xs
xsm
sm
md
lg

สนามบินเชียงรายขยายเวลาปิดรันเวย์ถึงวันศุกร์นี้ ล้อเครื่องนกแอร์ทรุดตัวระหว่างลากจูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ประกาศขยายเวลาปิดทางวิ่งถึงวันศุกร์นี้ (5 ส.ค.) เหตุล้อเครื่องบินนกแอร์ที่กำลังเคลื่อนย้ายทรุดตัว พบน้ำขังใต้ดินจำนวนมากเพราะฝนตกต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ด้านสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ให้ผู้โดยสารเลื่อนเที่ยวบินหรือเปลี่ยนเส้นทาง พร้อมจัดรถรับส่งวันละ 1 รอบ

วันนี้ (3 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศขยายระยะเวลาปิดทางวิ่งท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ถึงวันศุกร์นี้ (5 ส.ค.) หลังเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ ทะเบียน HS-DBR มีนามเรียกขานว่า นกหยกนภา (Nok Yoknapha) ไถลออกนอกทางวิ่ง เมื่อเวลา 21.06 น.ของวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 ก.ค.) หลังทำการบินเที่ยวบินที่ DD108 ดอนเมือง-เชียงราย โดยมีผู้โดยสาร 164 คน และลูกเรือ 6 คน ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอดมีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดปลอดภัย ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

โดยระบุว่า จากการตรวจสอบความคืบหน้าการเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง (Disabled Aircraft Removal) เมื่อวันที่ 2 ส.ค. เวลาประมาณ 12.00 น. ทีมเคลื่อนย้ายฯ ได้ดำเนินการลากจูงอากาศยานขึ้นจากบริเวณพื้นที่ที่ล้ออากาศยานจมดินได้สำเร็จและสามารถลากจูงอากาศยานได้ระยะทางประมาณ 6 เมตร แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ล้อ Main Landing Gear ด้านซ้ายเกิดการทรุดตัว ภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทีมเคลื่อนย้ายฯ ได้ทำการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วพบว่ามีน้ำขังใต้ดินจำนวนมาก เนื่องจากฝนตกหนักในคืนที่ผ่านมาและในตอนเช้าก่อนเข้าปฏิบัติงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ดินเกิดการทรุดตัว

อย่างไรก็ตาม นาวาอากาศตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้มีการสั่งการให้แก้ไขโดยเร่งด่วน ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์กับทีมเคลื่อนย้ายฯ พบว่าจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เพื่อดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยาน ดังนั้น เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้โดยสาร และสายการบินในการบริหารจัดการเที่ยวบินได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จึงมีความจำเป็นต้องออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ขยายระยะเวลาปิดทางวิ่ง ถึงวันที่ 5 ส.ค. เวลา 22.00 น. โดยจะดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยานให้เร็วที่้สุดและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย

อนึ่ง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จะเร่งดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยานโดยเร็วที่สุด หากสามารถดำเนินการแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาแจ้งปิดทางวิ่ง จะแจ้งให้ทราบโดยทันที ขออภัยอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่


ด้านสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ประกาศว่า จากประกาศฉบับล่าสุดของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เรื่อง ต่ออายุการปิดทางวิ่งออกไปจนถึงวันที่ 5 ส.ค. 2565 เวลา 22.00 น.

1. ผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินเส้นทางในระหว่างเชียงราย-สุวรรณภูมิ สามารถเปลี่ยนเส้นทางบินไปยัง เชียงใหม่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ฟรี 1 ครั้ง (วันเดินทางต้องเป็นวันเดินทางเดิมตามที่ระบุอยู่ในบัตรโดยสาร)

2. ผู้โดยสารเที่ยวบินข้ามภาค เชียงราย ไปยังหาดใหญ่ และภูเก็ต สามารถเปลี่ยนเส้นทางบินไปที่สุวรรณภูมิ เพื่อต่อเที่ยวบินไปยังสนามบินปลายทางได้ฟรี 1 ครั้ง (วันเดินทางใหม่ต้องไม่เกิน 3 วันนับจากวันเดินทางเดิม)

3. ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ฟรี 1 ครั้ง โดยเที่ยวบินใหม่จะต้องเป็นเที่ยวบินของสายการบินไทยเวียตเจ็ท และเดินทางภายใน 30 วัน นับจากวันเดินทางเดิม สามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยตนเองได้ที่ https://bit.ly/3vhqr8D

หรือ 4. ผู้โดยสารสามารถเก็บรักษายอดเงินเต็มจำนวนที่ผู้โดยสารได้ชำระไว้จากเที่ยวบินนี้ เพื่อใช้ในการสำรองที่นั่ง หรือซื้อบริการต่างๆ ของสายการบินในเครือเวียตเจ็ทแอร์ในครั้งถัดไปภายในระยะเวลา 180 วัน นับจากวันเดินทางเดิม

หรือ 5. รับคืนเงินเต็มจำนวนกลับสู่ช่องทางเดิมที่ผู้โดยสารได้ทำการจองบัตรโดยสาร โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการภายใน 45 วัน

หมายเหตุ : ผู้โดยสารที่ได้ใช้สิทธิ์การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินเพื่อเดินทางในวันที่ 4-5 ส.ค. 2565 สามารถใช้สิทธิ์การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ฟรีอีก 1 ครั้ง โดยเที่ยวบินใหม่จะต้องเป็นเที่ยวบินของสายการบินไทยเวียตเจ็ท และเดินทางภายใน 30 วัน นับจากวันเดินทางเดิม

ทั้งนี้ ทางสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ได้จัดรถรับ-ส่งผู้โดยสารสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ ระหว่างวันที่ 3-5 ส.ค. 2565 (รถรับส่งให้บริการวันละ 1 รอบ) ตามตารางรถรับส่งผู้โดยสารสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ดังนี้

- รถออกจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เวลา 09.00 น. (ถึงเชียงใหม่ เวลา 13.00 น.)
- รถออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 14.00 น. (ถึงเชียงราย เวลา 18.00 น.)

เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร สายการบินได้ทำการขยายระยะเวลาให้บริการ Live Chat จาก 08.00-22.00 น. เป็นเวลา 08.00-24.00 น.

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 20.18 น. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้เผยแพร่ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้องของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD108 อากาศยานแบบ B737-800 หมายเลขทะเบียน HS-DBR ประสบอุบัติเหตุอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion) ระหว่างทำการร่อนลงทางวิ่ง 03 ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2565 เวลา 21.06 น. หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น วันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค. 2565 เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน (กสอ.) GO TEAM และตัวแทนจากสายการบินนกแอร์ (Engineering) ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายในช่วงบ่าย (ลงเครื่องบินที่เชียงใหม่ เดินทางโดยรถยนต์มายังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย)

เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ของ กสอ.ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทันทีเพื่อดำเนินการรวบรวมเอกสาร หลักฐาน ภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไป หลังจากนั้นได้มีการประชุมวางแผนการเคลื่อนย้ายอากาศยานร่วมกับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยได้มีการวางแผนสำรวจพื้นที่และประเมินระยะเวลาในการดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง พร้อมประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ ทีมเจ้าหน้าที่ และได้กำหนดเวลาในการเคลื่อนย้าย (หลังจากได้รับอนุญาตจาก กสอ.) เป็นระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-3 ส.ค. 2565 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จึงออกประกาศผู้ทำการในอากาศยาน (NOTAM) แจ้งปิดทางวิ่งตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. 2565 ถึงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 3 ส.ค. 2565 และแจ้งให้สายการบินที่มีเที่ยวบินทำการบินเข้า-ออก ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรเวลาการบินรวมถึงเที่ยวบิน เพื่อลำเลียงผู้โดยสารตกค้างไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และนำผู้โดยสารที่ลงเครื่องบินกลับมายังจังหวัดเชียงราย

ในเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ กสอ.ได้อนุญาตให้สายการบินนำกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ภายในอากาศยาน (ภายใต้การกำกับดูแลของ กสอ.) ออกมาเพื่อนำส่งให้แก่ผู้โดยสารบริเวณพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ และเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างที่กำลังก่อสร้างภายในท่าอากาศยาน ได้เข้าปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นถนนชั่วคราวบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อเตรียมรอรับ Aircraft Recovery Team ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. 2565

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
วันจันทร์ที่ 1 ส.ค. 2565 เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกู้ภัย ท่าอากาศยานพิษณุโลก สังกัดกรมท่าอากาศยาน ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับอุปกรณ์เสื่อกู้อากาศยาน ซึ่งนำทีมโดย นายวีระวัฒน์ ทะคง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานพิษณุโลก, ทีมเจ้าหน้าที่สนับสนุนการเคลื่อนย้าย (Recovery Team) ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมอุปกรณ์เบาะลมยกอากาศยาน, แผ่นปูรองพื้นใช้สำหรับรองรับการลากจูงอากาศยานขึ้นจากจุดเกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองทัพอากาศ โดยกองบิน 41 ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็นผู้ดำเนินการสนับสนุนการขนย้ายอุปกรณ์, กำลังทหาร จำนวน 60 นาย จากมณฑลทหารบกที่ 37 เชียงราย, ไฟส่องสว่าง Mobile Lighting จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย, รถเทรลเลอร์ จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, รถนำขบวนอุปกรณ์จากท่าอากาศยานพิษณุโลกมาจังหวัดเชียงราย และจากท่าอากาศยานเชียงใหม่มาจังหวัดเชียงราย โดยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, รถสุขาเคลื่อนที่ จากเทศบาลนครเชียงราย และเต็นท์จำนวน 4 หลัง จากหมู่บ้านปางลาวสำหรับใช้เป็นสำนักงานสนาม

การเคลื่อนย้ายอากาศยาน ในวันที่ 1 ส.ค. 2565

- เวลา 08.00 น. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีการประชุมแผนการเคลื่อนย้ายร่วมกับ สายการบินนกแอร์, กสอ., เจ้าหน้าที่สนับสนุนการเคลื่อนย้าย (Recovery Team) ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), มณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดเชียงราย และได้เริ่มดำเนินการจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายฯ พร้อมปรับแต่งพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสอ. โดยได้กำหนด (Assign) หลุมจอดหมายเลข 7 เป็นพื้นที่จอดอากาศยานที่ดำเนินการเคลื่อนย้าย ซึ่ง กสอ.ยังคงพิทักษ์อากาศยาน แต่อนุญาตให้มีการเคลื่อนย้าย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
- เวลา 16.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่ ปตท.ที่เดินทางมาจากสนามบินอู่ตะเภา เข้าดำเนินการถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ที่ยังคงค้างอยู่ในอากาศยานจำนวนหนึ่งตามขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายฯ เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินการ

- เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ (Recovery Team) ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เริ่มใช้เบาะลมยกอากาศยานขึ้นเพื่อตรวจสอบความเสียหายและวางแผนในการเคลื่อนย้ายอากาศยาน, ทีมขุดทำหน้าที่ขุดดินบริเวณล้ออากาศยานที่จมลงในดิน ตรวจสอบพบว่า "หัก" ซึ่งทีมขุดดินประกอบด้วย รถขุดดินของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนะวงศ์กรุ๊ป และเจ้าหน้าที่ขุดซึ่งทำงานร่วมกันระหว่างกำลังพลทหารจากมณฑลทหารบกที่ 37 เชียงราย กับพนักงานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

- เวลา 19.00 น. สามารถยกส่วนด้านหน้าของอากาศยานขึ้นมาได้ และได้ดำเนินการบดอัดหินคลุกบริเวณพื้นที่ใต้ลำตัวเครื่องบิน เพื่อเตรียมทำเส้นทางการเคลื่อนย้ายอากาศยานออกจากพื้นที่

- เวลา 22.00 น. เกิดฝนตกหนักบริเวณท่าอากาศยาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน จึงหยุดการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราว

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
เนื่องจากตรวจสอบพบล้อ Nose Gear (ล้อหน้าเครื่องบินที่ใช้ในการต่อ Tow bar เพื่อเชื่อมต่อกับรถดัน) "หัก" จึงต้องมีการวางแผนในการใช้รถเทรลเลอร์เข้ามารองส่วน Nose Gear พร้อมกับ Mock Up ด้วยรถเทรลเลอร์ ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และจะดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยานในเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันอังคารที่ 2 ส.ค. 2565 ภายใต้การกำกับดูแลของ กสอ. เนื่องจากอากาศยานยังอยู่ในความพิทักษ์ ซึ่งประเมินว่าจะสามารถลากจูงอากาศยานขึ้นจากพื้นที่ได้ในช่วงเช้าถึงเที่ยง

หากสามารถลากจูงอากาศยานออกจากพื้นที่เกิดเหตุได้ตามแผนที่กำหนด คาดว่าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จะสามารถกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ คือ วันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค. 2565 เวลา 06.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) หากไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น สภาพอากาศเข้ามาแทรกแซง (หมายเหตุ : เวลาให้บริการของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย คือ เวลา 06.00-22.00 น. และได้ประกาศ NOTAM แจ้งปิดทางวิ่งถึงวันที่ 3 ส.ค. 2565 เวลา 22.00 น.)

อย่างไรก็ตาม ก่อนการเปิดใช้งานทางวิ่ง จะต้องดำเนินการตรวจสอบความพร้อมของทางวิ่ง ทางขับ ลานจอด และอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสนามบิน และตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนจึงจะสามารถเปิดใช้งานได้

การเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง Disabled Aircraft Removal เป็นการดำเนินการที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่้เกี่ยวข้อง และสิ่งสำคัญในการวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของแผนการเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง คือ ความรวดเร็ว เวลา ความถูกต้อง การสั่งการ การติดต่อสื่อสาร และสิ่งสำคัญที่สุดคือ เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
นอกเหนือจากภารกิจการเคลื่อนย้ายอากาศยาน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ดำเนินการดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์อากาศยานลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง โดยจัดสนับสนุนรถรับ-ส่งผู้โดยสารที่ "ตกค้าง" ที่ไม่สามารถเดินทางโดยรถที่สายการบินจัดหาไว้ให้ได้ทันและผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานปลายทาง ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายและมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อีกทั้งจัดรถแท็กซี่มิเตอร์ และแท็กซี่ลิมูซีนให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือร้านค้าให้บริการสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยให้บริการถึงเวลา 22.00 น.

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ขอให้ความมั่นใจในการให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่


กำลังโหลดความคิดเห็น