xs
xsm
sm
md
lg

ความสัมพันธ์ของ ร.๕ กับราชวงศ์รัสเซียเกินกว่าที่คิด! พระราชชนนีพระเจ้าซาร์รับ ร.๕ เป็นพระราชโอรส!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โรม บุนนาค



เป็นที่ทราบกันดีกว่า ความสัมพันธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย คือสมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัสที่ ๒ นั้น เป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้งและจริงใจต่อกันมาตั้งแต่ครั้งเจ้าชายนิโคลัสยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาเยือนสยามในปี พ.ศ.๒๔๓๔ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จไปเยือนรัสเซียในปี ๒๔๔๐ ขณะเจ้าชายนิโคลัสได้ขึ้นครองราชบัลลังก์แล้ว พระเจ้าซาร์ทรงจัดให้ฉายพระรูปคู่ของกษัตริย์ ๒ พระองค์ออกเผยแพร่ไปทั่วยุโรปในช่วงเวลาที่สยามกำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากนักล่าอาณานิคม จึงเป็นภาพที่มีผลต่อประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างมาก แต่ความสัมพันธ์ของทั้ง ๒ พระองค์ ยังลึกซึ้งกว่านั้นอีกอย่างน่าอัศจรรย์
 
ในการเสด็จเยือนยุโรปครั้งที่ ๑ ในปี ๒๔๔๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งจักรี ออกจากท่าราชวรดิฐในวันที่ ๗ เมษายน ไปขึ้นฝั่งที่เมืองเวนิชในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม และเสด็จเยือนยุโรปหลายประเทศ ก่อนจะถึงเป้าหมายที่สำคัญคือรัสเซีย
 
เมื่อเสด็จไปถึงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ ซึ่งอยู่ในความปกครองของรัสเซีย สมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัสก็ทรงส่งโทรเลขมาต้อนรับด้วยความยินดีแล้ว และเมื่อรถไฟพระที่นั่งถึงสถานีเมืองปิเตอร์ฮอฟ ซึ่งเป็นที่ตั้งพระราชวังฤดูร้อน ทันทีที่ก้าวพระบาทลงสู่สถานี พระเจ้าจักรพรรดินิโคลัสในเครื่องแบบเต็มยศ ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรี ที่ได้รับพระราชทานเมื่อครั้งเสด็จมาเยือนสยาม พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการก็เข้ามาต้อนรับ พระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิริยศิริ) ได้บันทึกตอนนี้ไว้ใน “จดหมายเหตุเสด็จประพาสยุโรป ร.ศ.๑๑๖” ไว้ว่า “...พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์มีพระราชหฤทัยโสมนัสยินดี ต่างพระองค์ทรงคำนับและทรงกอดรัดจุมพิตตามขัตติยราชประเพณี...”

การจัดการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ของสมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัสนั้น ยิ่งใหญ่และอบอุ่นยิ่ง ซึ่งพระยาศรีสหเทพบันทึกไว้ว่า

“ในพระราชวังปีเตอร์ฮฟที่ประทับนี้ สมเด็จพระเจ้าเอมเปรอจัดให้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับ มีห้องสำหรับพระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าลูกยาเธอ และราชองครักษ์ ในพระราชวังเดียวกัน ส่วนข้าราชการจัดให้พักที่บ้านมิคกันเบิร์กในเขตพระราชวังปิเตอร์ฮฟ แต่ไกลจากที่ประทับประมาณ ๒๐ เส้นเศษ ในพระราชวังปิเตอร์ฮฟนี้จัดตกแต่งงามเต็มที่อันพึงจะจัดได้ สิ่งใดที่จะเป็นของประกอบให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชสำราญเจ้าพนักงานจัดให้มีทุกอย่าง ข้างหน้าพระราชวังเป็นสวนชายทะเลมีถนนไปมาและต้นไม้อันงาม ในหมู่ต้นไม้เหล่านี้มีน้ำพุขึ้นสูงราวกึ่งเส้นเป็นอันมากแลดูขาวไสว แลสองฟากถนนลงทะเลตรงพระราชวังลงไปมีน้ำพุ ๒ แถว ปานว่าเป็นต้นไม้แก้วงามมาก ทั้งในเวลานี้เจ้าพนักงานจัดจุดประทีปและแต่งกายเป็นเกียรติยศทั่วในเมืองปิเตอร์ฮฟ ความงามของการตกแต่งรับรองและความงามในที่ใกล้เคียงพระราชวังเหลือที่จะพรรณนาด้วยตัวหนังสือได้

ในเวลาเย็นวันนี้ (๔ กรกฎาคม ค.ศ.๑๘๙๗) สมเด็จพระเจ้าเอมเปรอกรุงรัสเซีย ทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการบรรดาตามเสด็จพระราชดำเนิน เสวยพระกระยาหารเย็นเป็นทางการ ณ ที่ห้องเปียระในวังปิเตอร์ฮฟ แต่งตัวเต็มยศ ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์...ครั้นถึงเวลาเลี้ยงของหวาน สมเด็จพระเจ้าเอมเปอเรอกรุงรัสเซียทรงยืนขึ้นมีพระราชดำรัสว่า ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพระองค์ในเมืองของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้มีโอกาสขอบพระทัยที่ได้ทรงเมตตารับรองข้าพเจ้าในเวลาที่ข้าพเจ้าไปถึงกรุงสยาม ข้าพเจ้ายังจำได้ดีที่ได้ทรงต้อนรับข้าพเจ้าโดยทรงเมตตาอย่างเพื่อนอันสนิทในพระนครของกรุงสยามได้ดีทุกอย่าง ข้าพเจ้าขอดื่มถวายชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกรุงสยาม บรรดาผู้นั่งโต๊ะดื่มถวายชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมกันแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยืน มีพระราชดำรัสตอบว่า “ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเฝ้าพระองค์ถึงกรุงรัสเซีย การที่พระองค์ได้เสด็จไปยังกรุงสยามนั้น ข้าพเจ้าและคนทั้งหลายในกรุงสยามยังจำได้โดยความยินดี ข้าพเจ้าถือว่าพระองค์เป็นมิตรผู้ทรงพระเดชานุภาพ ข้าพเจ้ามีความพอใจในการที่ได้ทรงจัดการต้อนรับข้าพเจ้าเป็นอันมาก ข้าพเจ้าขอขอบพระทัยจากดวงจิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอดื่มถวายชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าเอมเปรอกรุงรัสเซีย”

ในพระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯที่พระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อยู่ทางกรุงเทพฯ ฉบับที่ ๓๘ มีความตอนหนึ่งว่า

“ด้วยฉันตั้งใจจะเขียนหนังสือแต่หาช่องไม่ได้ เต็มไปด้วยการรับรองทั้งสิ้น การที่วันนี้เราเป็นกันเองมากกว่าอย่างอื่น แต่การที่เป็นยศศักดิ์ก็ไม่ขาดด้วย จึงได้มากมายนักไม่มีเวลาแต่งอย่างอื่น นอกจากเต็มยศกับครึ่งยศดำ แต่มาถึงวันนี้มีเวลาพบกับเอมเปอเรอและเจ้านายเสมอไม่ใคร่ขาด ดูเหมือนเราเป็นคนหนึ่งในพี่น้องเอมเปรสส์แม่ (สมเด็จพระชนนีของสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดินิโคลัส) และเอมเปรสส์สาว (สมเด็จพระจักรพรรดินี) อี๋ (เอาอกเอาใจ)ไปทั้งสิ้น เวลาเต็มหมด ไม่ได้กินข้าวบ้านเลยสักเวลาเดียว ส่วนราชการก็เดินดี...แต่ที่รัสเซียนี้เป็นไปคนละอย่างกับที่อื่น คือใครๆในเจ้านายโจมถึงตัวฉันกันทั้งนั้น ขุนนางเกือบไม่ได้ปนเลย ที่สุดจนเจ้านาย ถ้าเป็นเวลาเจ้านายเขาไปจึงจะเข้าได้ หาไม่ก็มีแต่ฉันกับเอมเปอเรอขลุกกันอยู่ ๒ คนเท่านั้น ไปไหนก็ไปกัน ๒ คน ไม่มีใครตาม เที่ยวเตร่ไปแต่สารถีคนเดียว”

ในพระราชหัตถเลขาฉบับที่ ๓๙ ทรงย้ำถึงความสนิทสนม จนการพบปะหารือของทั้งสองพระองค์ไม่มีพิธีการใดๆ ดังความว่า

“...เมื่อวานนี้รวมเบ็ดเสร็จอยู่ด้วยกันกับเจ้านายและเอมเปอเรอถึงหกชั่วโมง มีเวลาว่างก็พูดราชการกับเคานต์มูราเวียฟ (เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศ) แลทำโทรเลขส่งบางกอก ฉันกับเอมเปอเรอนั้นพูดราชการกันในรถทั้งนั้น ไปกันแค่สองคนนานๆ”

พระราชไมตรีได้งอกงามจนถึงขีดสุด ความสัมพันธ์ของสองราชวงศ์ได้กลายเป็นความรักความผูกพันดุจเครือญาติ ดังได้ทรงพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม มีความว่า

“ฉันไม่สามารถจะพรรณนาได้ว่าฉันรู้สึกยินดีปานใดที่ได้กลับมาถึงที่นี้อีก (กลับมาจากเยือนเมืองมอสโค) ได้กอดได้จูบกับเอมเปอเรอหลายครั้ง แล้วขึ้นรถไปที่เอมเปรสด้วยกัน ฉันได้นำลูกชายของเราให้เฝ้าทั้งเอมเปอเรอและเอมเปรส ทรงพระกรุณาแก่เขาเป็นอันมาก เอมเปรสประธานเข็มกลัดแก่เธอเป็นรูปมหามงกุฎของประเทศนี้ ซึ่งเป็นของทำเฉพาะสำหรับพระราชทานแก่เอมเปรสและดัชเชสทั้งหลายในเวลาราชาภิเศกนั้น และเป็นเครื่องหมายสำคัญของผู้ซึ่งเป็นพระประยูรญาติในพระบรมราชวงศ์นี้ ซึ่งเอมเปรสรับสั่งว่าทรงนับว่าเธอก็อยู่ในพระบรมราชวงศ์นี้ด้วยผู้หนึ่ง ได้รับพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าเอมเปอเรออเล็กซานเดอร์ที่ ๓ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือเป็นอันมาก กับซองบุหรี่ซิการ์แรตที่มีอักษรจารึกว่า “ของเพื่อนให้” ฉันชอบสองสิ่งนี้ว่ามีราคามากยิ่งกว่าของสิ่งอื่นๆที่ฉันได้รวมกันทั้งหมด แล้วได้พร้อมกับสมเด็จเอมเปรสพระราชชนนี (สมเด็จพระราชชนนีของสมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัส) ซึ่งได้ทรงรับรองพวกเรานั้น แลเอมเปรสพระราชชนนีได้รับสั่งซ้ำอยู่หลายครั้งว่า ทรงรู้สึกคิดถึงฉันในเวลาที่ฉันไม่อยู่นั้น เอมเปรสพระราชชนนีได้ประธานซองบุหรี่ซิการ์แรต มีอักษรจารึกเหมือนกันกับที่ฉันเขียนจารึกบนพระรูปนี้ด้วย เอมเปรสพระราชชนนีได้รับสั่งถึงเธอด้วยพระกรุณาอย่างยิ่ง ทรงส่งกำไรมือประดับเพงชรแลไข่มุกอันงามมาประทานเธอด้วย เอมเปรสพระราชชนนีได้ทรงเมตตาแก่มกุฎราชกุมารด้วยเสมอกัน พวกเราได้กินกลางวันกับเอมเปรสพระราชชนนีนั้น ฉันรู้สึกเหมือนดังอยู่ในเรือนญาติอันสนิท เหมือนไม่ต้องมีพิธีรีตองอันใด ไม่ต้องไว้เกียรติอันใดต่อกันเลย เราเล่นหัวโลดเต้นเหมือนดังอยู่ในบ้านเรือนของเราเองฉะนั้น พระรูปของเอมเปรสที่ถ่ายที่หลังสุดนั้นไม่สู้ดี ได้ทรงถ่ายใหม่ในวันนี้ ซึ่งเอมเปรสพระราชชนนีรับสั่งว่าจะส่งตรงไปทำให้เธอประหลาดใจที่ได้รับนั้นทีเดียว ช่างถ่ายรูปหลวงของกรุงสยาม ตามที่พวกเราเรียกเขาเช่นนี้ ก็คือแกรนด์ดุกไมเคอร ได้ถ่ายรูปพวกเราพร้อมด้วยเอมเปรสและพระราชบุตรทั้ง ๒ ของเอมเปรสด้วย เชื่อว่าคงสำเร็จได้ด้วยดี ฉันอยากให้เธอมาที่นี่ด้วยกันจริงๆ เธอจะได้เห็นความสุขสบายแลความรักที่มีต่อกันในพระราชวงศ์นี้ ฉันยังไม่เคยเห็นครอบครัวที่มีความสุขแลรักใคร่ต่อกันสนิทสนมเช่นนี้เลย ได้อยู่ที่นั่นหลายชั่วโมงแล้ว เอมเปอเรอเสด็จมาพร้อมกับฉันถึงที่ห้องฉัน ค่ำวันนี้จะกินอาหารเย็นที่วังเอมเปอเรอ”

ภาพแห่งความผูกพันแลอาลัยรักของทั้งสองพระราชวงศ์ได้ปรากฏอย่างแจ่มชัดในวันที่พระบรมวงศานุวงศ์ของทั้ง ๒ ราชวงศ์ต้องพรากจากกัน ในพระราชหัตถเลขาพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี มีความว่า

“ด้วยวันนี้เบร็กฟัส (อาหารเช้า) ส่งเจ้านายทั้งปวงช่างคุ้นเป็นกันเองไปหมด เอมเปรสพระราชชนนีเกือบจะทรงพระกรรแสง สั่งแล้วสั่งเล่ารับปวาราณาจะคิดว่าฉันเป็นลูก ฉันก็คิดว่าเป็นแม่ตั้งแต่นี้ไป ทุกวันเป็นแต่จูบกัน วันนี้ตกลงเป็นแม่ลูกกันแล้ว เอียงพระปรางให้ฉันจูบ บรรดาลูกทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ต่างคนต่างจูบกันกับฉันทุกคน ลูกเราเอมเปรสก็เข้าไปจูบเป็นหลานไปหมดทั้งนั้น”

“ลูกเรา” นี้ ก็คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร

ความสัมพันธ์ของ ๒ ราชวงศ์ที่ต่างทวีป ต่างผิวพรรณ ต่างศาสนาและขนบธรรมเนียม ซึ่งเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์นี้ เป็นความประทับใจที่ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและรัสเซีย ขอขอบคุณข้อมูลจาก “พระสหายกับเอกราชสยาม” วารสารรัสเซียศึกษา (ฉบับพิเศษ) ของศูนย์รัสเซียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย ดร.รมย์ ภิรมนตรี ซึ่งยังมีรายละเอียดกว่านี้อีกมาก




กำลังโหลดความคิดเห็น