ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สุรพล ดำริห์กุล อดีตอาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์เผยว่าประตูช้างเผือกไม่ใช่โบราณสถาน แต่เป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ ลั่นรู้สึกว่าโชคดีนะที่พังทลายเพราะจะได้รู้ว่าประตูเมืองเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอม
จากกรณีกำแพงเมืองเชียงใหม่ บริเวณประตูช้างเผือก ด้านนอกที่ก่อจากอิฐได้เกิดการทรุดตัวและพังทลายลงมาเป็นทางยาวประมาณ 10 กว่าเมตร โดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นผลจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้ดินที่เป็นแนวกำแพงอุ้มน้ำไว้ไม่ไหวและพังทลายลงมา
ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ก.ย. เฟซบุ๊ก "สุรพล ดำริห์กุล" หรือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สุรพล ดำริห์กุล อดีตอาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นกรณีประตูช้างเผือกพังทลาย โดยระบุว่า "ประตูช้างเผือกไม่ใช่โบราณสถาน แต่เป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ที่เป็นทัศนอุจาดบนที่ดินโบราณสถาน (พังเสียได้ก็ดี) สืบเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อวานนี้ ทำให้ประตูช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ พังทลายถล่มลงมา ท่ามกลางความตกใจและเสียดายของชาวเชียงใหม่
แต่ผมว่าโชคดีนะ พังทลายลงเสียได้ก็ดี เพราะจะได้รู้กันเสียทีว่าประตูเมืองเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอม ก่อสร้างขึ้นใหม่โดยการออกแบบอย่างน่าเกลียดน่าชัง เพราะมันไม่ใช่ลักษณะและแบบแผนของประตูเมืองที่เป็นสากล (ต่างชาติมาเห็นก็ตลก คิดว่าเมืองเชียงใหม่กระจอก ถึงได้เป็นเมืองขึ้นพม่าตั้งนาน)
โดยข้อเท็จจริงประตูเมืองเชียงใหม่ที่เห็นในปัจจุบันล้วนเป็นสิ่งสร้างใหม่ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะประตูเมืองของเมืองโบราณเชียงใหม่ถูกไถทำลายไปหมดแล้ว (มีรูปประตูเมืองเก่าเหลืออยู่ 2 รูป คือ ประตูท่าแพ กับประตูช้างเผือก) รวมทั้งอิฐกำแพงเมืองเก่าก็ถูกประมูลขาย เพื่อให้บ้านเมืองกว้างขวางทันสมัยตั้งแต่สมัยกระทรวงธรรมการ
ต่อมาเทศบาลเมืองเชียงใหม่ (ในขณะนั้น) เมื่อราวแปดสิบปีที่ผ่านมา (สมัยนายทิม โชตนา เป็นนายกเทศมนตรี) ได้ออกแบบและสร้างประตูขึ้นใหม่ 5 ประตู (โดยไม่มีพื้นฐานของหลักฐานเก่าเลย) ทุกวันนี้คนเชียงใหม่ลืมหมดแล้ว คิดว่าประตูที่เห็นคือ ประตูช้างเผือก สวนดอก เชียงใหม่ และสวนปุง เป็นโบราณสถานเก่าแก่ของเมือง ยกเว้นประตูท่าแพในปัจจุบันนั้น นายชัยยา พูนศิริวงศ์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้รื้อประตูที่เทศบาลฯ สร้างใหม่ออก และขออนุญาตกรมศิลปากรสร้างใหม่ตามรูปแบบภาพเก่าขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2529
ดังนั้นขอชาวเชียงใหม่เข้าใจเสียให้ถูกต้องว่า ประตูช้างเผือกที่พังทลายไม่ใช่โบราณสถานเก่าแก่ รวมทั้งสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ถ้าคิดจะบูรณะประตูช้างเผือกตามแบบเก่า ก็เสียงบประมาณแผ่นดินเปล่า เพราะไม่ใช่โบราณสถาน
ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กทม. มีภาพเก่าของประตูช้างเผือกอยู่ คงเป็นโอกาสอันดีที่กรมศิลปากรจะได้ร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่ทำสิ่งที่ถูกต้องให้กับเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกับประตูท่าแพที่ได้สร้างใหม่ตามภาพถ่ายเก่ามาแล้ว อีกสองสามวันพายุใหญ่จะเข้าเชียงใหม่ ฝนคงตกหนัก
เพี้ยง!! ภาวนาว่าขอให้ประตูเมืองอุจาดสร้างใหม่ที่เหลืออยู่อีก 3 ประตู พังทลายลงให้หมดเสียได้ก็ดีครับ"