รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นปม "เพโลซี" เยือนไต้หวัน ชี้สัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เปลี่ยนไปตลอดกาล แนะคนไทยไม่เลือกข้าง เลิกขัดแย้งกันเอง
จากกรณี แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ทำให้ประเทศจีนหวั่นว่าจะกลายเป็นการบ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างร้ายแรง เป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีนอย่างร้ายแรง คัดค้านอย่างรุนแรง สหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา
ล่าสุดวันนี้ (3 ส.ค.) รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับทุนการศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Piti Srisangnam" กล่าวถึงเหตุการณ์ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ชี้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เปลี่ยนไปตลอดกาล โดยได้ระบุข้อความว่า
"ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน จะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
Status quo ที่สหรัฐฯ คิดแบบ Strategic Ambiguity และจีนคิดแบบ Strategic Patience จนเราได้เห็นสันติภาพแบบมีกระทบกระทั่งกันบ้างตลอดมา แต่ก็สามารถทำการค้าการลงทุนระหว่างกันได้ ตั้งแต่ทศวรรษ 1970 กำลังจะเปลี่ยนไป
"การเดินทางเยือนไต้หวันของนาง Pelosi คือการทำลายล้างรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน และเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดต่อกองกำลังแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน"
ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ประณาม โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ + รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม + คณะกรรมการกลางสภาประชาชนจีน + คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าด้วยกิจการไต้หวัน + คณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน Xie Feng เรียก เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง Nicholas Burns เข้าพบ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการเยือนไต้หวันของ Pelosi และกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งเลวร้ายมากแ ละผลที่ตามมานั้นร้ายแรงมาก ฝ่ายจีนจะไม่นั่งเฉยๆ
กลาโหมจีนเตรียมการซ้อมรบด้วยอาวุธจริง 6 จุด รอบเกาะไต้หวัน ตลอด 4-7 สิงหาคม
ในขณะที่ชาวจีนจำนวนมากก็นำเอาคำกล่าวที่ว่า ทั่วทั้งโลกมีเพียงจีนเดียว โดยมีแผนที่เกาะไต้หวันอยู่ตรงใจกลางของคำว่า ประเทศจีน
ส่วนที่ไต้หวัน เกิดความแตกแยก คนกลุ่มหนึ่งออกมาชูป้าย TW US แต่อีกกลุ่มก็ออกมาถือป้ายไล่ให้ Pelosi กลับบ้าน
สิ่งที่พวกเราชาวไทยควรทำคือ รักษาจุดยืน ไม่เลือกข้าง ไม่ว่าจะเป็น ข้างจีน ข้างสหรัฐฯ หรือข้างไต้หวัน เราเลือกได้ข้างเดียวคือ ข้างรักษาผลประโยชน์ของไทย เราต้อง monitor สถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย และหากเกิดปัญหารุนแรง ไทยเราเองก็จะสูญเสียในหลายมิติ
คนไทยต้องอย่าขัดแย้ง bully กันเองโดยเฉพาะในโลก online เพราะการเมืองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ใช่การเชียร์มวย และเราต้องไม่เป็นแฟนกีฬาบ้าคลั่ง (hooligans)"