กลายเป็นดรามากับประเทศเพื่อนบ้านซะแล้ว สำหรับโปสเตอร์บุพเพสันนิวาส 2 ที่มีการใช้ดอกลำดวนมาประกอบภาพ จนชาวเน็ตกัมพูชาเข้ามาคอมเมนต์ทวงเครดิต เหตุจากเป็นดอกไม้ประจำชาติ คนไทยถามเรื่องแค่นี้ทำไมต้องเอามาเป็นประเด็น
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. เพจ "GDH ได้โพสต์โปสเตอร์โปรโมตภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส 2” โดยเป็นภาพคู่ของพระนาง "โป๊ปและเบลล่า" โดยรอบๆ ประกอบไปด้วยภาพของดอกลำดวน พร้อมระบุข้อความเชิญชวนแฟนๆ ไปเข้าชมภาพยนตร์ที่อีกเพียง 5 วันก็จะฉาย ซึ่งมีแคปชันกำกับในภาพอีกทีว่า "ดอกลำดวนแทนความรักที่ยั่งยืน"
อย่างไรก็ตาม พบว่ามีชาวเน็ตจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาแสดงความคิดเห็นจนกลายเป็นดรามาระหว่าประเทศเลยก็ว่าได้ เมื่อสาวกับพูชารายหนึ่งได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษ โดยแปลเป็นไทยประมาณว่า
"ขอขอบคุณสำหรับการส่งเสริมดอกไม้ประจำชาติของเราให้โลกรู้ แต่ครั้งหน้าอย่าลืมให้เครดิตเจ้าของด้วยนะคะ และโปสเตอร์ควรจะเป็นเหมือนภาพนี้ ขอเตือนว่าอย่าลืมวัฒนธรรมของตนเอง หรือรากเหง้าของตนเอง ถ้ายังไม่รู้ ก็เข้าไปค้นหาบนกูเกิลได้นะ"
จากนั้นมีชาวไทยเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก พร้อมกับมีการถกเถียง บ้างก็ระบุว่าแค่เรื่องดอกไม้ทำไมจะต้องนำมาให้กลายเป็นที่ถกเถียงกันด้วย นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตหลายรายได้ให้ข้อมูลความรู้กลับไปถึงชาวกัมพูชาอีกว่า ดอกลำดวนก็พบได้ทั่วไปในหลายประเทศ แถมยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ และยิ่งไปกว่านั้นไทยยังมีขนมที่ชื่อว่า “ขนมกลีบลำดวน” อีกด้วย
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวล่าสุดมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นแล้วกว่า 14,000 ครั้ง พร้อมกับแชร์เรื่องราวดังกล่าวอีกกว่า 1 หมื่นครั้งด้วยกัน
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ค.) ทางเพจ "GDH" ได้อัปเดตภาพยนตร์ว่าเหลืออีกเพียง 4 วัน พร้อมนำดอกชงโคมาประกอบภาพ และระบุข้อความว่า "ดอกชงโคแทนความรักที่ซื่อสัตย์"
สำหรับดอกชงโคนั้นถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกง คงต้องรอดูว่าชาวเน็ตฮ่องกงหากเห็นภาพนี้แล้วจะรู้สึกอ่อนไหวเหมือนกับชาวเน็ตจากประเทศกัมพูชาหรือไม่
ทั้งนี้ ดอกชงโคนั้นถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการส่งมอบคืนให้จีน เดิมมีรูปแบบเป็นดอกไม้สมมาตรที่วาดด้วยเส้นเดียวบนพื้นหลังสีแดง ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ซึ่งรูปแบบของธงฮ่องกงในปัจจุบันคัดเลือกมาจากการประกวดออกแบบธงใหม่เมื่อปี 2530 ภายใต้แนวคิด "1 ประเทศ 2 ระบบ" อันหมายถึงสถานะของฮ่องกงที่มีอำนาจในการปกครองและบริหารจัดการกิจการภายในดินแดนของตนเอง ขณะที่ประชาชนฮ่องกงจะได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพที่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย แม้ว่าจะอยู่ภายใต้รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนแผ่นดินใหญ่ก็ตาม
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวล่าสุดมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นแล้วกว่า 14,000 ครั้ง
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่