รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 15 - 19 ส.ค. 2565)
อันดับ 1 : ส่งพิงกี้เข้าเรือนจำพร้อมแม่และพี่ชาย ศาลไม่ให้ประกันคดีโกงแชร์ฟอเร็กซ์ทรีดี ระทึกจ่อดำเนินคดีใบเตย-ดีเจแมน
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิ้งกี้ นักแสดงสาว พร้อมด้วยนางสรินยา ไชยเดช มารดา และนายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช พี่ชาย พร้อมพวกรวม 19 ราย ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังออกอุบายให้ประชาชนร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ทรีดี อ้างว่าไม่ต้องมีความรู้ ได้ผลตอบแทนเร็ว มีผู้เสียหาย 9,824 คน เป็นเงิน 2,489 ล้านบาท ศาลเห็นว่าคดีนี้มีอัตราโทษสูง มูลค่าความเสียหายมาก เชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง นัดสอบคำให้การวันที่ 26 ก.ย.
นอกจากนี้ ยังมีนายกษม กลปราณีต หรือโบ๊ท นักร้อง นักแสดง วันต่อมาญาติได้มายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมเงินสด 5 แสนบาท แต่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ระบุเหตุผลชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมจึงยกคำร้อง
ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า พิงกี้และแม่ถูกควบคุมตัวที่แดนกักตัว ทัณฑสถานหญิงกลาง มีอาการเครียดเล็กน้อย พูดคุยกันตลอดเวลา เช้าวันต่อมาอาการเครียดน้อยลง ทานอาหารได้ ส่วนพี่ชายอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีอาการเครียด นอนหลับได้น้อย แต่ทานข้าวได้ ส่วนนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า ได้ส่งฟ้องคดีนี้ 3 สำนวน รวมผู้ต้องหา 24 คน ซึ่งพนักงานอัยการและดีเอสไอ กำลังจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอีก 16 คน ตามที่อัยการแนะนำ หนึ่งในนั้นคือ นายพัฒนพล มินทะขิน (กุญชร ณ อยุธยา) หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม
อันดับ 2 : อาลัยพระเอกตัวจริง สมบัติ เมทะนี ศิลปินแห่งชาติ แชมป์กินเนสส์บุ๊กแสดงหนัง 617 เรื่อง จากไปด้วยวัย 85 ปี
วงการบันเทิงยังคงสูญเสียนักแสดงภาพยนตร์ไทยระดับตำนาน เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายสมบัติ เมทะนี หรือแอ๊ด ศิลปินแห่งชาติ สาขาภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ปี 2559 เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพักย่านลาดพร้าว รวมอายุได้ 85 ปี หลังจากภรรยาเข้าไปปลุกในห้องนอน พบว่านอนหมดลมหายใจ โดยที่ไม่มีสัญญาณความเจ็บป่วยใดๆ ต่อมานายบิณฑ์ นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ และนายปฏิญญา วิบูลย์นันท์ นำรถมูลนิธิร่วมกตัญญู มารับศพนายสมบัติไปสถาบันนิติเวชวิทยา ก่อนนำมาบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 3 (พ่วงจินดา) วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ ท่ามกลางคนในวงการบันเทิงเข้ามาร่วมงานด้วยความอาลัย
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพระราชทานหีบทองลายสลัก เป็นเครื่องเกียรติยศประกอบศพอีกด้วย โดยมีนายรอง เค้ามูลคดี ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ปี 2560 เป็นประธานในพิธี
สำหรับนายสมบัติ เมทะนี หรือแอ๊ด เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ก่อนมีแมวมองโรงภาพยนตร์คิงส์-ควีนส์ ย่านวังบูรพาชักชวนเข้าวงการบันเทิง ผลงานแรกเป็นละครเรื่องหัวใจปรารถนา ก่อนเป็นนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง รุ้งเพชร เป็นเรื่องแรก ได้รับการบันทึกในกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นพระเอกมากที่สุดในโลก รวม 617 เรื่อง ได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ปี 2559 ชีวิตส่วนตัวสมรสกับนางกาญจนา เมทะนี หรือตุ๊ มีบุตรชาย 4 คน บุตรสาว 1 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ อั๋น-สิรคุปต์ เมทะนี เคยเข้าสู่วงการบันเทิง
อนึ่ง เฉพาะในปี 2565 ได้สูญเสียศิลปินแห่งชาติไปแล้ว 7 คน ได้แก่ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, เศรษฐา ศิระฉายา, ประเทือง เอมเจริญ, สรพงศ์ ชาตรี, สมบัติ พลายน้อย (ส.พลายน้อย), เบ็ญจรงค์ ธนโกเศศ และล่าสุด สมบัติ เมทะนี
อันดับ 3 : ขย่มประยุทธ์ปมนายกรัฐมนตรี 8 ปี ฝ่ายค้านยื่น 171 รายชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ม็อบไล่ก็มาศรีสุวรรณก็มีแต่ยื่นผิดที่
กรณีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 158 วรรค 2 กำหนดไม่ให้ดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปี ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง เป็นที่ถกเถียงถึงความไม่ชัดเจนว่า จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ดำรงตำแหน่ง 24 ส.ค. 2557 หรือนับจากวันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลบังคับใช้ ทำให้เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ฝ่ายค้านนำโดยนายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องพร้อมแนบ 171 รายชื่อต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ด้านกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายนิติธร ล้ำเหลือ อดีตแกนนำกลุ่ม คปท. นัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 21-24 ส.ค. ส่วนชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์หัวข้อ “8 ปีแล้ว พอเถอะนะ” เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ตอบคำถาม แต่ให้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) ตอบคำถามแทนว่า พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าไม่มีการยุบสภา จะเดินหน้าทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่
อีกด้านหนึ่ง ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติให้ยุติเรื่องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี เนื่องจากประเด็นที่ยื่น อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระอื่น ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา
อันดับ 4 : ป่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป้าหมายร้านสะดวกซื้อ-ปั๊มน้ำมัน คืนเดียว 18 จุด เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน
เหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. กลุ่มคนร้ายวางระเบิดไฟไหม้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี 2 จุด ยะลา 6 จุด และนราธิวาส 10 จุด รวม 18 จุด แบ่งออกเป็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 12 แห่ง (มี 1 แห่งอยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท.) มินิบิ๊กซี 4 แห่ง เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 1 แห่ง และปั๊มน้ำมันบางจาก 1 แห่ง พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกไฟคลอกในร้านสะดวกซื้อที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า คนร้ายต้องการทำลายสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อกดดันรัฐบาลและทำลายความน่าเชื่อถือ หลังการพูดคุยสันติสุขเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เช่น ปั๊มน้ำมัน ปตท.ปาเสมัส และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เสียหายกว่า 40 ล้านบาท พนักงานกว่า 25 ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมได้รับผลกระทบ ส่วนปั๊มน้ำมันบางจากบ่อทอง ถนนสาย 43 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียหายไม่สามารถประกอบกิจการได้ เจ้าของปั๊มน้ำมันกล่าวว่า เหมือนเครื่องมือทำมาหากินถูกทำลาย ห่วงพนักงาน 23 คนที่เหมือนครอบครัวเดียวกันได้รับผลกระทบ ส่วน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่าจะประเมินความเสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการให้กลับมาประกอบกิจการได้อีกครั้ง
อันดับ 5 : เสี่ยยศพ่อเสี่ยบีโดนคดีผับมรณะ ศาลให้ประกัน 1 ล้านติดกำไลอีเอ็ม ญาติร้องโอนคดีไปส่วนกลางหวั่นไม่เป็นธรรม
ความคืบหน้าคดีสถานบันเทิงเมาท์เทน บี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับนายสมยศ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยยศ อายุ 55 ปี เจ้าของโรงฆ่าสัตว์และเขียงหมูรายใหญ่ใน อ.สัตหีบ พ่อของนายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยบี เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและอันตรายสาหัส และร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากพบความเชื่อมโยงว่าเป็นเจ้าของผับตัวจริงแต่ใช้ชื่อลูกชายเป็นนอมินี ต่อมาวันที่ 16 ส.ค. นายสมยศเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กระทั่งวันที่ 17 ส.ค. ตำรวจนำตัวนายสมยศฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา โดยคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ทนายความยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอนุมัติให้ประกันตัวด้วยเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมติดกำไลอีเอ็ม และห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกด้านหนึ่ง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ นำญาติผู้เสียหายมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกร้องให้โอนคดีมายังกองบังคับการปราบปราม เพราะอาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม วันต่อมาได้ยื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เรียกร้องให้เป็นคดีพิเศษและโอนให้ส่วนกลางทำคดี
สำหรับยอดผู้เสียชีวิต ณ วันที่ 19 ส.ค. มีจำนวน 20 ราย โดยรายที่ 19 เป็นหญิงวัย 23 ปี แฟนสาวนักร้องนำวงดนตรีที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ รายที่ 20 เป็นชายวัย 50 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 25 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล 17 แห่ง โดยใส่ท่อช่วยหายใจ 9 ราย
อันดับ 6 : จุกอก กำหมัดแน่น ผุดแคมเปญล้างหนี้ กยศ. อ้างลดแรงจูงใจ-เกิดความเหลื่อมล้ำ กระแสสังคมตีกลับเห็นแก่ตัว
กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "ศูนย์วิจัยรัฐสวัสดิการ" ได้ออกแคมเปญล่ารายชื่อ 1 หมื่นรายชื่อ เพื่อยื่นแก้ไขร่างพระราชบัญญัติกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยให้แก้ไขมาตรา 44 เพิ่มเติม วรรคที่ 5 "ให้ผู้ทำการกู้ที่สำเร็จการศึกษาเกินสองปีและยังคงมียอดกู้คงเหลือให้ถือว่าสิ้นสุดสัญญาเงินกู้ โดยให้กองทุนเก็บยอดหนี้คงค้างจากรัฐบาลต่อไป" โดยอ้างว่าหนี้ กยศ. เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ลดแรงจูงใจในการเริ่มชีวิตประกอบธุรกิจ ใช้ชีวิตตามมาตรฐานสังคม การเข้าถึงแหล่งทุน เกิดความเหลื่อมล้ำ ทำลายเสรีภาพ สิทธิพื้นฐานและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
เรื่องนี้กระแสสังคมไม่เห็นด้วย เพราะไม่เป็นธรรมกับคนที่ใช้หนี้คืนไปหมดแล้ว คนละเรื่องกับนโยบายเรียนฟรี แต่เป็นการช่วยคนเห็นแก่ตัว เบียดบังเงินกองกลาง และเห็นว่ากู้หนี้มาเรียนก็ต้องใช้คืน เพื่อนำไปสร้างอนาคตให้กับเด็กรุ่นต่อไป อย่างไรก็ตาม นายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ย้ำว่าการยกหนี้ กยศ. ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่จะทำให้ผู้กู้ขาดวินัยทางการเงิน ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต แต่รัฐบาลเข้าใจปัญหาจึงได้เสนอแก้ไขให้การชำระหนี้ กยศ. สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ แต่ยังคงยึดหลักเป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณา
อันดับ 7 : ซอฟต์พาวเวอร์เมืองไทย บัวขาวหวนคืนเวทีราชดำเนินรอบ 18 ปี ไม่ผิดหวังน็อกหนุ่มหล่อชาวญี่ปุ่น โคตะ มิอุระ
รายการชกมวยราชดำเนิน เวิล์ด ซีรีส์ ที่จัดชกในรูปแบบเอ็กซิบิชัน คิกบ็อกซิง แมตช์ หรือการชกแบบสาธิต เรียกเสียงฮือฮาแก่คอมวยและแฟนคลับ เมื่อร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกขวัญใจชาวไทยวัย 40 ปี เจอกับนักชกรูปหล่อชาวญี่ปุ่นอย่าง โคตะ มิอุระ วัย 20 ปี ลูกชาย คาซึโยชิ มิอุระ ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น เมื่อค่ำวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้ชมเต็มสนาม แสง สี เสียงตระการตา ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก แม้จะไม่มีการตัดสินผลการแข่งขัน แต่ทั้งคู่ก็ออกลีลาการต่อสู้อย่างเต็มที่ ชนิดที่แฟนมวยไม่ผิดหวัง ก่อนที่บัวขาวจะน็อกมิอุระในยกที่ 3 กระทั่งกรรมการต้องยุติการชกในที่สุด
รายการมวยโชว์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดกีฬามวยไทย ร่วมกับศิลปะการต่อสู้อื่น อย่างกีฬาคิกบ็อกซิง ที่มีพื้นฐานมากจากมวยไทย ถือเป็นการโปรโมตเวทีมวยราชดำเนินในรอบ 77 ปี ให้เป็นที่รู้จักในฐานะ สปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ โดยการสนับสนุนของ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย, บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด และบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาครัฐและเอกชน ซึ่งโคตะ มิอุระ มาถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่บัวขาวยอมรับไม่คิดว่าจะได้หวนกลับมาชกที่เวทีราชดำเนินอีกครั้งในรอบ 18 ปี ก่อนที่จะเน้นชกมวยที่ต่างประเทศ
(หมายเหตุ : คอลัมน์ "Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน" ใน MGR Online ขอหยุดตีพิมพ์ 1 สัปดาห์ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2565 และจะกลับมาพบกับผู้อ่านในสัปดาห์ถัดไป ประมาณวันที่ 3-4 กันยายน 2565)