กรณีที่มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผักบุ้ง 5 ราย ในพื้นที่หมู่ 12 บ้านคลองบางเลน ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าแปลงผักบุ้งที่ปลูกไว้เตรียมขายกว่า 10 ไร่ ได้รับผลกระทบจากการฉีดพ่นยากำจัดวัชพืชของ นายสมชาย แจ่มนิยม อบต.บางเลน ที่มีส่วนผสมของ "สารทูโฟดี" ทำให้ใบเหี่ยวเฉา หงิกงอ ไม่สามารถขายได้เสียหายกว่าแสนบาท ต่อมา นายสมชาย พร้อมด้วย เกษตรอำเภอ ปลัดอำเภอ นายก อบต. ปลัด อบต.และเกษตรกรลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่ผักบุ้งได้รับความเสียหาย โดยเกษตรกรเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินกว่าแสนบาท แต่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้เนื่องจาก นายสมชาย ไม่เชื่อว่าเป็นผลจากสารเคมีที่ตัวเองฉีดลงไป และขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องพิสูจน์ว่าเกิดจากสารชนิดใด
คืบหน้าวันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่ 12 บ้านคลองบางเลน นายสมชาย แจ่มนิยม อบต.บางเลน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ฉีดพ่นยากำจัดวัชพืชที่มีส่วนผสมของสาร "ทูโฟดี" ในนาข้าวของตนเอง และชาวนาในละแวกใกล้เคียงก็ใช้ยาตัวเดียวกันนี้มาตลอด เมื่อฉีดเสร็จจะใช้ยาอีกตัวไปปราบวัชพืชรอบคันนา ซึ่งอยู่ติดกับสวนกล้วยไม้ ผลไม้ บ่อกุ้ง และไร่ทั่วไปของชาวบ้าน ที่ผ่านมาไม่เคยมีผลกระทบแต่อย่างใด หรือแม้แต่พืชที่อ่อนแอต่อสารต่างๆ ก็ตาม จากนั้นมีชาวบ้านหลายรายมาขอให้ช่วยกำจัดวัชพืชที่ขึ้นริมสองฝั่งคลอง กระทั่งวันที่ 21 มิ.ย. เวลา 08.10 น. ได้ว่าจ้างคนงานทำการฉีดพ่นโดยนำยาที่เหลือจากการใช้ในนา และรอบคันนาของตนมาผสมใช้กับเครื่องฉีดพ่นแบบใหญ่ชนิดสามสูบ พร้อมปรับแรงดันหัวฉีดไม่ให้ละอองฟุ้งกระจายมีตนยืนควบคุมด้วยตัวเองอยู่ตลอด
ระหว่างนั้นเกษตรกรขับรถจักยานยนต์มาบอกให้หยุดฉีด เพราะได้กลิ่นยาฟุ้งไปถึงแปลงผักบุ้งที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร อาจมีผลกระทบต่อผักที่ปลูกอยู่ ตนยืนยันว่าไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ในวันถัดไปเกษตรกรกลุ่มเดิมบอกว่าผักบุ้งที่กำลังได้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวนั้นเสียหาย เบื้องต้นเกษตรอำเภอระบุว่าสาเหตุเกิดจากยากำจัดวัชพืชดังกล่าว และมีระยะการปลิวของละอองไปไกลถึง 1 กิโลเมตร ตนไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร เนื่องจากใช้ยาตัวนี้พ่นในที่นาตนเองมานานและใช้อัตราส่วนตามปกติ ทั้งที่ตนและสวนรอบข้างไม่เคยได้รับผลกระทบ อีกทั้งใช้เครื่องแบบปรับระบบแรงดันหัวฉีดให้ลงไปที่วัชพืชโดยตรง ตนยืนอยู่ตรงนั้นก็ไม่อยากสูดละอองเข้าไปเหมือนกัน จึงไม่ปักใจเชื่อมองว่าบริษัทที่ผลิตยามีการทดลองมาอย่างดีจนได้รับอนุญาตให้จำหน่าย
"ตรวจสอบพบหญ้าริมคันบ่อใกล้แปลงผักบุ้งแห้งตายเช่นกัน ผมเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงร้องผ่านสื่ออยากให้หน่วยงานภาครัฐที่มีเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีช่วยลงมาตรวจสอบสารดังกล่าว เพื่อให้ความกระจ่างทั้งผมและเกษตรกรผู้ปลูกผักบุ้ง ว่าปัญหาเกิดจากยาที่ผมฉีด คนอื่นมาฉีด หรือจากยาชนิดใดกันแน่ ทั้งสองฝ่ายจะได้หายเคลือบแคลงใจ ซึ่งนำมาสู่ชนวนการทะเลาะเบาะแว้งกันในชุมชนขณะนี้ ผมเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านคลองบางเลน เลยอยู่กับชาวบ้านและทำเพื่อสังคมมาเป็นเวลานาน เข้าใจเห็นใจความรู้สึกการสูญเสียของเกษตรกรทุกคน สุดท้ายอยากให้สังคมเข้าใจว่าผมไม่ใช่ไม่เห็นใจชาวบ้าน และไม่ได้โต้แย้งกับสิ่งที่เกษตรอำเภอบอกมา เพียงแต่อยากพิสูจน์ให้แน่ชัด จะได้ไม่เป็นการกล่าวโทษโดยไม่มีหลักฐานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" อบต.บางเลน กล่าว
