ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา เผย "เลย์วี" ไวรัสตัวใหม่ สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ แต่จากคนสู่คนยังไม่ได้ หรือไม่ดี มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย บางรายอาจมีการทำงานของตับและไตลดลง ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อเสียชีวิต
วันนี้ (11 ส.ค.) เฟซบุ๊ก "Anan Jongkaewwattana" หรือ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "LayV - ไวรัสน้องใหม่ที่พบติดเชื้อในประเทศจีน ก่อนที่ข่าวจะเริ่มออกมา พร้อมกับข้อมูลที่น่าวิตกกังวลสำหรับไวรัสตัวใหม่ที่ทางทีมวิจัยในจีนได้ตีพิมพ์ผลงานในวารสาร New England Journal of Medicine ขออนุญาตให้รายละเอียดคร่าวๆ ว่าไวรัสตัวนี้คืออะไร มีอะไรต้องน่ากังวลใจแค่ไหนนะครับ เอาข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้แบบไม่มีการคาดเดาอะไรไปล่วงหน้านะครับ
1. ชื่อเต็มๆ ของไวรัสตัวนี้ชื่อว่า Langya henipavirus เรียกย่อๆ ว่า LayV ไวรัสชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม paramyxovirus มีไวรัสที่เรารู้จักกันในกลุ่มนี้ เช่น ไวรัสโรคหัด และไวรัสคางทูม ไวรัสกลุ่มนี้มีไวรัสที่ก่อโรครุนแรงมากๆ เช่นกัน เช่น Nipah and Hendra viruses ซึ่งทำให้คนติดเชื้อเสียชีวิตได้สูง แต่ความรุนแรงดังกล่าวทำให้การแพร่อยู่ในวงจำกัดเนื่องจากโฮสต์เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
2. ประเทศจีนพบการติดเชื้อไวรัส LayV ในคนครั้งแรกตั้งแต่ปลายปี 2018 และ พบต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนับได้ 35 เคส ข้อมูลที่สำคัญคือ การระบาดไม่เกิดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ แต่เป็นแบบกระจัดกระจาย แสดงว่าไวรัสกระโดดจากสัตว์สู่คนได้ แต่ไวรัสจะแพร่จากคนสู่คนยังไม่ได้ หรือไม่ดี
3. ไวรัสที่แยกได้จากผู้ป่วยมีรหัสพันธุกรรมใกล้เคียงมากๆ กับไวรัสที่แยกได้จาก Shrew หรือภาษาไทยเรียกว่า หนูผี ทำให้เชื่อว่าหนูผีน่าจะเป็นสัตว์ตัวกลางที่แพร่เชื้อดังกล่าวมาให้คน แต่อาจเป็นไปได้ว่าสัตว์ชนิดอื่นอาจจะเป็นแหล่งรังโรคของไวรัสนี้ได้เช่นกัน
4. อาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ LayV จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย บางรายอาจมีการทำงานของตับและไตลดลง ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อเสียชีวิต
สรุปสั้นๆ คือ ไวรัส LayV ติดคนได้จากสัตว์ตัวกลาง ยังไม่มีหลักฐานการแพร่จากคนสู่คน อาการไม่รุนแรงมากยังไม่มีผู้เสียชีวิต และประเด็นเรื่องความรุนแรงที่มีสื่อต่างประเทศพยายามใส่ข้อคิดเห็นลงมาเพื่อขายข่าว อ้างอิงมาจากไวรัส Nipah ซึ่งไม่ใช่ไวรัส LayV ต้องใส่เครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆ กำกับไว้เลยครับว่าไม่น่าจะมีอะไรมายืนยันข้อมูลนี้"