รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 21 ส.ค. - 4 ก.ย. 2565)
อันดับ 1 : เจ๊นุช ส.ต.ท.หญิงซาดิสม์ ทำร้ายตบตี-จับช็อตไฟฟ้าอดีตทหารรับใช้ ส.ว.เต้นถูกโยงสัมพันธ์ขู่ฟ้องทุกสื่อทุกเพจ
คดีค้ามนุษย์สั่นสะเทือนวงการตำรวจทหาร กรณีที่ผู้เสียหายอดีตทหารหญิง สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ร้องเรียนผ่านรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า ถูกสิบตำรวจโทหญิงอ้างว่าเป็นภรรยา ส.ว. ทราบชื่อภายหลังคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือเจ๊นุช ผบ.หมู่ กก.4 บก.สันติบาล 1 ช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) ทำร้ายตบตี จับช็อตไฟฟ้า เอาทรัพย์สินเงินทองไปหมด และอ้างว่าสามารถฝากบุคคลเข้ารับราชการทหารได้ ปรากฎว่าถูกสังคมตั้งคำถามถึงการเข้ารับราชการตำรวจเมื่ออายุ 39 ปี ขัดต่อระเบียบที่ไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์ และกรณีขอตัวไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) ภาคใต้ แต่ตัวอยู่ราชบุรี
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีป้ายระบุชื่อ กรศศิร์ บัวแย้ม คู่กับ นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว.สรรหา เป็นผู้บริจาคเงินให้กับวัดแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ทำให้นายธานีออกมาชี้แจงว่า ตนเองสถานะโสด หย่าร้างมาเกือบ 30 ปีแล้ว เคยรู้จักและสนิทสนมกับตำรวจหญิง แต่ขาดการติดต่อกันมานานแล้ว พร้อมขู่ว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทโพสทุกโพส เพจทุกเพจ สื่อทุกสื่อ ขณะที่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมใบรับรองแพทย์ อ้างว่าขณะเกิดเหตุควบคุมตัวเองไม่ได้ และป่วยรักษาตัวมาประมาณ 2 ปีแล้ว ขณะนี้ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำกลางราชบุรี หลังศาลจังหวัดราชบุรี อนุญาตให้ฝากขังและปฏิเสธที่จะให้ประกันตัวชั่วคราว
อันดับ 2 : ประเทศไทยใต้เงาบิ๊กป้อม หลังศาลรัฐธรรมนูญ สั่งบิ๊กตู่หยุดปฏิบัติหน้าที่ การเมืองฝุ่นตลบกรณ์โผล่ ชพน.
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้อง ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี และมีมติเสียงข้างมากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พบว่าการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 30 ส.ค. พบว่าเว้นว่างไม่นั่งเก้าอี้นายกฯ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็น รมว.กลาโหม พบว่ามีภาพหารือร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข สะท้อนถึงนัยยะทางการเมืองบางอย่าง
อีกนัยยะหนึ่ง คือ พลขับของ พล.อ.ประยุทธ์ นำรถเบนซ์ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมรถผู้ติดตามในขบวน 3 คัน รวม 4 คัน ส่งคืนทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไร แปลว่าท่านไม่อยากใช้ ท่านใช้รถของกระทรวงกลาโหมได้ ส่วนคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ยังเป็นความลับและเป็นเรื่องของศาล แต่ชี้ชัดอย่างเดียวว่า ไม่ใช่วันที่ 24 ส.ค. 2557 แต่บอกไม่ถูกจะนับเมื่อไหร่ อีกด้านหนึ่ง พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคชาติพัฒนา พบว่านายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดตัวนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีต รมว.คลัง เข้าร่วมงานกับพรรคในนามบุคคล แต่ไม่ชัดว่าจะควบรวมพรรคหรือไม่
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองอื่นๆ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ศาลฎีกามีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในคดีรุกป่าเขาใหญ่ ส่วนนายนราพัฒน์ แก้วทอง ขุนพลภาคเหนือ และนายไชยยศ จิรเมธากร ขุนพลภาคอีสานลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้นายเจือ ราชสีห์ และนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน
อันดับ 3 : รถตู้โรงเรียนมรณะ อุทาหรณ์ครูสะเพร่า เด็กติดหลังคนขับกลายเป็นศพ สถิติ 8 ปีเกิดขึ้น 129 ครั้ง เสียชีวิต 6 ราย
เหตุสลดจากความชุ่ยของรถรับส่งนักเรียนเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 30 ส.ค. พบเด็กนักเรียนเสียชีวิตภายในรถตู้รับ-ส่งของโรงเรียนเพลินจิตวิทยา อ.พานทอง จ.ชลบุรี ทราบชื่อคือ ด.ญ.เขมนิจ ทองอยู่ หรือน้องจีฮุน วัย 7 ขวบ นอนอยู่บนพื้นรถ หลังเบาะคนขับ ภายในรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เทา สภาพนอนคว่ำหน้า ตัวซีด เลือดทะลักออกปาก ใกล้ศพมีกระเป๋าเป้สะพายสีดำและแก้วน้ำดื่มวางอยู่บนเบาะ พบก่อนหน้านี้คนขับนำรถไปรับช่วงเช้า แต่ครูเกิดสะเพร่าลืมเช็กยอดนักเรียนทั้งหมด ทิ้งน้องจีฮุนติดอยู่ในรถ ถูกเผากลางแดดทั้งวัน กระทั่ง 4 โมงเย็นหลังเลิกเรียน ครูผู้ดูแลรถเปิดประตูรถกลายเป็นศพไปแล้ว
ด้านพ่อแม่ของน้องจีฮุน เมื่อทราบข่าวถึงกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมแจ้งความกับ สภ.พานทอง เอาผิดให้ถึงที่สุด ต่อมาตำรวจเรียกตัวนายบุญลือ แก้วดวงศรี อายุ 63 ปี คนขับรถตู้วันเกิดเหตุ และ น.ส.อารยา วายุวรรธนะ อายุ 29 ปี ครูเวรที่ดูแลเด็กในรถตู้มาสอบปากคำ น.ส.อารยาสารภาพว่า ประมาทเองที่ดูแลเด็กไม่ทั่วถึง เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษครอบครัวเด็ก ส่วนผลชันสูตรศพน้องจีฮุน เบื้องต้นเกิดจากภาวะโลหิตล้มเหลวจากอาการฮีตสโตรก ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่พ่อแม่ไม่เชื่อ ร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยไขปมปริศนาการเสียชีวิต และขอย้ายศพไปเก็บที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคตั้งแต่ปี 2557-2563 มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถโรงเรียนตามลำพัง 129 ครั้ง มีเด็กเสียชีวิต 6 ราย
อันดับ 4 : จับตาอนาคตสีกากี บิ๊กเด่น-ดำรงศักดิ์ ว่าที่ ผบ.ตร.คนที่ 13 สะพัดธิติ-ผู้การภาค 2 สายตรงบิ๊กปั๊ดคุมนครบาล
ในที่สุดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 13 ต่อจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ ก็ได้บุคคลมาดำรงตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว เมื่อการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา มีมติให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นรต.รุ่น 38 ขึ้นเป็น ผบ.ตร. คนใหม่ ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ เสนอชื่อ โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรียบร้อยดี ไม่มีอะไร
ส่วนผู้ที่คาดว่าจะเป็นรอง ผบ.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1, พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 47 ที่โชว์ผลงานหลายเรื่อง ที่น่าสนใจคือ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. จะมาเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 สายตรง ผบ.ตร. จะย้ายมาเป็น ผบช.น. นอกนั้นส่วนใหญ่เป็นโผเดิมที่นายกรัฐมนตรีกับ ก.ตร. ทำไว้ก่อนหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องลุ้นว่าก่อนมีคำสั่งโปรดเกล้าฯ จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่
สำหรับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ หรือบิ๊กเด่น เกิดวันที่ 3 ก.ย. 2506 จบจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 22 และนายร้อยตำรวจ รุ่น 38 รับผิดชอบหน้างานความมั่นคง และ ศูนย์ PCT ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์
อันดับ 5 : หลานอดีตรัฐมนตรี ขยี้กามนักร้องสาว ซ้ำ รอง ผกก.พูดจาไม่ดีบอกหลักฐานไม่พอ ด้านเจ้าตัวอ้างถูกแบล็กเมล์
คดีหลานอดีตรัฐมนตรีก่อเหตุฉาวเกิดขึ้น เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นนักร้องนักแสดงสาววัย 21 ปี เข้าร้องทุกข์กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง ระบุว่า ถูกชายที่เป็นหลานอดีตรัฐมนตรีวางยาแล้วข่มขืนกระทำชำเรา ที่พูลวิลล่าในซอยนาคนิวาส 8 เขตลาดพร้าว กทม. เมื่อวันที่ 9 ส.ค. แจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 11 ส.ค. แต่บุคคลใกล้ชิดยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิงและเงิน แลกกับถอนแจ้งความ อ้างว่าฝ่ายชายต้องการเล่นการเมือง มีเป้าหมายไปถึงนายกรัฐมนตรี หนำซ้ำพ.ต.ท.อภิรักษ์ บุญหนัก รอง ผกก. (สอบสวน) สน.โชคชัย พูดว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการดำเนินคดี อาจถูกยกฟ้องได้
ปรากฎว่าผู้ก่อเหตุเป็นนายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือเอ็ม อายุ 35 ปี นักธุรกิจนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลานนายอุปดิศร์ ปาจรียางกูร อดีต รมว.ต่างประเทศ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 29 ส.ค. เจ้าตัวอ้างว่ามีหลักฐานชัดเจน เรื่องทั้งหมดเป็นการแบล็กเมล์ ข่าวที่ออกไปทำชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหายมาก ในวันเกิดเหตุไปกับฝ่ายหญิงจริง อ้างว่าว่าทะเลาะกับพี่สาวจะไม่กลับห้อง ให้ช่วยแนะนำโรงแรม รู้จักกันก่อนเกิดเหตุไม่ถึงเดือนไม่เคยคบหากัน วันต่อมาศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพราะมีเหตุให้เชื่อว่าอาจทำลายและยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ด้าน พ.ต.ท.อภิรักษ์ บุญหนัก รอง ผกก. (สอบสวน) สน.โชคชัย ถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาล 4 พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เป็นประธาน
อันดับ 6 : บลิ้งค์ปลิ้มลิซ่า คว้ารางวัลศิลปินหญิงเดี่ยว K-Pop คนแรกจากเพลง LALISA บนเวที MTV VMAs สหรัฐอเมริกา
เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่ติดตามผลงานของ ลิซ่า-ลลิสา มโนบาล หนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปจากประเทศเกาหลีใต้ แบล็คพิงค์ (BLACPINK) เมื่อผลงานเพลงเดี่ยวของ ลิซ่า ที่มีชื่อว่า “LALISA” คว้ารางวัลมิวสิควิดีโอเค-ป็อปยอดเยี่ยม จากงาน MTV Video Music Awards 2022 (VMAs) ณ เมืองนิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ถือเป็นศิลปิน K-Pop หญิงเดี่ยวคนแรกของประวัติศาสตร์วงการเพลงที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเจ้าตัวโพสต์ไอจี กล่าวขอขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจที่ทุกคนมีให้กับตน เป็นเกียรติมากๆ เป็นรางวัลที่ตนเชื่อว่ามีคุณค่าทางใจ ทั้งสำหรับหนูและก็บลิ้งค์ ซึ่งเป็นคำเรียกของแฟนคลับ
ฃนายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอแสดงความยินดีและชื่นชมความสำเร็จของลิซ่า ที่ได้สร้างความภาคภูมิใจให้แฟนคลับชาวไทยและแฟนคลับทั่วโลก ลิซ่าได้ไหว้และกล่าวขอบคุณเป็นภาษาไทยในช่วงท้ายของการขึ้นรับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของเยาวชนไทยที่ไม่ลืมความเป็นไทย สำหรับเพลง LALISA เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2564 มีการนำศิลปะไทยผสมผสานกับความเป็นสากลร่วมสมัยในเอ็มวี อาทิ ชุดสไบทอง ดอกไม้ประดับผม รัดเกล้ายอด รวมถึงฉากปราสาทหิน ซึ่งสื่อให้เห็นถึงปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์บ้านเกิดอย่างชัดเจน
อันดับ 7 : จำคุก 10 ปี ปรับกว่า 7 พันล้านบาท ภรรยานาจิบ อดีตผู้นำมาเลเซีย ทุจริตรับสินบนโครงการติดโซลาร์เซลล์
ข่าวต่างประเทศที่เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่โกงบ้านกินเมือง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลสูงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พิพากษาจำคุก 10 ปี นางรอสมะห์ มันซอร์ วัย 70 ปี ภรรยาของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และต้องจ่ายค่าปรับ 970 ล้านริงกิต หรือประมาณ 7,900 ล้านบาท ในความผิดฐานเรียกร้องและรับสินบน 3 ข้อหา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้รับสัญญาจากโครงการติดตั้งไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นโครงการในสมัยรัฐบาลนายนาจิบ มูลค่าสูงถึง 279 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 10,200 ล้านบาท
อัยการระบุว่ารอสมะห์เรียกรับสินบน 187.5 ล้านริงกิตหรือราว 1,534 ล้านบาท โดยได้รับเงินมา 6.5 ล้านริงกิตหรือราว 53 ล้านบาทจากบริษัทที่ชนะประมูลโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม คดีนี้ผู้พิพากษาให้ชะลอการลงโทษ เพื่อให้โอกาสอุทธรณ์อีก 2 ศาล ด้านนางรอสมะห์ กล่าวกับผู้พิพากษาทั้งน้ำตาว่า ยอมรับว่าเศร้ามากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครเห็นตนรับเงิน นับเงิน แต่ถ้านั่นคือข้อสรุปของคดี ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพระเจ้า สำหรับสามีคือนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรี ศาลสูงสุดของมาเลเซียพิพากษายืนความผิดจำคุก 12 ปีในคดีคอร์รัปชันกองทุนวันเอ็มดีบี เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ทำให้ขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ