วัดคงคาราม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเกาะสมุย สร้างขึ้นราวร้อยกว่าปีก่อน แต่สร้างมาเมื่อใดไม่มีหลักฐาน เดิมมีชื่อวัดลิปะใหญ่ แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดปะ” ต่อมาเมื่อราว ๖๐ ปีก่อนต้องกลายเป็นวัดร้าง เพราะพระที่มาจำพรรษามีอันเป็นไปต่างๆนานา บางรูปเผ่นออกจากวัดไปทั้งๆอยู่ในพรรษา บางรูปก็ร้ายแรงถึงขั้นมรณภาพทั้งๆที่ยังแข็งแรงดีไม่มีโรค
ไม่แต่พระสงฆ์เท่านั้น ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดในวันพระ ๘ ค่ำ หรืองานกุศลที่ทางวัดจัดขึ้น บางคนอยู่ดีๆก็เกิดเป็นลมหน้ามืด ล้มลงชักตาค้าง แม้แต่พวกหนังตลุงและมโนราห์ หากนำบวนผ่านหน้าวัดแล้วไม่มีการรำถวาย ก็จะเกิดเป็นไปในทางที่ไม่ดีต่างๆนานา ชาวบ้านพยายามล้างอาถรรพ์โดยนิมนต์พระจากวัดอื่นมาสวดไล่ความชั่วร้าย แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นเหมือนเดิม จนทำให้วัดลิปะใหญ่กลายเป็นวัดร้างอยู่หลายปี เพราะไม่มีพระกล้ามาอยู่
ต่อมาในราวปี ๒๔๗๕ ชาวบ้านได้ไปนิมนต์หลวงพ่อพร้อมจากอำเภอไชยามาบูรณะวัดลิปะใหญ่ขึ้นใหม่ หลวงพ่อพร้อมท่านนี้ก็คือพระครูวิบูลย์ทีปรัต เป็นน้องชายของหลวงพ่อพริ้ง หรือพระครูอรุณกิจโกศล อาจารย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวกันว่า เมื่ออายุ ๑๘ ปี หลวงพ่อพร้อมได้ไปทำงานเก็บรังนกที่เกาะอ่างทอง ในอำเภอเกาะสมุย ต่อมาถูกชักชวนไปอยู่เขาพนมแบบซึ่งเป็นที่ชุมนุมของชายฉกรรจ์ที่มีอาชีพไม่สุจริต จนพี่ชายต้องบุกป่าฝ่าดงไปเอาตัวน้องชายออกมาจากดงโจร ให้ผนวชในปี ๒๔๕๘
เมื่อหลวงพ่อพร้อมมาถึงวัดลิปะใหญ่ก็พบว่าอยู่ในสภาพทรุดโทรม พระประธานในโบสถ์ก็ไม่มี มีแต่พระพุทธรูปองค์เล็กขนาดหน้าตัก ๙ นิ้วอยู่องค์เดียว
สิ่งแรกที่ท่านจัดการก็คือ ระดมชาวบ้านตัดไม้บนเขามาสร้างกุฏิและศาลาการเปรียญ เหตุการณ์ก็เป็นปกติดี ต่อมาขณะจำวัดครึ่งหลับครึ่งตื่นก็มีชายคนหนึ่งอายุราว ๕๐ เศษๆ รูปร่างอ้วนเตี้ย ผิวดำ นุ่งผ้าโจงกระเบนมาพบ และบอกกับท่านด้วยหน้าตาถมึงทึงว่า
“ท่านจะมาอยู่วัดนี้ไม่ได้ เสร็จแล้วก็รีบไปเสีย”
หลวงพ่อพร้อมเล่าว่า ท่านจึงตอบชายผู้นั้นไปว่า
“อาตมาไม่ไปหรอก อาตมาไม่ได้มาเอง ชาวบ้านเขานิมนต์มา”
ชายผู้นั้นก็ยืนยันว่า
“ใครจะนิมนต์มาก็ไม่สำคัญ ผมไม่ให้ท่านอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน”
หลวงพ่อพร้อมรู้สึกประหลาดใจที่มีคนมาไล่ให้ออกจากวัด จึงถามไปว่า
“อ้าว อยู่ดีๆก็มาไล่อาตมาให้ออกจากวัด ก็ชาวบ้านเขานิมนต์อาตมามา แล้วโยมมีสิทธิ์อะไรล่ะ ถึงมาไล่อาตมา โยมเป็นใครล่ะ”
“ผมชื่อคงคา เป็นผู้สร้างวัดนี้” ชายผู้นั้นตอบ
“แล้วตอนนี้โยมอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ผมยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด กระดูกผมอยู่ในบัวหลังโบสถ์นั่นแหละ”
หลวงพ่อพร้อมนึกได้ทันที ที่ด้านหลังโบสถ์มีสถูปเล็กๆ ฐานกว้างประมาณ ๑ เมตร สูงไม่เกิน ๒ เมตรอยู่หลังหนึ่ง ที่แท้เป็นที่บรรจุกระดูกของผู้สร้างวัดนี่เอง จึงบอกไปว่า
“โยมเป็นผู้สร้างวัดก็ไม่น่าจะมาก่อความวุ่นวายขึ้นในวัด โยมน่าจะไปผุดไปเกิดได้แล้ว”
“ผมไม่ไป ท่านนั่นแหละต้องไป ไม่งั้นต้องเห็นดีกัน”
จากนั้นผีนายคงคาก็หายวับไปโดยไม่มีการร่ำลา
หลวงพ่อพร้อมทราบทันทีว่า เหตุที่พระสงฆ์องคเจ้าที่มาอยู่วัดนี้ต้องมีอันเป็นไปต่างๆนานา ก็เพราะผีเจ้าวัดนี่เอง จึงให้ชาวบ้านจัดสำรับคาวหวานไปวางที่บัวหลังโบสถ์ทุกวันพระขึ้น ๘ ค่ำเป็นประจำ กระนั้นก็ตาม หากวันไหนลืมจัดอาหารไปสังเวยแล้ว ก็จะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอีก เช่นเป็นลมล้มชักดิ้นชักงอ แต่เมื่อรีบเอาอาหารไปเซ่น คนป่วยก็หายเป็นปกติ
หลังจากหลวงพ่อพร้อมสร้างกุฏิและศาลาการเปรียญแล้ว ก็ดำริจะสร้างพระประธานไว้ในโบสถ์ จึงปรึกษาชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านก็เห็นดีเห็นชอบ ต่างนำสิ่งของต่างๆที่เป็นทองเหลืองมาถวาย ท่านจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อติดต่อช่างที่บ้านช่างหล่อให้หล่อพระประธาน
ก่อนหน้าที่หลวงพ่อพร้อมจะเข้ากรุงเทพฯ ผีนายคงคาก็มาไล่ท่านอีก ๒-๓ ครั้ง พอท่านกลับจากกรุงเทพฯผีนายคงคาก็มาพบอีก
“ท่านดีนะที่สร้างพระประธานให้วัดนี้” ผีผู้สร้างวัดบอก
“ก็อาตมาทำเพื่อส่วนรวม อาตมาฉันบิณฑบาตของชาวบ้าน ชาวบ้านไปนิมนต์มาแสดงว่าเมีทุกข์”
“ท่านเป็นคนมีความคิดดี” ผีเจ้าวัดชม “แต่เมื่อสร้างเสร็จต้องไปนะ ผมไม่ต้องการให้ท่านอยู่”
“อาตมาจะอยู่” หลวงพ่อพร้อมยืนยัน “โยมไม่มีชีวิตแล้ว มีแต่กายทิพย์กับจิตวิญญาณ ไม่น่าจะมาห่วงกับวัดที่สร้างให้เป็นสาธารณะ”
“ถึงผมจะตายไปแล้ว ผมเป็นผู้สร้างผมก็จะอยู่ที่นี่ ท่านไปเสียเถอะ ถ้าขัดขืนก็ได้เจอดีกัน”
วันเวลาได้ผ่านไปจนหลวงพ่อพร้อมได้พระประธานจากกรุงเทพฯมาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดลิปะใหญ่เรียบร้อย ชาวบ้านได้จัดงานสมโภชด้วยความอิ่มเอิบใจโดยไม่มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เริ่มเจ็บตา แรกๆก็คิดว่าเป็นแค่ตาแดง แต่รักษายังไงก็ไม่ได้ผล จนกระทั่งคืนหนึ่งผีนายคงคาก็มาไล่อีก ให้รีบออกจากวัดเร็วๆ ไม่งั้นจะเอาถึงตาย แต่หลวงพ่อพร้อมก็ไม่ยอมเหมือนเดิม จึงคิดว่าระหว่างท่านกับผีนายคงคานี้น่าจะทำอะไรสักอย่างให้เด็ดขาดไปเสียที
ในตอนบ่ายวันหนึ่ง หลวงพ่อพร้อมก็นำธนูคู่มือที่เคยใช้ไล่นกไล่กระรอกที่มากินผลไม้ มาเจาะมะพร้าวในวัดเป็นประจำ พร้อมกับกระสุนดินปั้น ๓ ลูก ตรงไปที่บัวเก็บกระดูกนายคงคาหลังโบสถ์ แล้วประกาศว่า
“เอาละ นายคงคา วันนี้เราจะได้เห็นดีกัน อาตมาจะยิงธนูไปที่บัวด้วยกระสุน ๓ ลูก ถ้าอาตมายิงผิดเพียงลูกเดียว อาตมาก็จะไปจากวัดในวันนี้ แต่ถ้าอาตมายิงถูกทั้ง ๓ ลูก อาตมาจะอยู่ที่นี่ต่อไป...”
ปรากฏว่าท่านยิงบัวที่บรรจุกระดูกของผู้สร้างวัดถูกทั้ง ๓ ลูก
คืนนั้นเอง ผีนายคงคาก็มาพบอีก และบอกว่า
“ท่านเป็นคนเก่งจริงๆ ท่านชนะแล้ว จงอยู่ต่อไปเถอะ ผมจะเป็นฝ่ายไปเอง”
“โยมไม่ต้องไปหรอก เราต้องอยู่ช่วยกันพัฒนาวัดให้เจริญ เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน และเป็นการสืบทอดพระศาสนาให้รุ่งเรืองต่อไป” หลวงพ่อพร้อมบอก
นับแต่นั้นเป็นต้นมา เหตุการณ์ในวัดก็สงบร่มเย็น ไม่มีเรื่องร้ายๆอย่างแต่ก่อนเกิดขึ้นอีก หลวงพ่อพร้อมได้เปลี่ยนชื่อวัดลิปะใหญ่เป็น “วัดคงคาราม” เพื่อเป็นเกียรติและอนุสรณ์ผู้สร้างวัด ส่วนหลวงพ่อพร้อม หรือ พระครูวิบูลย์ทีปรัต ได้มรณภาพเมื่อปี ๒๕๐๘
นี่ก็เป็นกุศโลบายของพระภิกษุสงฆ์องค์หนึ่ง ที่ได้สร้างวัดร้างให้กลับมาเป็นวัดที่รุ่งเรืองของเกาะสมุยในปัจจุบัน