ประธานบอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาลเผยยอดจำหน่ายสลากดิจิทัลผ่านแอปฯ เป๋าตังวันแรกขายได้กว่า 2.46 ล้านใบ ผู้ซื้อกว่า 6 แสนราย ชี้ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปเพราะต้องการให้คนขายสลากใบขายควบคู่กันได้ ด้าน ผอ.กองสลากแจงขั้นตอนขึ้นเงินรางวัลปกติเหมือนสลากใบ ฝากผู้ซื้อไม่ต้องกังวล
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงยอดการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มที่เรียกว่า "สลากดิจิทัล" (Digital Lottery) บนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หลังจากที่้เปิดจำหน่ายวันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) ว่า ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี ระบบมีความราบรื่น อาจจะเพราะเป็นการขายวันแรก เป็นเรื่องใหม่ จึงได้รับความสนใจ ที่สำคัญคือ สามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท โดยเมื่อวานนี้หลังจากสิ้นสุดเวลาจำหน่าย 23.00 น. มียอดจำหน่ายสลาก 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลาก 612,141 คน ใบ จากจำนวนสลากทั้งหมด 5,279,500 ฉบับ
ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มสลากดิจิทัลนั้น นายลวรณกล่าวว่า ต้องพิจารณาความเหมาะสม เนื่องจากสำนักงานสลากฯ ต้องการให้สลากแบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ และไม่ได้รับผลกระทบ จึงต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เห็นว่าสลากดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลากสามารถซื้อได้ อีกทั้งในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที นอกเหนือจากการซื้อสลากจากโครงการ "จุดจำหน่ายสลาก 80 บาท" ที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุดทั่วประเทศ ภายในเดือน ก.ค.นี้
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงวิธีการขึ้นเงินรางวัล ว่า กรณีที่ถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทาง คือ เลือกรับโดยการโอนเงิน เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่นได้เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ
ส่วนวิธีที่สอง สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัล เพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริงเพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ ก่อนเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารกรุงไทย ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
กรณีที่ถูกรางวัลสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มฯ จะต้องแจ้งในระบบว่า จะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ ภายใน 2 ปี โดยสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มสลากดิจิทัลที่ซื้อไว้จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงินโอนหลังจากที่แจ้งภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบการโอนเงินรางวัล ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากทุกคนไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้ สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุนจัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และส่งเสริมตัวแทนรายย่อย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์มซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเร่ขาย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบันประชาชนที่ซื้อสลากตามแผงจำหน่ายก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว ขอย้ำว่าสลากทุกใบเป็นของตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้ตัวแทนรายย่อยอีกด้วย