xs
xsm
sm
md
lg

"นักวิจัยด้านไวรัสฯ" เล่าเห็นภาพ สาเหตุฉีดวัคซีนหลายเข็มแต่ยังป้องกันการติดเชื้อไม่ค่อยได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เล่าให้เห็นภาพชัด สาเหตุที่คนเราต้องฉีดวัคซีนหลายเข็ม และสาเหตุที่ทำไมฉีดไปหลายเข็มแล้วแต่ยังป้องกันการติดเชื้อไม่ค่อยได้

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "Anan Jongkaewwattana" เกี่ยวกับประเด็นฉีดวัคซีนไปหลายเข็มแล้วทำไมภูมิคุ้มกันถึงป้องกันการติดเชื้อไม่ค่อยได้ โดยได้ระบุข้อความอธิบายว่า

"ไปอ่านเจอบทความวิชาการชิ้นหนึ่งพร้อมรูปประกอบที่ตรงใจมากๆ ครับ สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจว่าฉีดวัคซีนไปหลายเข็มแล้วทำไมภูมิคุ้มกันถึงป้องกันการติดเชื้อไม่ค่อยได้ แต่สามารถป้องกันอาการรุนแรงของโรคได้อยู่ ถ้าเราเปรียบอวัยวะสำคัญที่ไวรัสเข้าทำลายแล้วจะมีอาการรุนแรง เช่น ปอด เป็นปราสาทใจกลางเมือง ปราสาทจะมีกำแพงเมืองกั้นไว้รอบด้าน ซึ่งกำแพงเมืองนั้นคือ mucosa หรือเยื่อเมือกที่มีเซลล์ที่ไวรัสติดได้ รอบกำแพงเมืองจะมีน้ำล้อมรอบ ซึ่งก็คือ น้ำลาย หรือเสมหะต่างๆ ลำพังแค่น้ำล้อมรอบไม่เพียงพอต่อการตีกำแพงของไวรัสแน่นอน ร่างกายจึงต้องมีทหารคอยป้องกันเมือง ขอให้สังเกตทหารในภาพจะมีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกจะมีสีเหลือง (ชื่อว่า IgA) คือทหารยามประจำการอยู่ที่กำแพงเมืองเป็นหลัก มีจำนวนน้อยจะเข้ามาภายในบริเวณปราสาท ประเภทที่สองจะมีสีน้ำเงิน (ชื่อว่า IgG) เป็นกองกำลังสำคัญมีกำลังพลสูงกว่า IgA มาก และหน้าที่หลักคือคุ้มครองปราสาทในกลางเมือง บางคนพบได้จะขึ้นไปที่กำแพงเมืองแต่ก็เป็นส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับพวกที่อยู่ด้านล่าง จริงๆ ในเมืองมีกองกำลังที่เป็น T cell อยู่ด้วย แต่เพื่อความไม่ซับซ้อนมาก เอา T cell ไปไว้ที่อื่นก่อนนะครับ

ในสภาวะที่เมืองจะปลอดภัยจากการรุกรานของศัตรูจะเห็นว่ากำแพงเมืองต้องเข้มแข็ง ทหารยาม IgA ต้องมีอยู่เป็นจำนวนมากเพียงพอที่จะดักจับ และป้องกันศัตรูที่ข้ามแม่น้ำมา ซึ่งในช่วงนั้นจำนวนที่ข้ามมาได้จะไม่มาก ทหารยามสามารถป้องกันเมืองได้แบบไม่ยากเย็นนัก แต่เมื่อทหารยามไม่มี หรือมีไม่เพียงพอ ข้าศึกเข้าประชิดกำแพงเมืองและเข้าสู่บริเวณภายในกำแพงได้ไม่ยาก แต่เมื่อเข้ามาแล้ว การตีเข้าไปในปราสาทไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทหารกำลังหลักมีอยู่เต็มไปหมด พร้อมจัดการกับข้าศึกเพื่อป้องกันปราสาทไว้ โดยทั่วไปความสามารถของทหาร IgG สูงจะชนะข้าศึกได้ไม่ยาก ถ้ามีปริมาณไม่น้อยเกินไป ข้าศึกจะถูกกำจัดหมด ยกเว้นข้าศึกเปลี่ยนไปแบบมีการอำพรางตัวเอง หรือใช้อาวุธพิเศษที่ทหาร IgG ไม่เคยถูกฝึกมาก่อน ปราสาทอาจถูกเข้าทำลายได้ แต่อย่าลืมว่า เมืองยังมี T cell ที่คอยช่วยทหาร IgG ไว้อีกแรง ซึ่ง T cell จะมีบทบาทสูงมากที่จะป้องกันเมืองในบริบทนี้ ในกรณีที่เมืองถูกเข้าทำลายได้ นั่นหมายความว่า ทั้ง IgG และ T cell เอาไม่อยู่ และแพ้สงครามครั้งนี้

ประเด็นเรื่องของวัคซีนที่เราฉีดกระตุ้นกัน ก็คือ การเพิ่มกำลังทหาร IgG และ T cell ให้มากขึ้นเพื่อป้องกันปราสาท แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัด ทหารที่เกณฑ์มามากขึ้นถ้าไม่ได้ทำงาน ก็จะปลดประจำการเหลือให้เพียงพอต่อการป้องกันเมือง ทหารที่มากๆก็จะอยู่กับเมืองไม่นาน แต่การฉีดวัคซีนไม่ช่วยให้ทหารยาม IgA บนกำแพงเมืองสูงขึ้นแต่อย่างใด ทหารกลุ่มนี้จำเป็นต้องถูกกระตุ้นด้วยวัคซีนแบบอื่นที่ยังไม่มีใครนำมาใช้ เช่น ผ่านทางพ่นจมูก หรือจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ดังนั้น ถึงแม้เราจะมีกองกำลังป้องกันเมืองมากแค่ไหน ทหาร IgG เหล่านั้นก็ไม่สามารถปีนกำแพงขึ้นมาป้องกันข้าศึกได้อยู่ดี ทำได้อย่างเดียวคือตั้งรับและป้องกันข้าศึกไม่ให้เข้าไปในปราสาทได้ แต่แน่นอนการสู้รบย่อมมีความเสียหายออกมาในรูปของอาการป่วยต่างๆจากการสู้แต่ละครั้ง การสู้รบแต่ละครั้งยังเป็นการฝึกให้ทหารเราเก่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าข้าศึกหน้าเดิมๆ เข้ามาอีกจะยากมากที่จะผ่านทหารเหล่านั้นได้ เสียดายที่ข้าศึกก็ไม่ใช่ "ไวรัสกระจอก" 3 ปีที่ผ่านมาสร้างความปั่นป่วนแบบไม่คาดคิดมาเยอะมาก และเดาไม่ออกว่าจะมาไม้ไหนอีกครับ"
กำลังโหลดความคิดเห็น