รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 31 ก.ค. - 5 ส.ค. 2565)
อันดับ 1 : โศกนาฎกรรม ผับเมาท์เทน บี คืนมรณะที่สัตหีบ ชลบุรี เพลิงไหม้คร่านักเที่ยว 14 ศพ แผลไฟไหม้สาหัส 16 คน
ไฟไหม้สถานบันเทิงคร่าชีวิตนักเที่ยวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.25 น. วันที่ 5 ส.ค. เกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงที่ชื่อว่า เมาน์เทน บี (Mountain B) ปากซอยสัตหีบสุขุมวิท 99 ถนนสุขุมวิท หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ท่ามกลางนักเที่ยวแห่หนีตาย ส่วนหนึ่งมีไฟลวกทั้งตัว ส่วนการดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะมีโฟมซับเสียงซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 ราย อายุระหว่าง 17-49 ปี กองรวมกันทางเข้าร้าน หน้าห้องน้ำ และบนเวที และเสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย บาดเจ็บ 35 คน โดยมีอาการสาหัส 16 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีแผลไฟไหม้เกิน 60%
จากการตรวจสอบพบว่า ร้านเมาท์เทน บี ขออนุญาตก่อสร้างเป็นร้านอาหาร แต่ภายหลังต่อเติมในลักษณะปิดทึบ โดยมีนายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ อายุ 27 ปีรับเป็นเจ้าของ เปิดเมื่อเดือน มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า ทางเข้าออกของผู้มาใช้บริการมีทางเดียว ทางหนีไฟมีปัญหา ไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการผับ บาร์ ที่ผ่านมาเคยถูกร้องเรียนว่าเปิดเกินเวลา สภ.พลูตาหลวง เคยจับกุมไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกด้านหนึ่ง กรมการปกครองสั่งย้าย ว่าที่ พ.ต.ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ตั้งศูนย์บัญชาการที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่หอประชุม อบต.พลูตาหลวง ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. เป็นต้นไป เวลา 08.30-16.30 น.
อันดับ 2 : แนนซี่เยือนไต้หวัน สะเทือนสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ชี้ฝ่าฝืนหลักการจีนเดียว แบนสินค้า-ซ้อมรบใหญ่-ยิงขีปนาวุธโต้
เมื่อค่ำวันที่ 2 ส.ค. นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไต้หวันด้วยเครื่องบินทหารของกองทัพสหรัฐฯ ก่อนจะเข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำไต้หวันในวันต่อมา นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่เยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี ขณะที่ทางการจีนประณามการไปไต้หวันของนางเปโลซี เนื่องจากฝ่าฝืนหลักการจีนเดียว (One China) และแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ 3 ฉบับ กระทั่งได้ออกมาตรการตอบโต้ ทั้งห้ามนำเข้าอาหารจากไต้หวันกว่า 100 แบรนด์ ซ้อมรบใหญ่ด้วยกระสุนจริง 6 ด้านล้อมไต้หวัน ยิงขีปนาวุธ 11 ลูกเข้าสู่น่านน้ำรอบไต้หวัน และส่งฝูงเครื่องบินข้ามช่องแคบไต้หวัน
หลังจากที่นางเปโลซีเสร็จสิ้นภารกิจที่ไต้หวัน ได้เดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้พบกับประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ย็อล จากนั้นได้เดินทางไปยังญี่ปุ่น พบปะนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นางเปโลซีแถลงข่าวอ้างว่า การมาเยือนไต้หวันไม่ได้หวังเปลี่ยนแปลงสถานะปัจจุบันของไต้หวันหรือภูมิภาค ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประกาศสนับสนุนหลักการจีนเดียว ตามมติที่ประชุมสมัชชาใหญ่ฯ เมื่อปี 2514 ส่วนการซ้อมรบใหญ่ของจีนจะสิ้นสุดลงในวันที่ 7 ส.ค. โดยพบว่าสายการบินหลายแห่ง ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังไต้หวัน อีกส่วนหนึ่งปรับเปลี่ยนเส้นทางชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย
อันดับ 3 : โชครถแห่ เมียทัวร์ลง สู้หลังชนฝาหมาจนตรอก แตกหักบอล เชิญยิ้ม เทงาน 50 คิว โหนกระแสเรียกเคลียร์ให้จบ
ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง บอล เชิญยิ้ม หรือนายชัชชัย จำเนียรกุล ตลกชื่อดัง กับ โชค ไทรถแห่ หรือนายโชคมงคล สินชื่น นักร้องอาชีพ ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากเพลง ต.ล.ก. ก่อนจะร่วมออกงานคู่กัน เมื่อวันที่ 29 ก.ค. บอลประกาศขอไม่รับคิวงานคู่กับโชคเพิ่มอีก ก่อนที่จะแถลงข่าว ไม่ขอทนพฤติกรรมของโชค และแฟนสาวอย่าง นัส จุฑารัตน์ เพราะดังแล้วเปลี่ยนไป ข้ามหัวผู้ใหญ่ มีข้อแม้กับการทำงาน ทั้งกรณีขอคืนคิวงานกับนายพชรกร นิลแก้ว หรือดอน เจ้าของค่าย 2Brothers กรณีที่โชคตัดการแสดงของบอลจาก 40 นาทีเหลือ 20 นาที แถมตัดจบห้วนๆ และไม่พอใจที่นัส แฟนสาวโชค เอาเรื่องตนไปนินทาให้เสียหาย
เมื่อเกิดกระแสดรามา โชค ไทรถแห่ จึงกล่าวเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ขอเทคิวงานกับบอลที่เหลือกว่า 50 คิว เหลือเฉพาะงานเดี่ยว อ้างว่าถูกกดดันจากสังคม แสดงต่อบนเวทีไม่ไหว บอลจึงโต้กลับว่า ไม่เคารพกันไม่ว่า เจ้าภาพที่จ้างงานเสียหาย รับผิดชอบไหวเหรอ ด้านนัส แฟนสาวโชค ระบุว่า เคยเห็นคนที่สู้หลังชนฝา หมาจนตรอกไหม เรียกทัวร์ลงหนักกว่าเดิม ส่วนบอลถามกลับนัสว่า จำได้ไหมว่าใครเคยช่วยขอซื้อเพลงคืนมาจากไทรถแห่ มากล่าวหาว่าหวังผลประโยชน์ ความน่ารักที่เคยเอ็นดูหายไปไหนหมด กระทั่งรายการโหนกระแสเรียกทั้งสองฝ่ายมาเคลียร์ ก่อนที่โชคจะขอโทษ ยอมกลับไปรับงานจ้างให้จบแล้วแยกย้าย
อันดับ 4 : พระราม 2 ทางหลวงสายมรณะ คานสะพานกลับรถสกัดพื้นรับน้ำหนักไม่ไหว หล่นทับรถยนต์ ดับ 2 เจ็บ 2
โศกนาฎกรรมบนทางหลวงเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 31 ก.ค. คานสะพานกลับรถถนนพระรามที่ 2 กม. 34 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร หล่นลงมาระหว่างที่ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 กรมทางหลวงกำลังปรับปรุง ทับรถยนต์ 3 คัน ได้แก่ รถเก๋งเชฟโรเลต รถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ และรถบรรทุกน้ำมัน เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.สุวรรณี รักท้วม อายุ 40 ปี ติดอยู่คาซากรถเก๋งเชฟโรเลต และนายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี พนักงานโยธา ตกลงมาจากสะพานก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ น.ส.ลัคขณา จงศิริโรจน์กุล อายุ 40 ปี คนขับรถยนต์ และนายฉัตรชัย ศิริมาศ อายุ 27 ปี ลูกจ้างชั่วคราว
สำหรับสาเหตุเกิดจากการสกัดคานสะพานและพื้นสะพานออกทั้งหมด ทำให้คานสะพานริมสุดไม่สามารถยึดกับโครงสร้างหลักได้ จึงหล่นลงมา เหตุการณ์นี้ส่งผลให้การจราจรขาเข้ากรุงเทพฯ ติดขัด เพราะต้องปิดช่องทางหลัก (Main Road) ทั้งหมด กระทั่งวันที่ 2 ส.ค. นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง สั่งรื้อคานสะพานที่เหลือ 4 ตัวออกทั้งหมด แล้วเสร็จเมื่อเวลา 03.15 น. วันที่ 3 ส.ค. และเปิดการจราจรในเช้าวันเดียวกัน ส่วนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวง 2 ชุด ตรวจสอบเหตุดังกล่าว และจัดระเบียบมาตรการก่อสร้างใหม่ เพิ่มการตรวจซ้ำไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
อนึ่ง ปัจจุบันถนนพระรามที่ 2 มีโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก และทางยกระดับพระราม 2 หรือทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2568
อันดับ 5 : ฝนตกรันเวย์ลื่น เครื่องบินนกแอร์ไถลออกนอกทางวิ่ง สนามบินเชียงราย ต้องใช้เวลา 5 วันถึงลำเลียงออกมาได้
อุบัติภัยทางอากาศยานเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.06 น. วันที่ 30 ก.ค. เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินนกแอร์ ทะเบียน HS-DBR นามว่า นกหยกนภา ซึ่งทำการบินเที่ยวบินที่ DD108 ดอนเมือง-เชียงราย ไถลออกนอกรันเวย์ ระหว่างลงจอดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยมีผู้โดยสาร 164 คน และลูกเรือ 6 คน ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ประกาศปิดทางวิ่ง ส่งผลทำให้ทุกสายการบินไม่สามารถทำการบินได้ ต้องเปลี่ยนแผนโดยไปลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ แล้วนำรถบัสและรถตู้รับ-ส่งผู้โดยสารไปยังจังหวัดเชียงรายแทน พร้อมกับออกมาตรการชดเชยผู้โดยสาร
ขณะที่การเคลื่อนย้ายเครื่องบินพบว่าเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ล้อเครื่องบินหักจมดิน ต้องใช้รถเทรลเลอร์มารองรับ แต่ก็พบว่าล้ออีกด้านหนึ่งทรุดตัว พบน้ำขังใต้ดินจำนวนมาก ต้องเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวัง ทำให้ต้องขยายเวลาปิดทางวิ่งถึงวันที่ 5 ส.ค. อย่างไรก็ตาม ได้เคลื่อนย้ายเครื่องบินสำเร็จเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 4 ส.ค. พร้อมปรับพื้นที่รอบรันเวย์ให้กลับมาเหมือนเดิม ก่อนประกาศยกเลิกปิดทางวิ่งเมื่อเวลา 22.00 น. ขณะที่สายการบินนกแอร์ ชดเชยผู้โดยสารเที่ยวบินที่ DD108 วันที่ 30 ก.ค. โดยออกตั๋วเครื่องบินไป-กลับฟรี 1 ที่นั่้ง พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน
อันดับ 6 : กราดยิงอุบล วัยรุ่น 2 กลุ่มใช้อาวุธสงครามปะทะหน้าผับ ราวกับสงครามดับ 2 เหตุหัวหน้าการ์ดเคลียร์ไม่ลงตัว
เหตุกราดยิงสะเทือนขวัญกลางเมือง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 3 ส.ค. วัยรุ่น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบ้านขามใหญ่ กับกลุ่มหาดวัดใต้ ใช้อาวุธสงครามกราดยิงปะทะกันที่ลานจอดรถหน้าร้านอาหารกึ่งผับเอกมัย 487 และร้านพญายอ ภายในตลาดนิกรธานี ข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อุบลราชธานี ถนนชยางกูร อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายโชคทวัตร พันธ์กว้าง อายุ 38 ปี ฉายา “เป็ด บ้านขามใหญ่” หัวหน้าการ์ดร้านพญายอ และนายตะวัน ธรรมใจ อายุ 22 ปี ฉายา “คิงลาย หาดวัดใต้” บาดเจ็บ 7 คน ทรัพย์สินเสียหาย ชาวบ้านติดใจทำไมพกปืนกันง่ายขนาดนี้ หนำซ้ำตำรวจเข้าระงับเหตุล่าช้าอีก
ต่อมานายภิวัฒน์ นามศิริ หรือ โชค อายุ 24 ปี หัวหน้าการ์ดร้านเอกมัย 487 เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเข้าไปตกลงปัญหากับนายโชคทวัตร ในห้องวีไอพีหลังร้านพญายอ แต่ตกลงกันไม่ได้ ทะเลาะวิวาทกัน จึงใช้ปืนพก 9 มม. ยิงนายโชคทวัตร แล้ววิ่งหนีออกมา เมื่อกลุ่มบ้านขามใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าร้านพญายอ ทราบว่าหัวหน้าถูกยิง จึงเริ่มเปิดฉากระดมยิงกันไปมาประมาณ 5-10 นาที กระสุนถูกนายตะวันล้มฟุบ เสียชีวิตกลางลานจอดรถ ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืน พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ และเตรียมออกหมายจับเพิ่ม
อันดับ 7 : เปิดตัวพรรคใหม่ ปัดอะไหล่ลุงตู่ บิ๊กน้อยเปิดตัวพรรครวมแผ่นดิน ส่วนพีระพันธ์นั่งหัวโต๊ะ พรรครวมไทยสร้างชาติ
หลังฝุ่นตลบจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งจะจางหายไป สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวพรรคการเมืองถึงสองพรรคด้วยกัน เริ่มจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. มีการประชุมวิสามัญพรรคพลังชาติไทย ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น พรรครวมแผ่นดิน โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือบิ๊กน้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลาออกจากพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายจำลอง ครุทขุนทด อดีต รมช.ศึกษาธิการ เป็นรองหัวหน้าพรรค เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่พรรคอะไหล่ ยังไม่ชูใครเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. มีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พบว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เป็นเลขาธิการพรรค, นายเกรียงยศ สุดลาภา อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. เป็นนายทะเบียนพรรค และมีกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายวิทยา แก้วภราดัย, นายดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง, นายชื่นชอบ คงอุดม, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ โดยนายพีระพันธุ์ ย้ำว่าไม่ใช่พรรคอะไหล่ของพรรคพลังประชารัฐ เพราะต่างคนต่างทำงาน แต่ทำงานร่วมกับทุกพรรคได้