เจ้าอาวาสวัดเกาะเสือยัน คนร้ายฟาดไม้หน้าสามฆ่ารัดคอเป็นขี้เมาไม่ใช่เด็กวัด

เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างวงศ์ หรือวัดเกาะเสือ ที่หาดใหญ่ สงขลา ชี้แจงข่าวที่ออกหลายช่อง คนร้ายฟาดไม้หน้าสามฆ่ารัดคอไม่ใช่เด็กวัด แต่เป็นคนขี้เมาที่เข้ามาก่อกวนในวัดและหลับนอนภายในวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝากแก้ข่าวเพราะทำวัดเสียหาย

วันนี้ (15 ส.ค.) จากกรณีที่นายภิญโญ สุวรรณโณ อายุ 48 ปี ที่ระบุว่าเป็นเด็กวัดและอาศัยอยู่ภายในวัดศรีสว่างวงศ์ หรือวัดเกาะเสือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายธรรมฤทธิ์ งามโฉม อายุ 47 ปี โดยใช้ไม้หน้าสามตีเข้าที่ศีรษะ 3 ครั้ง และใช้ผ้าขาวม้ารัดคอแล้วลากไปทิ้งบริเวณสวนป่าด้านหลังโรงเรียนพระปริยัติธรรมภายในวัด ก่อนที่พระลูกวัดจะพบศพเมื่อเช้าวันที่ 14 ส.ค. ต่อมาช่วงเย็นนายภิญโญเข้ามอบตัวที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ที่ทำการย่อยหาดใหญ่ อ้างว่าที่ทำไปเพราะได้ยินผู้ตายพูดคำว่าจะมาปล้นวัดคำเดียวก็ลงมือทันทีเพราะในวัดมีเงิน 4-5 แสนบาท

ล่าสุด พระครูปลัดภูวนัย สุเมธโส เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างวงศ์ (วัดเกาะเสือ) ออกประกาศชี้แจงกรณีการเกิดเหตุการณ์ภายในวัดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ระบุว่า จากกรณีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายและมีการเสียชีวิตซึ่งเกิดขึ้นภายในวัดศรีสว่างวงศ์ (วัดเกาะเสือ) เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ส.ค. 2565 นั้น ซึ่งภายหลังผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีสื่อสำนักข่าวหลายช่องได้ทำการออกข่าวในลักษณะที่ว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัด, เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในวัดนั้น เป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของวัดศรีสว่างวงศ์ (วัดเกาะเสือ)

โดยข้อเท็จจริงทางวัดของชี้แจงดังนี้ ผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นเด็กวัดและไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลความเรียบร้อยภายในวัดตามที่สื่อได้ออกข่าวแต่ประการใด แต่เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำเวลาเมาชอบเข้ามาก่อกวนภายในวัดจนพระภิกษุ สามเณร และญาติโยมของวัดเอือมระอา และมักจะแอบมานอนตามสถานที่ต่างๆ ภายในวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต การที่สื่อสำนักข่าวได้ทำการออกข่าวในลักษณะพาดพิงเป็นการทำให้ชื่อเสียงของวัดได้รับความกระทบเสียหาย เพราะฉะนั้นทางวัดจึงขอประกาศชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงให้ทราบโดยทั่วกัน

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่