้งในโซนเอเชียและโซนยุโรป

“หลังจากนั้น ทีมงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ของเรา ก็ได้ไปพบกับมิสเตอร์ชิเกะ ( Mr. Shige Suganuma ) ซึ่งเป็นเจ้าของงาน Yokohama Hot Rod Custom Show Japan
งานนี้ เป็นงานเริ่มแรกในโซนเอเชียเลยครับ จัดมา 30 กว่าปีแล้ว
นอกจากนั้นก็จะมีประเทศอื่นๆ รอบบ้านเรา ไม่ว่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน เขาก็มีงานในแนวนี้เหมือนกันครับ”

“แล้วด้วยความที่ผมโตมากับวงการรถมาตั้งแต่เด็ก คลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก
เราก็ได้มองเห็นศักยภาพของคนไทย ว่า จริงๆ แล้ว เรื่องของการแต่งรถ
การ CUSTOM นั้น คนไทยไม่ได้แพ้ชาติใดในโลกเลยนะครับ จากฝีมือและรถบางคัน บางคนอาจยังไม่รู้ว่าประเทศอื่น เขาไม่มีรถรุ่นนี้แล้ว แต่ยังมีเก็บอยู่ที่เมืองไทย บางคัน คนในเมืองไทยไปประมูลมาจาก Museum ที่อเมริกา ประมูลซากรถมา แล้วเอามา CUSTOM เอง อะไหล่บางอย่างหาไม่ได้ ก็สร้างขึ้นมาเอง แล้วเขาก็เก็บไว้
มันก็เลยเป็นที่มาของการที่ผมมีความรู้สึกว่า แล้วทำไมเราจึงไม่จัดงานขึ้นมาสักงานเพื่อให้เป็นเวทีที่จะประกาศศักยภาพของคนไทยให้ต่างชาติได้รู้ว่า คนไทยทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน 

"เหล่านี้ก็เป็นที่มาที่ทำให้เราเข้าไป พูดคุยกับมิสเตอร์ชิเกะ ( Mr. Shige Suganuma )
ว่าเราอยากที่จะจัดงาน Hot Rod Custom Show ขึ้นมาในไทยเหมือนกัน
ซึ่งเรามีความโชคดีตรงที่ว่ามิสเตอร์ชิเกะมองเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน
ของพวกเรา ที่อยากจะมีงานดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น เป็นสังคมของคนที่เขาอนุรักษ์และมีความชื่นชอบในความเป็น Hot Rod Custom ผมก็เลยได้รับลิขสิทธิ์ตรงนี้มา ผมต้องบอกว่าในเอเชียนอกจากที่โยโกฮาม่าแล้ว มีประเทศเราเป็นประเทศเดียวที่ได้รับลิขสิทธิ์ ได้รับอนุญาตให้ใช้นามสกุล คำว่า Hot Rod Custom Show ขณะที่มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ใช้ชื่ออื่น
แต่เราใช้ชื่อ BANGKOK และนามสกุล HOT ROD CUSTOM SHOW
เหมือน Yokohama Hot Rod Custom Show ครับ”


นันทพัฒน์บอกเล่าถึงความเป็นมากว่าจะเป็น BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกล่าวเพิ่มเติมว่า
การทำงานก่อนหน้านั้น เขามีอาชีพเป็น Organizer จัดงานให้กับหลายๆ บริษัทมาแล้วมากมายแล้ว แต่งาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW นั้น ถือว่าเป็นความชอบส่วนตัวของเขาเอง





‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย มิสชั่น และบริษัท โฟร์ ไฟเตอร์ส จำกัด

‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย มิสชั่น และบริษัท โฟร์ ไฟเตอร์ส จำกัด










นันทพัฒน์กล่าวว่า ในขณะเดียวกัน ยังมีผู้จัดงาน ซึ่งเป็นทีมงานของเขาเอง ร่วมเป็น Co-Founder อีก 3 ซึ่งนับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับ BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOWเดิมทีพวกเขามีการพูดคุยกันกับทีมงานมาสักพักหนึ่งแล้วว่าเราอยากจะทำ BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW เพราะเราเห็นถึงศักยภาพของคนไทยและอยากให้ชาวต่างชาติได้เห็นว่าคนไทยเก่ง คนไทยก็มีดี คนไทยมีความสามารถมากมาย คนไทยขาดอย่างเดียวคือพื้นที่
ขาดเวทีให้นำเอาไอเดียเจ๋งๆ มาพบเจอกัน จึงเป็นที่มาให้นันทพัฒน์ได้เดินทางไปพูดคุยกับมิสเตอร์ชิเกะ ( Mr. Shige Suganuma ) ซึ่งเป็นเจ้าของงาน Yokohama Hot Rod Custom Show Japan ในปี ค.ศ. 2015

“เราก็ได้แรงบันดาลใจแล้ว เพราะทางมิสเตอร์ชิเกะมองเห็นความสำคัญและศักยภาพของคนไทยนะ เขาบอกจัดเลย เดี๋ยวเขาซัพพอร์ตให้ จากนั้นเราก็ทำการบ้าน หาความรู้กันอีก 1 ปีเต็มๆ ครับ เราทำการบ้าน ด้วยการเดินทางไปในแต่ละประเทศ เพื่อไปเชิญ Builders หรือว่า Guest ที่เป็น Founder ของแต่ละประเทศ
เริ่มต้นก็คือ ผมต้องเชิญ Founder จากแต่ละประเทศมา เพื่อให้เขาเป็นกระบอกเสียงให้กับเรา
ในปีแรก งานจึงเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2016 เราจัดกันใกล้ๆ โรงงานยาคูลท์
( *หมายเหตุ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ) ที่ถนนวิภาวดีรังสิตครับ” นันทพัฒน์ระบุ











ภาพรวมการเดินทางไปร่วมงาน โปรโมทงาน และเป็นกรรมการตัดสินรถ Custom ในหลายประเทศ
หวังสร้างปรากฏการณ์รถ CUSTOM ให้ยั่งยืน

ถามว่าคุณต้องการให้งาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW กลายเป็น Culture เป็นปรากฏการณ์ที่ยั่งยืนในประเทศไทยให้ได้ ปัจจุบันถือว่าทำได้สำเร็จหรือไม่ ยังมีสิ่งใดที่คุณคาดหวัง

นันทพัฒน์ตอบว่า “จริงๆ แล้ว ผมขออนุญาตตอบอย่างนี้แล้วกันครับ คือสำหรับผมแล้ว BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW มันไม่ใช่แค่งานครับ แต่ที่ผมต้องการคือการสร้างปรากฏการณ์รถ CUSTOM ให้เป็นที่ยั่งยืนในประเทศไทยให้ได้ วันนี้ ผมมีลมหายใจอยู่ วันนี้ผมยังพอที่จะมี Connection มีลู่ทาง ผมไม่ได้ทำงานนี้เพื่อเงินนะครับ แต่ผมทำงานนี้เพื่อคนไทยทุกคน ผมอยากให้งานนี้ เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงของผมและทีมงาน ผมไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสทำแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ถึงเมื่อไหร่ แต่ตราบเท่าที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ ผมก็จะทำต่อไป หากถามผมว่า งาน ณ ตอนนี้ มัน Success หรือยัง ผมคงตอบไม่ได้
แต่ผมบอกได้แค่ว่า เราได้รับ Feedback ที่ดีขึ้น ในทุกๆ ปีที่เราจัดครับ

"ปีแรกเราได้รับ Feedback ที่ดี แต่ต้องพูดแบบนี้ครับ ลำพังผมเอง ผมไม่ได้มีทุนทรัพย์เพียงพอ จึงต้องมีการหาสปอนเซอร์ เพื่อที่จะนำเงินตรงนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการเชิญ Guest ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วให้เขา จองโรงแรมให้เขา ดูแลทั้งการรับ-ส่งจากสนามบิน ดูแลเรื่องอาหาร ดูแลทุกอย่าง

"ทุกอย่างเป็น Cost ทั้งหมด และอย่างที่เล่าว่าปีแรกเราเริ่มด้วยพื้นที่เล็กๆ เป็นโกดัง แถวๆ โรงงานยาคูลท์ จากนั้นมาเมื่อปีแรกเราได้ Feedback ดี ก็ต้องบอกว่าผมเป็นคนบ้าๆ นิดๆ เราอยากทำให้สุด ปีที่สอง ผมก็เขยิบไปอีกขั้น คือผมขายรถไปคันนึงเลยครับ เพื่อที่จะเอาเงินไปเป็นค่าเช่าที่ไบเทค บางนา ( *หมายเหตุ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ) เพราะอยากจะทำให้คนได้รู้ว่า ใครที่ยังไม่เคยไปงาน Yokohama Hot Rod Custom Show Japan คุณมาที่งานนี้ คุณไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินไปเลย คุณจะได้มาเห็นงาน Yokohama Hot Rod Custom Show ในเวอร์ชั่นไทยแลนด์
และผมก็สามารถทำให้ Guest จากญี่ปุ่น ที่เขาอยู่ที่ Yokohama Hot Rod Custom Show Japan บอกว่า นี่คือเดอะเบสต์ Hot Rod Custom Show ในเอเชียแล้วนะ

"นี่แค่ปีที่สองนะครับ แต่การสนับสนุนจากในหลายหน่วยงานก็มีให้บ้างครับ
โดยที่เขาไม่รู้เลยครับว่างาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW มีส่วนช่วยเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากงานของผมเป็นงานที่มีคนจากทั่วประเทศเดินทางมาทั้งจากภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ทุกๆ ภาค คือเขาไม่ได้มาวันเดียว แล้วเขากลับ แต่เขาต้องหาที่พัก เมื่อเขามา เขาต้องใช้ชีวิตถึง 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยในกรุงเทพฯ
ดังนั้น จึงถือว่ามีเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งในโรงแรมและสายการบินเองก็เช่นกัน

บางคนมาจากเชียงใหม่ เขาก็ไม่อยากนั่งรถมา เขาก็นั่งเครื่องมา ดังนั้น ในการจัดงานแต่ละครั้งจึงส่งผลหมดเลยครับ 
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่เราไม่ได้มีช่องทาง หรือ Connection ที่จะเข้าไปขอสปอนเซอร์ให้มาสนับสนุนในจำนวนมาก
เช่น ในปีที่สอง การเช่าไบเทค ผมก็ไม่ได้มีปัญญาไปเช่าฮอลล์ใหญ่ๆ ผมก็เช่าได้แค่ฮอลล์เดียวครับ เพราะผมซัพพอร์ตไม่ไหว ก็ต้องเรียนตรงๆ ครับ ผมไม่อายเลยครับ แล้วก็ในส่วนของปีแรก ขาดทุนอยู่แล้วครับ มีคนเข้ามาเยอะจริง แต่ค่าตั๋วเราแค่ 300 บาท แต่ผมจ่าย Cost หลายล้านบาท ดังนั้นจึงขาดทุนครับ”

นันทพัฒน์ระบุและกล่าวว่า ในการจัดงานครั้งต่อมา ค่าตั๋วก็ยังคงมีราคาอยู่ที่ 300 บาท ขณะที่ในงานครั้งที่สอง ซึ่งจัด ณ ไบเทค บางนานั้น นันทพัฒน์ขายรถไปคันหนึ่งเพื่อนำเงินมาใช้จัดงาน






พักทบทวนและพร้อมไปต่อ ตราบที่ยังหายใจ

จากนั้น เมื่อเสร็จสิ้นงานครั้งที่สองในปี 2017 นันทพัฒน์จึงตัดสินใจพักก่อน จากปีแรกคือ ค.ศ. 2016 
และปีที่สองคือ ค.ศ. 2017 หากจะจัดต่อในปี 2018 เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาไม่มีเงิน ไม่มีทุนทรัพย์ จึงหยุดก่อน เพื่อหารือกับทีมงานทุกๆ คน ดังนั้น ในปี 2018 จึงเป็นปีที่นันทพัฒน์หยุดจัดงาน เพื่อไตรตรองว่า จะไปต่อหรือพอแค่นี้ 
และในที่สุด เขาก็ตัดสินใจจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ในปี ค.ศ.2019 ซึ่งนับเป็นปีที่ 3

“ ผมตัดสินใจว่าเมื่อเดินทางแล้ว ผมต้องไปให้สุด
วันนี้ มันยังไม่สำเร็จไม่เป็นไร แต่เราต้องไปต่อ อย่างที่ผมได้บอกไว้ข้างต้นว่า ตราบใดที่ผมยังมีลมหลายใจ 
ผมก็จะทำต่อไปนะครับ จะเกิดอะไรก็ไปว่ากันในอนาคต

"เมื่อถึงปี 2019 ผมไปจัดที่ไบเทคไม่ได้ เพราะผมมีเงินไม่พอ ไม่มีผู้สนับสนุน ผมก็จัดที่ Show DC ในปี 2019 และทำให้ผู้ที่ชอบ HOT ROD CUSTOM SHOW กระจายไปยังต่างประเทศ

"คือต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับว่า ในแต่ละปี เมื่อผมจัดงานในไทยจบ แต่ผมยังไม่จบนะครับ ผมต้องเดินทางไปร่วมงานที่อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน ทุกปีนะครับ ทั้งเพื่อโปรโมทงานตัวเองและเพื่อไปดึงคนจากประเทศเขามาประเทศเรา
ผมก็ทำวิธีนี้ตลอดเวลา ใช้ทุนทรัพย์ตัวเอง เดินทางกันเอง ยกทีมไป
แต่ว่าเราไปในฐานะของคนไทย แต่ไม่ได้มีใครมารับรู้กับเรา เพียงแต่ถ้าใครที่เขาอยู่ในแวดวงนี้ เขาจะรู้ว่า BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ไปออกบูธที่โยโกฮามา ที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน


"ในปี 2019 ก็เริ่มมีจุดพลิกผันขึ้นมา เนื่องจากมีผู้ใหญ่ สนใจว่า ‘เอ๊ะ! งานอะไร ยังไงนะ ไหนลองเข้ามาคุยกันหน่อยสิ’ เราก็เลยได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แล้วก็ได้ใช้โลโก้ของ Amazing Thailand
เริ่มดีขึ้นมา เริ่มมีความหวังว่าเราหยุดไป 1 ปี ในปี 2018 แล้วการที่เราตัดสินใจกลับมาจัดต่อเป็นปีที่ 3 ในปี 2019 มันเริ่มเห็นผลแล้ว แม้เม็ดเงินอาจไม่ได้มาก แต่สำหรับผมก็ดีใจที่หน่วยงานราชการเริ่มเห็นความสำคัญแล้ว
เพราะว่าในทุกประเทศที่ผมเดินทางไป รัฐบาลในทุกประเทศ เขาให้การสนับสนุนหมด เพราะรัฐบาลเขามองเห็นว่านี่แหละ คืองานที่ทำให้มองเห็นถึงศักยภาพของคนในประเทศเขา นี่แหละคืองานที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วกระตุ้นเศรษฐกิจ
เพราะฉะนั้น รัฐบาลเขาจึงสนับสนุนหมดครับ ค่าเช่าที่ ไม่ต้องเสียตังค์
ใครเดินทางมาซึ่งต้องมาพักโรงแรม เขามี Official โรงแรมให้ ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวคุณจ่ายแค่ครึ่งราคา แต่ถ้าเป็น Guest ที่ผู้จัดเชิญมา พักฟรี ทุกประเทศเป็นแบบนั้นครับ หน่วยงานในประเทศเขาสนับสนุน” นันทพัฒน์สะท้อนความเห็น


กลับมาพร้อมหลากหลายไฮไลท์ ใน ‘BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW 2022’

ถามว่างานครั้งล่าสุดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4-6 พ.ย.นี้ จะมีความพิเศษอะไรบ้าง ต่างจากงานครั้งที่ผ่านๆ มาอย่างไร


นันทพัฒน์ตอบว่า ไฮไลท์ของงานคือการประกวดรถแต่งที่เป็นฝีมือของคนไทยล้วนๆ กว่า 200 คัน


“ในปีนี้ หลักเกณฑ์การให้คะแนนของเรา เป็นหลักสากลอยู่แล้วครับ เพราะคณะกรรมการของเรา มาจากต่างชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายประเทศทั่วโลก เขาผ่านเวที CUSTOM ระดับโลกมาแล้วมากมาย
คณะกรรมการตบเท้าเข้ามา 30 กว่าชีวิต ที่ผ่านมา งานผมไม่เคยมีคณะกรรมการเยอะขนาดนี้มาก่อน ทุกคนมาด้วยใจ มาด้วยความที่อยากซัพพอร์ตและผลักดันให้ HOT ROD CUSTOM SHOW ของไทย ไประดับโลกให้ได้
เพราะฉะนั้น การเชิญบุคคลเหล่านี้มา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ คือ มันเกิดจากการที่เขาเห็นความสามารถของคนไทยกลุ่มเล็กๆ อย่างพวกเรา แต่ผมถือว่าเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดเลย แม้เราจะต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ไม่รู้ไปมากี่ประเทศ ไม่ใช่ว่าจะโชคดีที่จะได้พบกับคนกลุ่มนี้ได้ง่ายๆ ครับ
เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของปีนี้ คือคณะกรรมการ 30 กว่าท่าน ซึ่งเราโปรโมทไปแล้วว่า ทุกคนที่มานั้น เรียกได้ว่าเป็น ‘ตัวพ่อ’ ของวงการจริงๆ แล้วมากันหมดเลยครับ เขามาด้วยใจที่อยากจะพบกับ Builders ชาวไทยจริงๆ
ถ้าคุณเป็นนักสะสม หรือกำลังหา Inspiration หรือต้องการพบกับสุดยอดนัก CUSTOM ในปีนี้ คุณพลาดไม่ได้เลย เพราะผมไม่รู้เลยว่าโควิดจะกลับมาอีกหรือเปล่า ผมจะได้จัดในปีต่อไปหรือเปล่า
แต่ว่าปีนี้ มันเหมาะที่สุดแล้วครับ แล้วผมถือว่าผมและทีมงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ทุกคน เราทำเต็มที่ ทำเต็มร้อย เกินร้อยด้วย ทุกคนก็ตั้งใจที่จะทำให้งานในปีนี้ ทำออกมาได้ดี ได้ประทับใจมากที่สุด ให้สมกับที่เราหายไปสองปี” นันทพัฒน์ระบุ








บรรยากาศงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ในครั้งที่ผ่านๆ มา

‘นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล’ ประธานจัดงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย มิสชั่น และบริษัท โฟร์ ไฟเตอร์ส จำกัด
‘The One in the World’ ฝีมือคนไทยไม่เป็นรองชาติใดในโลก

นันทพัฒน์กล่าวว่า งานปีนี้ ต้องบอกว่ามีรางวัลพิเศษคือ ผู้ที่ชนะรางวัล ทั้งประเภทมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ สองรางวัลนี้ จะเป็นสองรางวัลที่ผู้ชนะจะได้ติดตามทีมงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ไปงาน Yokohama Hot Rod Custom Show Japan ด้วย แล้วไปในฐานะ VIP เนื่องเพราะ BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ถือเป็นลูกของ Yokohama Hot Rod Custom Show Japan อยู่แล้ว ดังนั้นคุณจะได้ไปกระทบไหล่กับ Builders ทั่วโลก แล้วคุณจะได้เห็นว่าคนไทยไม่ได้แพ้เขาเลย

“อย่างที่บอกว่า ถ้าผมไม่มีความมั่นใจในฝีมือของคนไทย ผมคงไม่กล้าจัดงานนี้แน่ๆ ครับ” นันทพัฒน์บอกเล่าถึงความน่าสนใจของงานในปีนี้และบอกกล่าวเพิ่มเติมว่า งาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW 2022 เป็นอีก 1 ปีที่มีการประกวด Kustom Paint Thailand Contest ขึ้น โดยนันทพัฒน์กล่าวว่า ศิลปิน ARTISTS กลุ่มนี้ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังรถที่มีลวดลายสวยงาม ต่างๆ ศิลปินเหล่านี้เองคือ Soft Power ที่อยู่เบื้องหลังความสวยงามของรถทุกคันที่เข้าประกวด
ในฐานะคนไทย นันทพัฒน์รู้สึกว่าอยากผลักดันและสนับสนุนคนกลุ่มนี้ ให้มีเวที ให้มีช่องทาง ให้มี Connection ให้ได้มาโชว์ผลงาน

“เพราะฉะนั้น ปีนี้ นอกเหนือจาก Guest ที่มา นอกเหนือจากการประกวดแล้ว ก็คือการประกวด Kustom Paint Thailand Contest นี่แหละครับ โดยเป็นการรวบรวมเอาศิลปินของไทย ในจังหวัดต่างๆ ที่เขามีฝีไม้ลายมือ และได้ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว มาประกวดกันในงานนี้
ใครบางคนที่ขี่รถมาชมงาน แล้วอยากจะมีลวดลายเป็นของตัวเอง คุณเดินเข้าไปคุยกับเขาได้เลยครับ เขียนลายกันตรงนั้น เพนท์กันตรงนั้น ในงานผมได้เลยครับ หรือคุณลาก ARTISTS ออกไปเขียนที่รถคุณเลย
แล้วสิ่งนี้ ทำได้ครั้งเดียวนะครับ เขียนได้ครั้งเดียว ไม่สามารถที่จะไป Copy ได้ ดังนั้น ลวดลายที่จะอยู่บนรถของคุณ คือ ‘The One in the World’
มีแค่คันเดียว ไม่ซ้ำแบบใคร แล้วมันก็จะทำให้ทุกคนได้รู้จัก ARTISTS ของเราด้วย อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ผมกลับมาจากงานที่อินโดนีเซีย คือ ปีนี้ ผมพา ARTISTS ผมไปด้วย เชื่อไหมครับว่าเจ้าของงานที่นู่นให้เกียรติเรา ถึงขนาดให้ ARTISTS ของเราคือ Mr. Pinman ขึ้นไปเขียนลายบนรถ Lucky Draw ของเขา แล้วคือทุกคนให้การยอมรับ ARTISTS คือ Mr. Pinman ว่าคือสุดยอดจริงๆ ทำให้ ARTISTS ของประเทศอื่นสนใจและอยากที่จะมาไทย คือเห็นได้เลยครับว่านี่คือการแลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน มีการต่อยอด แต่ถ้าเราไม่มีพื้นที่ ไม่มีเวทีให้เขา คนเหล่านี้ก็ทำได้แค่รับงานอยู่บ้าน คนอีกเป็นล้านคนที่ไม่ได้เห็นงานของเขา
แต่ครั้งนี้ คุณไม่ต้องไปไหนแล้วครับ คุณมาที่งาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW เลยครับ คุณได้เจอเขาแน่
ที่สำคัญคือจะมีการ challenge กันด้วยครับ ศิลปินจากทั้งอิตาลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น
ผมจะพามา fighting กับศิลปินไทยด้วยครับ โชว์กันบนเวทีเลยครับ แล้วจะได้เห็นว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นไม่เกินเลยจากความจริง ที่ว่าศิลปินไทย ไม่แพ้ชาติไหนในโลก”
นันทพัฒน์ระบุถึงความสนุกที่จะเกิดขึ้นในงานปีนี้


แรงสนับสนุน Soft Power

นันทพัฒน์กล่าวว่า “ สำหรับ BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ผมไม่ต้องการอะไรมาก นอกไปจากแรงสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่มองเห็นถึง Soft Power เล็กๆ กลุ่มนี้ ว่า เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์ใดนอกเหนือไปจากการที่เราอยากให้คนไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลก หน่วยงานไหนที่มีความเกี่ยวข้องที่ผมอยากขอรับการสนับสนุน ไม่ว่าหน่วยงานไหน อะไรก็ได้ครับ
เช่น หน่วยงานที่อาจจะสนับสนุนผมในเรื่องการจัดประชุม นิทรรศการ หรืออำนวยความสะดวกเรื่องการท่องเที่ยว หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้หน่วยงานเหล่านี้ มองงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ว่าไม่ใช่งานของผมและทีมงาน แต่เป็นงานของคนไทย
ปีนี้ เราอาจไม่ได้เป็นสถานที่ที่ติดแอร์ ไม่ใช่สถานที่หรูหรา เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ผมไม่ได้มีการสนับสนุนอะไรมากมาย โดยหลักแล้วผมใช้เงินตัวเองครับ และผมไม่ได้ขายบัตรแพงไปกว่าเดิมเลย คือ 300 บาท เหมือนเดิมครับ”

“ผมอยากให้คนที่กำลังมองหา inspiration พี่ๆ น้องๆ ที่รักในการ CUSTOM ฝากไปถึงทุกคน คนที่มี CUSTOM เป็นของตัวเอง ไม่ต้องอายครับ อย่าอาย ถามตัวเองว่าชอบอะไร แบบไหน แล้วจงภูมิใจกับรถที่เราขับ CUSTOM ของแต่ละคน แต่ละสไตล์ แต่ละแนว ไม่ต้องกลัวว่าใครจะว่าอะไรคุณ จงภูมิใจกับมัน แบบไหนก็ได้ครับ มันคือการ CUSTOM ในแบบของคุณ แล้วคุณจะขับและขี่มันได้อย่างมีความสุข”

สำหรับวันเวลา สถานที่การจัดงานและราคาตั๋วเข้าชมงานในปีนี้ นันทพัฒน์กล่าวว่า
สถานที่คือ Secret Safehouse (ถ.ราษฎร์บูรณะ) วันที่ 4-5-6 พฤศจิกายน 2565 ราคาบัตร 300 บาท สามารถซื้อบัตรได้ที่หน้างาน หรือซื้อผ่านเว็บไซต์ https://bangkokhotrod.com
“ความพิเศษคือ ปีนี้เป็นปีแรก ที่ผมฉีกต่างไปจากทุกประเทศเลยครับ คือ BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW 2022 จัดงานถึงสามวัน ขณะที่ญี่ปุ่น จัดแค่วันเดียว ประเทศอื่นๆ จัดแค่ 2 วัน
แต่ปีนี้ BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW 2022 จัด 3 วัน สาเหตุที่ผมกล้าจัด เพราะแค่วันที่ 4 พ.ย. 2022 ซึ่งเป็นวันแรก ผมก็จี๊ดแล้วครับ เพราะผมจะเปิดขายบัตรราคาพิเศษ รับจำนวนจำกัดแค่ 400 คน เพราะปีนี้เป็นปีที่ 4 ผมจึงรับแค่ 400 คน บัตรอาจแพงหน่อย ( หมายเหตุ * บัตร 400 สิทธิ์ ตรวจสอบราคาและซื้อได้ผ่าน https://bangkokhotrod.com )
แต่สิ่งที่คุณจะได้รับกลับไป คือของที่ขายใน Box Set จะไม่มีขายในวันที่ 5 และวันที่ 6 พ.ย. 2022 คุณจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เดินชมงาน ได้กระทบไหล่กับ Builders ทั้งหมดที่ผมเชิญมาแบบ Private นี่คือไฮไลท์ของงาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW 2022 ในวันที่ 4 พ.ย. 2022 เป็นครั้งแรก
เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มี Founder จากมาเลเซีย บินมาหาผม เขาบอกว่า ‘บอมบ์ ทำไมยูถึงกล้าจัดแบบนี้’ ผมก็บอกว่า ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เพราะ Feedback ที่ผมได้รับมามันดีเกินคาดแล้ว ดังนั้น ผมก็อยากจะทำให้คนที่คาดหวังว่า งาน BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW ปีนี้จะเป็นยังไง ให้พวกเขามีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้น วันที่ 4 พ.ย. จึงมีบัตรแค่ 400 สิทธิ์ ส่วนวันที่ 5-6 พ.ย.ราคา 300 บาท สามารถซื้อบัตรที่หน้างานได้เลยครับ” ประธานจัดงาน ‘BANGKOK HOT ROD CUSTOM SHOW’ กล่าวทิ้งท้าย

สิ่งที่ชายผู้นี้ถ่ายทอดมา เชื่อว่าย่อมทำให้เหล่าแฟนๆ ผู้หลงใหลการ CUSTOM ชื่นชอบรถแต่ง สนใจพบปะเหล่า Builders และศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังความสวยงามของรถแต่ละคัน ย่อมไม่น่าพลาดงานนี้ไปได้

…………………

Text By : รพีพรรณ สายัณห์ตระกูล
Photo By : เจ้าของภาพ, https://bangkokhotrod.com