อาจารย์ จุฬาฯ ชี้ เหล็กไหลงอก สามารถเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ เผย ทางวิทยาศาสตร์ ด้านธรณีวิทยา ไม่มีสินแร่ที่มีชื่อเรียกว่า "เหล็กไหล" ที่เอามาบูชาก็เป็นแค่อาศัยเรื่องความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาผนวกกับพวกหินแร่
จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ พบก้อนหินเนื้อภายในเป็นวัตถุลักษณะแปลกตาคล้ายแร่บางอย่าง มีสีดำมันวาว เป็นหินมีน้ำหนักประมาณ 5 กก. มีผิวนอกสีเหลือง และด้านในกลวง ที่ผิวด้านในพบเป็นแร่บางอย่างมีสีดำมันวาวคล้ายเหล็กไหล โดยผู้ที่พบหินดังกล่าว คือ นายริน รักษ์วงศ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่ 4 ต.เขาดิน อ.เขาพนม นำรูปไปโพสต์ในกลุ่มผู้นิยมเหล็กไหล ต่างก็บอกว่าเป็นเหล็กไหลงอก ซึ่งจะหาได้ยากและมีราคาสูงด้วย
ต่อมา ทางกลุ่มผู้ที่ศึกษาเรื่องเหล็กไหล ได้เดินทางไปตรวจพิสูจน์ที่บ้านของนายริน โดยใช้วิธีนำกล่องไม้ขีดไฟมาวางไว้ใกล้กับวัตถุดังกล่าว ห่างกันประมาณ 1 คืบ จำนวน 2 กลัก และเปิดกล่องไว้เล็กน้อย ผ่านไปประมาณ 5 นาที แต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น ทางกลุ่มที่มาพิสูจน์จึงบอกว่า เบื้องต้นอาจจะเป็นเหล็กไหลจริง แต่สิ่งที่สิงสถิตอยู่ในเหล็กไหลได้ออกไปแล้ว ตั้งแต่มีการทุบรังแตก จึงอาจทำให้ไม่เกิดปฏิกิริยาอะไร
เบื้องต้น ทางกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบเหล็กไหลได้บอกอีกว่า ถ้าหากว่าเป็นเหล็กไหลที่มีความศักดิ์สิทธิ์จะซื้อในราคาสูงถึง 500 ล้านบาท แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า เป็นเหล็กไหลแบบไหน มีราคาหรือไม่ ซึ่งตามความเชื่อของนักเล่นเหล็กไหล หากพิสูจน์ด้วยวิธีใช้ไม้ขีดมาวางแล้วไม่มีปฏิกิริยา หัวไม้ขีดไม่เปลี่ยนสี แสดงว่าไม่มีความขลัง จะต้องทำพิธีเรียกสิ่งที่สถิตในเหล็กไหลกลับคืนมาก่อน มันจึงจะมีความขลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 ก.ย. เพจ “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” หรือ ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์อธิบาย เกี่ยวกับเหล็กไหลงอก โดยได้ระบุข้อความว่า
"เห็นข่าวเรื่อง เหล็กไหลงอก จังหวัดกระบี่นี้หลายวันแล้ว และก็มีคนถามมาขอคำอธิบายเยอะเลย แต่รอว่าเผื่อจะมีคำชี้แจงโดยตรงจากนักธรณีวิทยา จะได้ชัดเจนที่สุด ... ซึ่งก็ยังไม่เห็น เลยคิดว่าจะลองเขียนดูครับ (ผิดพลาดตรงไหน ขอผู้เชี่ยวชาญช่วยชี้แนะด้วย)
คือตามรายงานข่าวบอกว่า มีชาวบ้าน ที่ตำบลเขาดิน อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เจอก้อนหินหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ผิวภายนอกสีเหลือง ด้านในกลวง โดยภายในมีลักษณะคล้ายแร่บางอย่าง มีสีดำมันวาว .. ซึ่งต่อมามีผู้นิยมเหล็กไหล บอกว่าเป็น "เหล็กไหลงอก" หายาก ราคาสูง! มีคนมาขอซื้อต่อ 50,000 บาท แต่ไม่ขาย
จนล่าสุด มีกลุ่มผู้ศึกษาเรื่องเหล็กไหล ได้เดินทางไปตรวจพิสูจน์ ใช้วิธีนำกล่องไม้ขีดไฟมาวางไว้ใกล้กับเหล็กไหล ห่าง 1 คืบ เปิดกล่องไว้เล็กน้อย ผ่านไป 5 นาที ไม่เกิดปฏิกิริยาอะไร (ตามความเชื่อคือ เหล็กไหลจะทำให้หัวไม้ขีดเปลี่ยนสีได้) จึงบอกว่า อาจจะเป็นเหล็กไหลจริง แต่สิ่งที่สิงสถิตย์อยู่ในเหล็กไหลได้ออกไปตั้งแต่มีการทุบรังแตก (!?) แต่หากเป็นเหล็กไหลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ก็จะซื้อในราคาสูงถึง 500 ล้านบาท แต่ตอนนี้หัวไม้ขีดไม่เปลี่ยนสี แสดงว่าไม่ขลัง จะต้องทำพิธีเรียกสิ่งที่สถิตในเหล็กไหลกลับคืนมาก่อน มันจึงจะขลัง
คือ จะขลังจริงหรือไม่ อันนี้ก็ไม่อาจทราบได้ด้วย แต่ลักษณะของการมีก้อนหินที่กระเทาะออกมาเจอแร่อยู่ภายในเนี่ย ไม่ใช่เรื่องแปลกมากอะไร เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติครับ (และถ้าเป็นผม คงขายไปตั้งแต่ที่คนให้ราคา 5 หมื่นบาทแล้วล่ะ ฮะๆ)
ประเด็นแรก ลักษณะของ "เหล็กไหลงอก" ตามข่าวเนี่ย จะคล้ายกับสิ่งที่เรียกว่า "จีโอด (Geode) " ซึ่งหน้าตาเหมือนก้อนหินทั่วไป แต่มีโพรงข้างในที่มีคริสตัลหรือผลึกอยู่ด้วย พบได้ทั่วโลก และในประเทศไทยเรามักพบจีโอดในหินปูนบางชนิดและหินภูเขาไฟ (ที่พบมาก คือที่ตำบลลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี) ส่วนแร่ที่มักพบในจีโอดและนำมาจำหน่ายกัน ก็มีทั้งแร่แอเมทิสต์ (amethyst) หรือเขี้ยวหนุมาน, ควอตซ์ (quartz), อาเกต (agate) หรือโมรา, หยก และแร่อื่นๆ เช่น ไลมอไนไนต์ โคเลมาไนต์ เซเลสไทต์ และ แบไรต์
จีโอด อาจเกิดขึ้นได้ในหินตะกอน โดยเกิดจากมีซากพืชหรือสัตว์ถูกฝังเน่าเปื่อยอยู่ในตะกอนซึ่งพัดพามากับน้ำ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ตะกอนแข็งตัวกลายเป็นหิน ก็เกิดเป็น "กระเปาะ" ขึ้นในชั้นหิน กระเปาะนี้อาจขยายตัวใหญ่ขึ้นได้จากการที่ภายในกระเปาะมีน้ำที่มีเกลือแร่ละลายอยู่ ทำให้น้ำที่อยู่ภายในซึมเข้าไปมากขึ้น ตามสมดุลออสโมซิสระหว่างความเข้มข้นของสารละลายภายในและภายนอกกระเปาะ เมื่อถึงจุดที่กระเปาะหยุดการขยายตัวแล้ว น้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆ ละลายอยู่ ก็อาจเกิดการตกผลึกของแร่ธาตุนั้นอยู่ภายในของกระเปาะ งอกเพิ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (อาจเป็นที่มาของคำว่า "งอก" ที่คนนิยมเหล็กไหล เรียกกัน)
นอกจากก้อนจีโอดแล้ว ยังมีก้อน "วัก (vug)" ซึ่งดูคล้ายกับก้อนหินที่มีผลึกแร่อยู่ภายในเช่นกัน แต่วักจะเป็นช่องว่างที่มีอยู่แต่เดิมในสายแร่หรือหิน แล้วมีแร่ละลายเข้ามาสะสมเป็นผลึกอยู่ข้างใน
ประการที่สอง ในส่วนของ "เหล็กไหล" สีดำๆ ในก้อนหิน (ที่น่าจะเป็นจีโอด) ตามข่าวนั้น ในทางวิทยาศาสตร์ ทางธรณีวิทยา มันไม่มีสินแร่ที่มีชื่อเรียกว่า เหล็กไหล แต่ส่วนใหญ่ที่เอามาขาย เอามาบูชากันนั้น ก็เป็นการอาศัยของเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาผนวกกับพวกหินแร่ ซึ่งมักจะมีองค์ประกอบเป็นธาตุเหล็กอยู่ด้วย ทำให้ดูดด้วยแม่เหล็กได้ แถมดูแปลกตา เพราะมีประกายวับวาวๆ เช่น พวกแร่ฮีมาไทต์ (Hematite) แร่ไพไรต์ (Pyrite) หรือพวกซิลิคอนคาร์ไบด์ (Silicon Carbide)
ความเชื่อเหล่านี้ก็นำไปสู่การตั้งราคากันตามความนิยม ความศรัทธา ปั่นกันจนราคามากเป็นแสนเป็นล้านได้ ทั้งที่ราคาดังกล่าวเกินกว่าความเป็นสินแร่ของตัวหินตัวแร่มันเองครับ อย่างก้อนจีโอดที่เอามาใช้ประกอบโพสต์นี้ ก็เป็นชนิดที่เรียกว่า เกอไทต์ จีโอด Goethite Geode ซึ่งเป็นก้อนหินจีโอดที่มีแร่เกอไทต์อยู่ภายใน (เกอไทต์ เป็นชื่อของแร่กลุ่ม แร่เหล็กออกไซด์) ซึ่งดูคล้ายกับเหล็กไหลงอกที่เป็นข่าว แต่ราคาที่จำหน่ายกันอาจจะแค่หลักพัน หลักหมื่น ขึ้นกับความหายาก ชนิด และความบริสุทธิ์ของแร่ที่อยู่ข้างใน (แต่พอใส่เรื่องความขลังลงไป ก็อาจจะปั่นไปเป็นหลักล้านได้ ตามศรัทธา)"