xs
xsm
sm
md
lg

อ.เจษฎ์ยันไข่มุกเมโลในหอยหวานเป็นของจริง แต่ราคาอาจไม่สูงอย่างข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รศ.ดร.เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ยืนยันจากกระแสข่าวไข่มุกเมโลในหอยหวานเป็นของจริง แต่ราคาอาจไม่สูงอย่างข่าว

วันนี้ (29 ส.ค.) เพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" หรือ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ระบุข้อความว่า "ไข่มุกเมโลในหอยหวานเป็นของจริงครับ" ผู้สื่อข่าวได้โทร.มาถามขอความรู้เกี่ยวกับที่มีข่าว "หนุ่มดวงดีเจอไข่มุกเมโลในหอยหวาน" ครับ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และไข่มุกเมโลนี่ ต่างจากไข่มุกธรรมดาอย่างไรบ้าง อย่างแรก ก็ต้องบอกว่าเรื่อง "เจอไข่มุกเมโลในหอยหวาน" นี่เป็นเรื่องจริงนะครับ โดยหนุ่มพะเยาผู้โชคดีคนนี้ไปซื้อหอยหวานและเนื้ออื่นๆ มาทำเมนูปิ้งย่าง แล้วไปกัดเจอเข้าในเนื้อของหอยหวาน เห็นเป็นเศษก้อนกลมสีออกส้มๆ มีลักษณะเหมือนไข่มุกเมโล เขาจึงนำไปให้สถาบัน CGT (CHIANGMAI TESTING LABORATORY) ทำการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าเป็นไข่มุกเมโลจริง พร้อมทั้งออกใบรับประกันให้ด้วย โดยมีขนาด 2.63 x 2.61 mm. น้ำหนัก 0.151 ct. (การัต) ดังนั้นก็เป็นหลักฐานว่า ไข่มุกเมโล หรือ Melo Pearl นั้นสามารถพบในหอยทะเลขนาดเล็ก อย่างหอยหวานได้ แม้ว่าจะไม่ค่อยเจอกันก็ตาม แต่เนื่องจากมุกที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กมาก แถมคนไม่ค่อยรู้จักมุกเมโล ก็เลยไม่ค่อยสนใจ มองข้ามกันไป (อย่างในเคสนี้ก็ถือว่ามีขนาดเล็กมาก และราคาขายต่อก็อาจจะไม่ได้สูงอย่างที่ในข่าวคาดเดากัน)

โดยทั่วไปแล้ว ไข่มุกเมโลเป็นไข่มุกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น ยังเพาะเลี้ยงไม่ได้ และไข่มุกที่พบในหอยก็มีเพียง 1 ในหลายพันตัวเท่านั้นที่จะมีคุณภาพระดับที่ใช้เป็นอัญมณีได้ ยิ่งถ้าจะต้องเป็นมุกเฉดสีส้มที่สมบูรณ์แบบ ก็ยิ่งมีโอากาสน้อยลงตามไปด้วย ไข่มุกเมโลที่ใช้เป็นอัญมณีกันมักพบในหอยสังข์ทะนาน (ชื่อวิทยาศาสตร์ Melo Melo) หรือหอยโข่งเหลือง เป็นหอยทะเลวงศ์ Volutidae ชั้นหอยฝาเดียว (Gastopoda) และยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อหอยลำโพง หรือหอยตาล (Indian volute หรือ Bailer Shell) เป็นหอยทะเลขนาดใหญ่ที่มักอาศัยอยู่ตามดินเลนของน่านน้ำเขตร้อนที่ความลึกประมาณ 10 เมตร ในประเทศพม่า เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย ในประเทศไทย หอยชนิดนี้จะพบมากทางภาคใต้ ชาวบ้านหรือชาวประมงจะจับหอยชนิดนี้มารับประทานเป็นอาหาร และถ้าโชคดีอาจจะพบไข่มุกเมโลในเนื้อของหอย​

เวลามีข่าวคนเจอไข่มุกเมโล สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ เป็นของปลอม ทำเทียมขึ้นมา โดยเอาเปลือกหอยเมโลมาตัดและเจียระไนให้มีรูปร่างเหมือนไข่มุกเมโล ผู้ซื้อต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อไข่มุกชนิดนี้เป็นพิเศษ เพราะแค่ดูจากภายนอกอาจจะตอบได้ยากว่าเป็นของแท้หรือปลอม ควรส่งไข่มุกไปตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการทางอัญมณีวิทยา เพื่อใช้เครื่องมือเฉพาะในการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยนักอัญมณีศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญให้ออกใบรับรองผลการตรวจสอบ จึงเป็นการรับประกันว่าไข่มุกนี้เป็นของแท้อย่างแน่นอน ไข่มุกเมโลเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกับไข่มุกชนิดอื่นๆ ก็คือเมื่อมีเศษทรายเล็กๆ หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวของหอย และเกิดการระคายเคือง หอยสังข์ทะนานจะหลั่งสารประกอบคาร์บอเนตมาล้อมรอบสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ มีลักษณะเป็นชั้นผลึกที่เป็นเส้นๆ ค่อยๆ กลายเป็นไข่มุกเมโล ไข่มุกเมโลนั้นไม่มีชั้นมุกเหมือนกับไข่มุกทั่วไป (Non-Nacreous) แต่เกิดขึ้นจากการผสมกันระหว่างแคลไซต์ (Calcite) และอราโกไนต์ (Aragonite) ทำให้มีพื้นผิวที่เรียบเนียนเหมือนกระเบื้องเคลือบ

โดยทั่วไปแล้ว ไข่มุกเมโลจะมีลักษณะเป็นทรงกลมอย่างสมบูรณ์ และมีความแข็งกว่าไข่มุกทั่วไป คือมีค่าความแข็งเท่ากับ 2.5-4 ตามสเกลของโมส์ ซึ่งทำให้มุกชนิดนี้เป็นอัญมณีที่มีความทนทาน และสามารถอยู่ได้นานมากกว่า 5 ปี หากได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของไข่มุกเมโล นั่นก็คือ มีลักษณะเหมือนกับริ้วของเปลวไฟ เป็นคลื่นไปทั่วพื้นผิวของไข่มุก ซึ่งขนาด ระดับความอิ่มตัวของสี และความลึกของ "เปลวไฟ" นั้นจะขึ้นอยู่กับอายุของหอยด้วย และเมื่อมองบางมุมอาจจะสังเกตเห็นเอฟเฟกต์ตาแมว (Chatoyancy) ซึ่งยิ่งถ้ามีเปลวไฟที่เข้มและชัดเจนมากเท่าไร ไข่มุกเมโลก็จะยิ่งมีค่าและมีราคาแพงมากขึ้นเท่านั้น ด้วยความหายากของมุกชนิดนี้ จึงไม่มีมาตรฐานในการประเมินราคาไข่มุกเมโล การตั้งราคาจึงขึ้นอยู่กับบุคคลผู้ครอบครองไข่มุกเม็ดนั้นๆ และประเมินจากคุณภาพของไข่มุก โดยประเมินได้จากรูปร่าง สี ความวาว และน้ำหนัก"

คลิกโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น