กำเงินรอไว้เลย "เซ็นทรัล รีเทล" เตรียมเปิดเมมเบอร์ชิปสโตร์แห่งแรกในไทย "ท็อปส์ คลับ" ย่านพระราม 2 พุธนี้ (28 ก.ย.) เจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าระดับพรีเมียม นำเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่อาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค กว่า 3,500 รายการ
วันนี้ (26 ก.ย.) บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชม ท็อปส์ คลับ (Tops CLUB) สโตร์แห่งใหม่ในรูปแบบเมมเบอร์ชิปสโตร์ บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ถนนพระรามที่ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.จิตรลดา ณ เชียงใหม่ ผู้จัดการทั่วไปท็อปส์ คลับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และคณะ พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมโซนต่างๆ ที่แบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ ได้แก่ โซนสินค้าทั่วไป, โซนสินค้าอาหารแห้ง และโซนสินค้าอาหารสดนำเข้า สุราและไวน์ คาเฟ่ และแคชเชียร์
สำหรับท็อปส์ คลับ เป็นโมเดลธุรกิจล่าสุดของท็อปส์ จำหน่ายสินค้านำเข้าจากทั่วโลกระดับพรีเมียมกว่า 3,500 รายการ เช่น อาหารสด อาหารแห้ง ขนม เบเกอรี สินค้าเครื่องครัว ของใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กลางแจ้ง ของเล่นสำหรับเด็ก อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอลล์และนอน-แอลกอฮอล์ และไวน์นำเข้าจากต่างประเทศ เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งคนไทย รวมทั้งชาวต่างชาติที่พักอาศัยในประเทศไทย (Expat) โดยเน้นไปที่ลูกค้าซื้อไปบริโภคเอง (B2C) ส่วนมากจะเป็นสินค้าแพกใหญ่ ราคาประหยัดกว่าขายปลีก โดยสินค้าที่จำหน่ายจะหมุนเวียนทุกสัปดาห์ พร้อมจุดชิมสินค้าเพื่อให้ลูกค้าสัมผัสรสชาติก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งทั่วสโตร์มีมากกว่า 40 จุด
โมเดลดังกล่าวท็อปส์ได้พัฒนามานานกว่า 2 ปี พร้อมกับเปิดป็อป-อัพสโตร์ไปเมื่อเดือน ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ได้แก่ เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เมกา บางนา ซึ่งพบว่าผลตอบรับดี มีผู้สนใจสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมกว่า 12,000 ราย สำหรับเหตุผลที่เลือกทำเลย่านพระราม 2 เพราะจากฐานลูกค้าพบว่ามีกำลังซื้อที่สูง มีที่อยู่อาศัยราคาสูงนับร้อยโครงการ และมีครัวเรือนที่อยู่อาศัยโดยรอบนับล้านคน ซึ่งที่ผ่านมา เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ได้อัปเกรดท็อปส์ มาร์เก็ต ที่อยู่ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ให้กลายเป็นเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ไปเมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตาม ท็อปส์ คลับ ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นผู้ที่อยู่อาศัยย่านพระรามที่ 2 เท่านั้น แต่คนที่อยู่ย่านอื่นอาจจะเดินทางมาซื้อสินค้าที่นี่ 2-3 เดือนต่อครั้ง นอกจากนี้ ท็อปส์ คลับ ต่างจากโมเดลค้าส่งรูปแบบอื่น คือ สินค้าที่จำหน่ายจะเป็นสินค้าแพกใหญ่ในราคาประหยัด สำหรับใช้เองหรือแบ่งกับเพื่อนและเป็นของขวัญ ไม่ใช่สินค้าขายยกโหล อีกทั้งเป็นสินค้านำเข้าระดับพรีเมียม เจาะกลุ่มลูกค้าซื้อไปใช้เอง ต่างจากห้างค้าส่งรูปแบบอื่นที่จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านโชวห่วย ฯลฯ แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าร้านอาหาร เช่น ร้านอาหารอิตาลี ที่ต้องการเครื่องปรุงเป็นการเฉพาะ
ไฮไลต์สินค้าแต่ละโซน เริ่มจากโซนที่ 1 จะเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อุปกรณ์กลางแจ้ง เต็นท์ เก้าอี้สนามขนาดใหญ่ ชุดเตา-อุปกรณ์ย่างบาร์บีคิว อุปกรณ์กีฬา เครื่องครัว สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว อุปกรณ์รถยนต์ อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าที่น่าสนใจจะเป็นเก้าอี้เกมมิ่งดีไซน์ล้ำ ตุ๊กตาหมีไซส์ยักษ์ สูงกว่า 3 เมตร ของเล่นเด็กปลอดสารพิษ แพยางยูนิคอร์น นกฟลามิงโกไซส์ยักษ์ รองรับได้ 8 คน ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการโรงแรมให้ความสนใจซื้อไปรับรองลูกค้า
โซนที่ 2 โซนอาหารแห้ง ประกอบด้วย ชา กาแฟ ขนม เครื่องปรุงรส บะหมี่ เส้น ถัดจากนั้นจะเป็นสินค้าแช่แข็ง บนตู้แช่ที่ออกแบบเป็นพิเศษ ไอศกรีม และผัก-ผลไม้ในห้องเย็น (Walk-in Cooler) สินค้าที่น่าสนใจ เช่น เมล็ดกาแฟนำเข้าจากจาเมกา โคลัมเบีย เปรู พร้อมบริการบดฟรี, ชารอยบอส (ROOIBOS) ซึ่งเป็นชาเพื่อสุขภาพ ไม่มีกาเฟอีน นำเข้าจากแอฟริกาใต้, บะหมี่ THE DEVIL OF FIRE จากเกาหลีใต้ ขึ้นชื่อว่าเผ็ดที่สุด, ไอศกรีม KILLINCHY GOLD นำเข้าจากนิวซีแลนด์ครบทั้ง 6 รสชาติ
โซนที่ 3 โซนอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเลนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปลาแซลมอน หอยนางรม หอยเชลล์ ลอบสเตอร์ อาหารพร้อมรับประทาน เบเกอรี ถัดจากนั้นจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สุรา ไวน์ เบียร์ สินค้าขนม คาเฟ่ แคชเชียร์ 32 ช่อง ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย และจุดบริการสมาชิก ไฮไลต์จะเป็นคาเฟ่ มีขนมที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เช่น ฮอตดอกที่เป็นไส้กรอกเนื้อ พายไก่อบ พิซซา พร้อมที่นั่งรับประทานอาหารในร้าน และซื้อกลับบ้าน
สำหรับท็อปส์คลับ จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2565 เป็นต้นไป โดยวันจันทร์-ศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-22.00 น. โดยสมาชิกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมาชิกทั่วไป สมัครฟรี และสมาชิกระดับพรีเมียม 999 บาทต่อปี ช่วงแนะนำถึง 31 ต.ค. 2565 ค่าสมาชิก 799 บาทต่อปี ซึ่งจะได้รับส่วนลด 5% ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน Tops CLUB ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถึง 31 ธ.ค. 2566