“ไทยอามส์” (THAI ARMS) ปลื้มสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย เลือกนำกระสุนปืนของบริษัท ใช้ในการแข่งขันในระดับ world class “IPSC Handgun World Shoot 2022, Pattaya Thailand" ที่จะจัดขึ้นในปลายปี พร้อมเผยแผนเตรียมขยายฐานการผลิตครั้งใหญ่ บนพื้นที่กว่า 700 ไร่ จ.ลพบุรี ต่อยอดธุรกิจภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศตามนโยบายภาครัฐ S-curve 11
นายวีรพงศ์ ช่วงแก้ววิเศษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ไทยอามส์ จำกัด (THAI ARMS) บริษัทผู้ผลิตกระสุนมาตรฐานชั้นนำของเมืองไทย กล่าวภายในงาน TA Move Forward ถึงความสำเร็จที่ผ่านมา และการถูกคัดเลือกจากสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย ( THPSA ) นำกระสุนไทยสู่การแข่งขันระดับ world class “IPSC Handgun World Shoot 2022, Pattaya Thailand” ที่มีกำหนดจัดขึ้นในปลายปีนี้ว่า ที่ผ่านมา บริษัท ไทยอามส์ จำกัด และสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวความคืบหน้า ในการแข่งขันกีฬายิงปืน “IPSC Handgun World Shoot 2022, Pattaya Thailand” ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2565 นี้ ที่ พัทยา จ.ชลบุรี นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของ “THAI ARMS” กับการเข้าไปอยู่ในใจของนักกีฬาในฐานะกระสุนปืนคุณภาพ ที่นักกีฬาเชื่อมั่นและยอมรับในมาตรฐานให้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในทุกแมทซ์สำคัญของพวกเขา และเป็นหนึ่งในความสำเร็จของเราที่มากกว่าธุรกิจ คือ ได้สร้างภาพจำที่ดี ของ THAI ARMS สู่สายตาชาวโลก
ทั้งนี้ ไทยอามส์ (THAI ARMS) เป็นผู้ผลิตกระสุนปืนของไทย ที่มีอายุยาวนานกว่า 45 ปี บริษัทได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2519 ได้รับการอนุญาตให้ผลิตกระสุนปืนพก กระสุนปืนเล็กยาว กระสุนปืนลูกซอง และวัตถุระเบิดที่ใช้ในการอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ภายใต้การได้รับอนุญาตและควบคุมโดย กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดย THAI ARMS มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน รวมทั้งการได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ของโลกอย่าง บริษัท ฟอนเทียร์ เมทัล โพเซสซิ่ง จำกัด (Frontier Metal Processing (Pty) Ltd.) บริษัทผลิตกระสุนชั้นนำของโลก จากประเทศ South Africa ที่ทุกประเทศทั่วโลกรู้จักและให้การยอมรับ และบริษัท เอเทค เมทัล โซลูชั่น จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตหัวกระสุนชั้นนำของไทย มาร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและสายการผลิต เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน เสริมศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการตลาด ซึ่งการผนึกกำลังกับ Frontier Metal Processing ยังสะท้อนถึงการเป็นผู้ผลิตในระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
“ในการขยายเข้าไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ไทยอามส์ มีความพร้อมที่จะเป็นกำลังสำรองด้านการผลิต เพื่อความมั่นคงของชาติ และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ได้ถูกนำเข้ามาเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในนโยบาย S-curve 11 ตามยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล”
นายวีรพงศ์ กล่าวว่า เราได้รับปัจจัยบวกในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าของโครงการขยายฐานการผลิตบนพื้นที่กว่า 700 ไร่ ในจังหวัดลพบุรี ซึ่งดำเนินไปตามเป้าหมายและได้รับการรับรอง EIA (Environmental Impact Assessment Division) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งความพร้อมด้านการนำเข้าวัตถุดิบ เครื่องจักร ตลอดจนเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่นับได้ว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยีระดับโลก ตามสิทธิประโยชน์บัตรส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งบริษัทฯ เป็นธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ เป็นการส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ และสนองตอบนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายลำดับที่ 11 อย่างเป็นรูปธรรม นำพาประเทศไปสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป