“ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต” อาจารย์ประจำสาขาโลหิตวิทยาและอองโคโลยี ม.มหิดล “ผู้คิดค้นและพัฒนาแนวทางในการวินิจฉัยโรคทางโลหิตวิทยาด้วยเทคโนโลยีจีโนมิกส์” คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2565 รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
วันนี้ (16 ส.ค.65) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผู้ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 40
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีและมอบโล่ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัล โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ศ.ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล ประธานคณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น และผู้ที่ได้รับรางวัล เข้าร่วมงานแถลงข่าว
ศ.ดร.จำรัส กล่าวตอนหนึ่งว่า วิทยาศาสตร์ ถือเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการพัฒนาประเทศ และหากมองสถานะของประเทศไทยในเวทีโลก จะช่วยให้เราทราบว่า มีสิ่งใดที่เราควรทำเพื่อขยับสถานะของประเทศให้สูงขึ้น โดย IMD World Competitiveness Center ได้จัดอันดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ ใน 63 ประเทศทั่วโลกประจำปี 2565 พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 33 ขยับลงมา 5 อันดับจากปี 2564 ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่อันดับที่ 38 เท่าเดิม และการศึกษาอยู่อันดับที่ 53 ดีขึ้น 3 อันดับ เมื่อมองไปที่วิทยาศาสตร์แล้วพิจารณาเฉพาะงานวิจัยที่มีคุณภาพดีเด่น (High Quality & High Impact)
ศ.ดร.จำรัส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การจัดอันดับของ Nature Index ยังพบว่าขีดความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลก จาก 115 ประเทศที่มีผลงานวิจัยกลุ่มดีเด่นและเป็นอันดับ ที่ 9 ในเขต Asia Pacific จำนวน 28 ประเทศ และเมื่อพิจารณาในกลุ่มสมาชิก ASEAN 10 ประเทศนั้นพบว่า อันดับ ที่ 1 คือประเทศสิงคโปร์ ส่วนประเทศไทยเป็นอันดับที่ 2 ตามด้วยประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ประเทศไทยจำเป็นต้องส่งเสริมและสร้างองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ให้พร้อมเพรียง ได้แก่ 1.ส่งเสริมความเป็นเลิศในสาขาวิจัยที่สร้างศักยภาพให้กับประเทศ, 2.เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม, 3.สนับสนุนนักวิจัยและผู้นำกลุ่มนักวิจัยขั้นแนวหน้า และ 4.สนับสนุนให้เกิดการลงทุนด้านการวิจัย เพื่อเร่งสร้างนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ฯลฯ ที่มีคุณภาพให้เพียงพอต่อความต้องการ และให้ทันกับการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง
“สำหรับงานวิจัยนั้น เราต้องมุ่งเน้นพัฒนางานวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) ที่ตอบสนองความต้องการของประเทศและสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปัจจุบันในด้านต่าง ๆ อาทิ Energy and Environment, Biotechnologies, Advanced Functional Materials, และ Advanced Digital Technologies เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เราจำเป็นต้องสร้างนักวิจัยที่มีศักยภาพ เพื่อให้เป็นหัวรถจักรชั้นดีในการขับเคลื่อนประเทศ อีกทั้งเป็นการเพิ่มทุนทางนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) เคลื่อนเข้าสู่เวทีโลกอย่างสง่างาม ยกระดับประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดด เช่นเดียวกับประเทศชั้นนำในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์”
สำหรับในปีนี้ คณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต อาจารย์ประจำสาขาโลหิตวิทยาและอองโคโลยี ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล “ผู้คิดค้นและพัฒนาแนวทางในการวินิจฉัยโรคทางโลหิตวิทยาด้วยเทคโนโลยี จีโนมิกส์” คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2565 รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 400,000 บาท
ศ.ดร.นพ.วิปร เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาโดยเฉพาะโรคเม็ดเลือดแดงและโรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย มีความเป็นเลิศทางวิชาการ (Academic Excellence) มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพดีเด่น (High Quality Research output) อีกทั้งยังมีความสำคัญและเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ (Nationally Important) และเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล (Globally Visible) ความเป็นเลิศทางวิชาการ มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพดีเด่น โดยพิจารณา ผลงานย้อนหลัง และ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่างานวิจัยได้รับการอ้างอิงมากกว่า 10,000 ครั้ง ในสาขาโลหิตวิทยา ชึ่งเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของสมาพันธ์ธาลัสซีเมียนานาชาติและองค์การอนามัยโลก
โดยมีผลงานวิจัยที่สำคัญ ได้แก่ การค้นพบโรคทางโลหิตวิทยาชนิดใหม่ในคนไข้ชาวไทย และตั้งชื่อว่า โรคเคแอลเอฟ 1, การค้นพบกลไกการเกิดโรคพันธุกรรมแบบใหม่จากการเปลี่ยนแปลงลำดับดีเอ็นเอ ที่ส่งผลต่อ การควบคุมการแสดงออกของยีน, การวิจัยทางคลินิกของผลการรักษาภาวะเหล็กเกินด้วยยาขับเหล็กที่ผลิตขึ้น ในประเทศไทย, การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประเมินภาวะเหล็กเกินด้วยการวิเคราะห์ภาพจากเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, งานวิจัยเชิงลึกด้านพยาธิสรีรวิทยาของโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียทั้งในแง่กลไกทางพันธุกรรม อุบัติการณ์ สาเหตุ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ซึ่งผลงานดังกล่าวได้ถูกปรับใช้ในการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยโรคทางโลหิตวิทยาและโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียในประเทศไทยและทั่วโลก ทั้งยังเป็นผู้ออกแบบและจัดสร้างต้นแบบรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน (รถตรวจหาเชื้อโควิด 19) อีกด้วย
สำหรับรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ประจำปี 2565 ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ 1.ผศ.ดร.กมลวัช งามเชื้อ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเคมี สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี ผลงาน “งานวิจัยขั้นแนวหน้าทางเคมีไฟฟ้าและการประยุกต์ใช้เทคนิคเคมีไฟฟ้าในเซ็นเซอร์ตรวจวัดสารบ่งชี้โรคและสารพิษในสิ่งแวดล้อม” และ 2.ผศ.ดร.สุรชัย กาญจนาคม อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผลงาน “การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อใช้ในการผลิตไบโอออยล์และสารเคมี”.