xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเน็ตเผย "ครูบาบุญชุ่ม" มีอาการแปลกหลังออกจากถ้ำ เพราะกำลังแสดงธรรมที่เป็นรูปร่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังมีคลิปวิดีโอเกี่ยวกับครูบาบุญชุ่มที่มีลักษณะท่าทางแปลกๆ หลังออกจากถ้ำหลวง เมืองแก๊ด รัฐฉาน ประเทศเมียนมา จนมีการนำไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ทั้งนี้พบชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาอธิบายว่าแท้จริงแล้วครูบากำลังแสดงธรรมที่เป็นรูปร่างให้แก่มนุษย์โลก

จากกรณี "ครูบาบุญชุ่ม" ญาณสังวโร พระสงฆ์นักปฏิบัติธรรมและนักพัฒนา เกจิดังแห่งล้านนาและไทใหญ่ ออกจากถ้ำหลวง เมืองแก๊ด รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับ อ.ฝาง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติธรรมกรรมฐานปิดวาจา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 62 โดยครูบาบุญชุ่มได้ออกแสดงธรรมโปรดญาติโยมไปยังสถานที่ต่างๆ ประชาชนชาวพม่าต่างหลั่งไหลไปรอฟังธรรมอย่างหนาแน่น

ต่อมาในโลกโซเชียลแชร์คลิปครูบามีอาการแปลกๆ เช่น วิ่งออกจากอาสนะไปกราบไหว้สามเณรน้อย ฯลฯ, นั่งแลบลิ้นระหว่างแสดงธรรม ทำเอาบรรดาลูกศิษย์อดเป็นห่วงไม่ได้ ว่าท่านมีอาการอาพาธหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในถ้ำนานถึง 3 ปี ก่อนออกมาเจอโลกภายนอก จนกลายเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลอย่างมากมาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "จาย จาย" ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงถึงลักษณะท่าทางของครูบาบุญชุ่ม ที่ทำให้ชาวเน็ตเกิดความสงสัยว่าท่านมีอะไรผิดปกติไปหรือไม่ โดยลูกศิษย์รายนี้ได้ระบุข้อความว่า

"อันนี้คือการแสดงธรรมที่เป็นรูปร่างให้กับมนุษย์โลก เตือนสติชาวโลก ที่จะพบเจอในวันข้างหน้านี้อีกไม่ช้านาน ไทใหญ่เรียกว่า "แนฮ้างผางตารา" หรือแสดงธรรมที่เป็นรูปร่างให้เห็นด้วยตา หรือปริศนาธรรม หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ

แต่พวกนักเลงคีย์บอร์ดที่ไม่รู้เรื่อง เอาไปลงเพจ ลง tiktok ต้องการให้คนมาวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ดี เพื่อต้องการให้เพจตัวเอง tiktok ตัวเอง มียอดไลก์ยอดติดตามเท่านั้น ผลกรรมที่ก่อเขาต้องได้รับแน่นอน ท่านฝากบอกลูกๆ ทุกคนว่าปล่อยเขาไป ห้ามไปยุ่งกับพวกเขา เขาจะพูดจะดูถูกยังไงก็ปล่อยเขาไป มันเป็นเส้นทางกรรมของเขา คนดีต้องมีสตี ท่านบอกไว้ครับ

ครูบาพ่อท่านแสดงธรรม โดยท่านกำลังสอนเรื่องอายตนะ โดยเอาตนเป็นแบบให้เห็นเพื่อง่ายต่อการเข้าใจในธรรมอายตนะ (อ่านว่า อายะตะนะ) แปลว่า ที่เชื่อมต่อ, เครื่องติดต่อ หมายถึงสิ่งที่เป็นสื่อสำหรับติดต่อกัน ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้น แบ่งเป็น 2 อย่างคือ อายตนะภายใน หมายถึงสื่อเชื่อมต่อที่อยู่ในตัวคน บ้างเรียกว่า อินทรีย์ 6 มี 6 แบบ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งหมดนี้เป็นที่เชื่อมต่อกับอายตนะภายนอก

อายตนะภายนอก หมายถึงสื่อเชื่อมต่อที่อยู่นอกตัวคน บ้างเรียกว่า อารมณ์ 6 มี 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นคู่กับอายตนภายใน เช่น รูปคู่กับตา หูคู่กับเสียง เป็นต้น
อายตนะมีคุณสมบัติสำคัญแบ่งออกเป็น 5 อย่าง คือ อายตนะภายใน เป็นที่เกิดแห่งวิถีจิตอยู่เสมอ จะเกิดในชาติใดภพใดก็ตาม วิถีจิต ไม่เกิดที่อื่น ต้องเกิดตามอายตนะเหล่านี้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

อายตนะภายในเหล่านี้ มีลักษณะเหมือนเป็นที่อยู่ของวิถีจิต เหมือนพิณ เมื่อมีผู้ดีดก็จะมีเสียงดังขึ้น คล้ายกับว่าเสียงอยู่ในสายพิณ วิถีจิตก็เช่นเดียวกัน เมื่ออายตนะกระทบกันขึ้น วิถีจิตจึงเกิด

อายตนะภายในเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่ในสัตว์ทั่วไป ไม่เลือกชั้นสูง ต่ำ สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ คือไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉาน ก็ต้องมี ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ด้วยกันทั้งสิ้น

อายตนะภายนอก เป็นที่ประชุมของวิถีจิตทั้งหลาย คือวิถีจิตต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต้องมีการรับอารมณ์เสมอ การรับอารมณ์คล้ายกับว่าเข้าไปประชุมอยู่ในอายตนะภายนอกเหล่านั้น

อายตนะทั้งภายในและภายนอกจำนวนอย่างละ 6 นี้ เป็นเหตุให้วิถีจิตเกิด ถ้าไม่มีอายตนะเหล่านี้เสียแล้ว วิถีจิตย่อมเกิดไม่ได้….ความละเอียดอ่อนลึกซึ้ง และความแยบคายในการสอนเป็นยอดแห่งการยกตัวอย่าง ที่สอนเหล่าสรรพสัตว์ ให้ได้รู้ ได้เห็นตามสภาพความเป็นจริง ครูบาพ่อจึงเน้นความชัดเจน แจ่มแจ้ง ไม่คลุมเครือ เพราะท้ายที่สุด ทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา ว่าจะเปิดใจรับธรรมะ หรือปิดกั้นธรรมะเหล่านั้น..อะไรไม่ดีก็อย่าไปดูนะตา….อะไรไม่น่าฟัง ก็อย่าไปฟังนะหู… กลิ่นอะไรไม่ดี ก็ไม่ต้องดมนะจมูก…รสอะไรไม่ดี ก็ไม่ต้องชิมนะลิ้น …สัมผัสอะไรไม่ดี ก็อย่าไปสัมผัสนะกาย…คิดอะไรไม่ดี ก็อย่าไปคิดนะใจ..อะไรถ้ามันทำให้เราเป็นทุกข์ เป็นโทษ ก็อย่าไปทำ ให้ระวังสำรวมอายตนะของเราให้ดี"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
กำลังโหลดความคิดเห็น