xs
xsm
sm
md
lg

บ้านริมเจ้าพระยา พนังแตก-น้ำทะลักบ้าน หวังชัชชาติช่วยด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บ้านริมเจ้าพระยา หลัง สน.บางยี่ขัน หวัง “ชัชชาติ” ช่วย ... กทม.ถมคลองเป็นถนน 4 ปีก่อน แถมพนังรั่ว น้ำทะลักขังอยู่ในบ้าน ไร้ทางไหลออก


รายงานพิเศษ 

“บ้านเราอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาก็จริง แต่เราอยู่หลังพนังกั้นน้ำ ก็ควรจะปลอดภัยจากน้ำท่วม จึงไม่เข้าใจว่าแล้วทำไมต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ ตั้งแต่พนังมีรอยแตกด้านล่างเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ด้วยความที่หลังบ้านเป็นลำรางที่มีลักษณะคล้ายคลอง เมื่อก่อนน้ำเจ้าพระยาทะลักเข้ามาก็จริง แต่มันก็ไหลผ่านบ้านไปลงคลองก็จบ แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่ กทม.มาถมคลองเป็นถนนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเขาไม่ได้ทำท่อระบายน้ำ กลายเป็นว่า น้ำที่ทะลักเข้ามามาขังอยู่ในบ้านเรา และเพื่อนบ้านอีก 2-3 หลัง ไม่มีทางให้น้ำไหลออกไปได้เลย อย่างปีนี้ (2565) พ่อแม่เราอยู่ในบ้านที่น้ำท่วมบ้านมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้ว” 

สถาพร สุชาติ ผู้ซึ่งมีบ้านติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาในซอยสมเด็จพระปิ่นเกล้า 2 หลังสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. เล่าถึงความทุกข์ทรมานที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่น้ำท่วมขัง จนกลายเป็น “อ่างเก็บน้ำขนาดย่อมๆ” มาต่อเนื่องมานานเกือบ 3 เดือนแล้ว ทั้งที่มีพ่อวัย 87 ปี และแม่วัย 80 ปี ที่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด ต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย 

ตลอดเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา สถาพร ซึ่งมีอาชีพเป็นนักเขียน ต้องตื่นขึ้นมาตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจากแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของหลายหน่วยงาน ทั้งตรวจสอบปริมาณน้ำฝน ตรวจสอบระดับน้ำทะเลหนุน ไปจนถึงช่วงเวลาที่น้ำจะขึ้นสูงที่สุดในแต่ละวัน ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในช่วงนี้ด้วยความเครียด เพราะกังวลว่า หากเขาไม่ใส่ใจตัวเลขเหล่านี้ อาจทำให้เตรียมตัวรับมือกีบสถานการณ์ที่น้ำจะเข้าท่วมไปในตัวบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ได้ไม่ทันท่วงที 

“ตอนนี้ผมเครียดมาก เราตามข่าวระดับน้ำที่จะถูกปล่อยลงมาทุกวัน ยิ่งมาถึงวันนี้ เราเห็นแล้วว่า น้ำเจ้าพระยาจะผ่านที่บางไทร อยุธยา เกินกว่า 3,500 ลบ.ม./วินาที ก็นอนไม่หลับเลย เพราะนี่ขนาดว่า มาแค่ 2 พันปลายๆ ไปถึง 3 พันนิดๆ ก็ยังมีผลกระทบขนาดนี้ ถ้ามาเกิน 3,500 เกินความจุของลำน้ำ พ่อแม่เราจะอยู่ได้มั้ย” 

“คุณพ่ออายุ 87 แล้ว ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ พอน้ำท่วมอยู่ล้อมบ้านก็ออกจากบ้านไม่ได้เลย เวลาจะไปก็ต้องทำทางให้เดินออกจากบ้าน ถอยรถพยาบาลมารอรับที่ประตูบ้านเลย” 








สถาพร เล่าว่า พนังกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา มีขึ้นมาตั้งแต่ประมาณปี 2538 หรือ 2539 แต่เดิมที่สร้างพนังขึ้นมา คนในบ้านและคนที่อยู่แถบนี้ดีใจมาก แต่พอผ่านไปซักระยะหนึ่ง ก็รู้สึกได้ว่า พนังกั้นน้ำน่าจะมีรอยรั่ว ซึ่งเป็นรอยรั่วที่อยู่ในส่วนที่จมอยู่ในแม่น้ำ ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มไหลผ่านบ้านของเขาไปลงคลองที่อยู่หน้าบ้าน ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็ได้พยายามแจ้งทาง กทม.ไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาซ่อมแซม จนกระทั่งความเดือดร้อนหนักขึ้นในปี 2561 เมื่อคลองหน้าบ้านต้องมาถูกถมกลายเป็นถนน เพราะต้องทำทางเดินใหม่ เนื่องจากทางเดินเส้นเดิมที่ชาวบ้านเคยใช้ ถูกสร้างเป็นสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน 

“คุณสามารถดูได้เลย ถนนที่เกิดขึ้นจากการถมลงไปบนคลองเส้นนี้ กลายเป็นคันกั้นน้ำชั้นดีเลยครับ เพราะมันเป็นแค่ถนนหินคลุก ถมหินลงไปโดยไม่ได้วางแผนทำท่อระบายน้ำเลย ไม่มีทางระบายน้ำแม้แต่น้อย ดังนั้นบ้านผมและเพื่อนบ้านอีก 2 – 3 หลังตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นอ่างเก็บน้ำ เพราะทุกครั้งที่น้ำเจ้าพระยาขึ้น ก็จะมีน้ำไหลมาจากรอยรั่วของพนัง แต่ไม่ได้ไหลผ่านไปเฉยๆเหมือนแต่ก่อน เพราะมีถนนมาเป็นคันกั้นน้ำไม่ให้ไหลผ่านออกไป” 

ถ้าถามว่า เขาได้ร้องเรียนไปยังกรุงเทพมหานครกี่คั้งแล้ว สถาพร ไม่สามารถให้คำตอบนี้ได้ เพราะเขาร้องเรียนไปในจำนวนที่นับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่ในยุคที่พบว่ามีรอยรั่วที่พนังกั้นน้ำ มาจนถึงตลอด 4 ปี หลัง ที่คลองหน้าบ้านถูกทำให้กลายเป็นคันกั้นน้ำ 

“น่าจะตั้งแต่สมัยผู้ว่าฯ อภิรักษ์ (โกษะโยธิน) นะครับ มายุคผู้ว่าฯ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ (บริพัตร), พล.ต.อ.อัศวิน (ขวัญเมือง) ทุกครั้งที่แจ้งไปที่สำนักงานเขตบางพลัด ก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับมา จนมาถึงยุคของผู้ว่าฯ ชัชชาติ (สิทธิพันธุ์) ผมก็ร้องเรียนไปอีก ทั้งที่เขตบางพลัด ไปที่ศาลาว่าการ กทม. และส่งไปที่แอปพลิเคชั่น Traffy Fondue ซึ่งเป็นช่องทางร้องเรียนใหม่ แต่การตอบกลับที่ได้รับมา ก็มีเพียงแค่การนำเครื่องสูบน้ำขนาดกลางๆ มาตั้งเดินเครื่องไว้เครื่องหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีการซ่อมแซมอะไร” 

“ผมเชื่อว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเจ้าหน้าที่อาจมองว่า มันเป็นแค่ความเดือดร้อนของบ้านไม่กี่หลัง แต่ผมก็อยากให้ท่านผู้ว่าฯ ได้ลองมาเห็น ซึ่งก็อาจช่วยแก้ปัญหาได้”








13.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค. 2565 ฝนเริ่มตกลงมาเพิ่มในระหว่างที่สถาพร เล่าปัญหาของเขาอยู่ เขาบอกก่อนแล้วว่า ในเวลาบ่ายโมงจะเป็นช่วงเวลาที่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงที่สุดของวันนี้ และในระหว่างนั้นการไหลของน้ำในบ้านของเขาก็แรงขึ้นเรื่อยๆ จนล้นออกไปท่วมบนถนนที่เคยเป็นคลองมาก่อน ... ถนน ก็กลับมามีสภาพคล้ายคลองอีกครั้ง












“ตอนนี้เราพบพนังมีรอยรั่ว 2 จุด แล้วครับ จุดแรกคือจุดเดิมที่อยู่ในแม่น้ำ ซึ่งทำให้น้ำไหลเข้าบ้านเรา อีกจุดเป็นรอยรั่วที่ประตูระบายน้ำ ดังนั้น สิ่งที่ผมต้องการให้ กทม.มาแก้ไขให้ จริงๆแล้วไม่มากมายเลย คือ ขอให้มาซ่อมรอยรั่วที่พนังกั้นน้ำทั้ง 2 จุด จะมาทำหลังจากน้ำลดไปแล้วก็ได้ และขอให้มาทำถนนให้เสร็จสมบูรณ์ เป็นถนนที่มีท่อหรือมีทางระบายน้ำด้วย”

เย็นวันที่ 3 ต.ค. 2565 ฝนเทกระหน่ำลงมาในพื้นที่ กทม.และนนทบุรี ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักหลายจุด แน่นอนว่า “แอ่งน้ำ” ในบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาของสถาพร มีระดับน้ำสูงขึ้นมาก












ตั้งแต่วันนี้ไป (4 ต.ค. 2565) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประกาศเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งน้ำเหล่านั้นจะไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา

สถานการณ์หลังจากนี้ ทั้งที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี จะไม่ใช่แค่บ้าน 2-3 หลังนี้ ที่ได้รับผลกระทบ
กำลังโหลดความคิดเห็น