นายภาคภูมิ ศิริโรจน์วงศ์ ประธานคณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุคดี "ลันลาเบล" ฝากข้อคิดปมสาวคอนโดฯ ติดวัดโวย พระสวดศพเสียงดัง-ทำงานไม่ได้ จนกลายเป็นประเด็นทางสังคม วอนถ้อยทีถ้อยอาศัย ชี้วัดอยู่มาก่อน เรารำคาญเขา เขาก็อาจจะรำคาญเราอยู่ก็ได้
จากกรณีหญิงรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในคอนโดฯ ย่านตลาดพลู ใกล้กับวัดบางสะแกนอก ออกมาโวยวายว่าพระสวดศพเสียงดัง-ทำงานไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าได้มีการปะทะคารมกับชาวบ้านบริเวณนั้นอีกด้วย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าวัดอยู่มาก่อนที่คอนโดฯ จะสร้างเสียด้วยซ้ำ ซึ่งวัดมีอายุมากกว่า 400 ปี เมื่อผู้เช่าเลือกจะมาอยู่และมาทีหลังก็ต้องปรับตัวให้ได้ อีกทั้งทางวัดก็ได้มีนโยบายลดหย่อนมาตรการมากมายเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Bigg Sirirojwong" หรือ " ดร.ภาคภูมิ ศิริโรจน์วงศ์" ประธานคณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านตลาดพลู ได้ออกมาโพสต์ข้อความฝากเป็นข้อคิดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ว่า
"วัดอยู่มา 400 ปี ส่วนคอนโดฯ เพิ่งสร้างปี 2558 ตอนก่อสร้างคอนโดฯ วัดก็ได้รับผลกระทบ คอนโดฯ เสร็จกลายเป็นกำแพงบังลมบังวัด ถนนผ่ากลางวัดเปิดทางสาธารณะให้คอนโดฯ คอนโดฯ มาอยู่แต่วัดยังคงประกอบพิธีทางศาสนาเหมือนเดิม คนคอนโดฯ ทนเสียงรบกวนจากการสวดศพไม่ได้ แต่วัดก็ต้องทนกับคอนโดฯ เช่นเดียวกัน
ความเจริญยังไงก็ต้องเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การอยู่กันอย่างผสมกลมกลืนทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม คนรุ่นใหม่คนรุ่นเก่า คนอยู่ใหม่คนดั้งเดิม ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเป็นคุณสมบัติของคนไทยอยู่แล้ว พ่อผมสอนอยู่เสมอว่า ในขณะที่เราคิดว่าเราต้องทนกับคนอื่นเขา คนอื่นเขาอาจจะทนเราอยู่ด้วยก็ได้"